กวางโจว หนึ่งในเมืองที่ใหญ่ที่สุดของจีนเตรียมอนุญาตให้ชาวเมืองสามารถเชื่อมต่อข้อมูลบัตรประชาชนกับแอปพลิเคชันส่งข้อความและโซเชียลมีเดียอย่างวีแชท (WeChat) ได้แล้ว โดยใช้เทคโนโลยีการจดจำใบหน้า (Facial Recognition) ซึ่งจะทำให้วีแชทกลายเป็นแอปพลิเคชันที่มีความสำคัญมากยิ่งขึ้นสำหรับผู้บริโภคจีน
โดยสำนักข่าวซินหัวของจีนระบุว่า โครงการนำร่องดังกล่าวจะมีขึ้นที่เมือง Nansha ก่อนในสัปดาห์นี้ และเป็นไปได้ว่าจะขยายไปสู่ทั่วประเทศในเดือนหน้า
สำหรับวีแชทเริ่มต้นบริษัทในปี 2011 ในฐานะบริการส่งข้อความบนโทรศัพท์มือถือ จากนั้นก็ขยายสู่บริการโซเชียลมีเดีย คลาวด์ ช้อปปิ้งออนไลน์ โทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ต ไปจนถึงบริการทางด้านการเงินต่าง ๆ
แต่ความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อวีแชทว่าจะสามารถทำเงินจากข้อมูลผู้ใช้งานประมาณ 900 ล้านคนที่ล็อกอินเข้ามาในระบบทำให้บริษัทเทนเซนต์ (Tencent) เจ้าของวีแชทมีมูลค่าหุ้นเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และแซงเฟซบุ๊ก (Facebook) โซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ที่มีผู้ใช้งานสูงกว่าวีแชทมากไปได้ในที่สุด
สิ่งที่นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับวีแชทมีเพียงอย่างเดียว นั่นคือ อยากให้วีแชทมีความหลากหลายด้านผู้ใช้งานให้มากกว่านี้
ด้วยเหตุนี้ การที่วีแชทสามารถนำข้อมูลบัตรประชาชนมาใส่ในระบบได้จึงถือเป็นช่องทางการทำรายได้ครั้งใหม่ของวีแชทที่ดีทีเดียว เนื่องจากหมายเลขบัตรประชาชนของจีนนั้นจะถูกใช้บ่อยมาก ตั้งแต่เช็คอินโรงแรม จองตั๋วรถไฟ เปิดบัญชีธนาคาร หรือใช้ในการเข้าถึงบริการทางสังคมต่าง ๆ ที่รัฐบาลจัดให้ และจะทำให้วีแชทแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับอาลีบาบา (Alibaba) เพราะเมื่อปลายปีที่ผ่านมา อาลีเพย์ บริการด้านชำระเงินของอาลีบาบาก็มีการทดสอบระบบดิจิตอลไอดีการ์ดในเมืองหูเป่ยไปแล้วเช่นกัน
สำหรับในโปรเจ็คนำร่องของวีแชทนี้ ถ้าสแกนใบหน้าผ่านแอปพลิเคชันของวีแชทจะสามารถเข้าใช้งานฟังก์ชันต่าง ๆ ที่ไม่ต้องใช้ระบบรักษาความปลอดภัยในระดับสูงนัก เช่น เข้าใช้งานอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ แต่ถ้าอยากใช้งานฟังก์ชันทั้งหมด จะต้องเดินทางไปที่ศูนย์เทอร์มินอลของเมือง เพื่อสแกนบัตรประชาชนตัวจริง จึงจะใช้งานได้