xs
xsm
sm
md
lg

ดีอี ออกโรงเตือนโฆษณาออนไลน์เกินจริงมีโทษทั้งจำทั้งปรับ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ดีอี เตือนกลุ่มผู้ขายสินค้าไม่ซื่อสัตย์ ย้ำโฆษณาชวนเชื่อสรรพคุณเกินจริงผ่านสื่อออนไลน์เข้าข่ายการกระทำผิดตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฯ มีโทษทั้งจำทั้งปรับ วอนประชาชนช่วยแจ้งเบาะแสกลโกงแก่ภาครัฐ ผ่านสายด่วนร้องเรียนออนไลน์ 1212

น.อ. สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ในฐานะโฆษกประจำกระทรวงดีอี เปิดเผยว่า จากรายงานของ “ศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค” ที่มีการเปิดเผยตัวเลขการร้องเรียนปัญหาต่าง ๆ ของผู้บริโภคในช่วงเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2560 มีจำนวน 1,153 ราย 

ปัญหาอันดับหนึ่งที่ผู้บริโภคร้องเรียนมากที่สุด คือ ปัญหาด้านสินค้าและบริการทั่วไป โดยเฉพาะการโฆษณาเกินจริงที่ทำให้ผู้บริโภคหลงเชื่อ และซื้อสินค้า อันดับสอง คือ การถูกเอาเปรียบ ซึ่งมีสาเหตุจากพฤติกรรมของผู้ประกอบธุรกิจที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ทำให้ผู้บริโภคได้รับข้อมูลข่าวสารไม่ครบถ้วน รวมถึงข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม และหน่วยงานรัฐไม่มีมาตรการบังคับใช้กฎหมายที่เป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการใช้ช่องทางการโฆษณาขายสินค้าผ่านระบบออนไลน์ที่หลากหลาย

อันดับสาม คือ เรียกร้องให้หน่วยงานรัฐ และหน่วยงานที่ดูแลผู้บริโภค ดำเนินการเชิงรุกในการแก้ปัญหาเชิงนโยบายไม่ใช่รายกรณี โดยออกกฎระเบียบหรือกฎหมายบังคับเกี่ยวกับการอนุญาตโฆษณาขายสินค้าที่กระทบกับสุขภาพของผู้บริโภค รวมทั้งให้มีตรวจสอบและเฝ้าระวังการโฆษณาขายสินค้าผ่านช่องทางต่าง ๆ

สำหรับกรณีของการโฆษณาขายสินค้าผ่านระบบออนไลน์ที่มีลักษณะหลอกลวงให้ผู้ซื้อหลงเชื่อและเข้าใจผิดในคุณสมบัติ หรือบรรยายสรรพคุณเกินจริงนั้น ในส่วนของกระทรวงดีอี ได้มีการติดตามเฝ้าระวังการกระทำที่ผิดกฎหมายบนสื่อออนไลน์มาโดยตลอด

หากตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นความผิดจริงอาจเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 14 (1) “อันเป็นการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ซึ่งต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท” และศาลอาจสั่งให้ระงับการเข้าถึง หรือ ลบข้อมูลหลอกลวงนั้นออกจากระบบ หรือดำเนินการอื่น ๆ ตามที่ศาลเห็นสมควรได้

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา กระทรวงดีอีได้ประสานการทำงานกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และหน่วยเกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่มาโดยตลอด และได้มีการยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อขอระงับการทำให้แพร่หลาย ซึ่งข้อมูลโฆษณาขายสินค้าที่มีลักษณะหลอกลวงมาอย่างต่อเนื่อง ตามที่ตรวจพบหรือที่ได้รับแจ้ง 

นอกจากนั้น กระทรวงดีอี ยังได้มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดฯ ที่มีภารกิจเกี่ยวข้องดำเนินการสื่อสารให้ความรู้ ประชาชนเกี่ยวกับการซื้อขายสินค้าและบริการผ่านระบบออนไลน์ รวมถึงแนะนำวิธีการรู้เท่าทันกลโกงของผู้ไม่หวังดี หรือกลุ่มมิจฉาชีพ ผ่านช่องทางสื่อต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อเป็นการย้ำเตือนประชาชน หรือผู้บริโภค ให้ระวังปัญหาดังกล่าว ซึ่งถือเป็นการทำงานทั้งเชิงรุกและรับ อีกทั้งเพื่อปกป้องประชาชนผู้บริโภคไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของผู้ประกอบการที่หวังเพียงแต่ได้โดยไม่สนใจผลเสียที่อาจเกิดขึ้น 

ทั้งนี้ ในส่วนของประชาชนเองยังสามารถร่วมกันสอดส่อง และแจ้งเบาะแสให้หน่วยงานรัฐผ่านเบอร์สายด่วนร้องเรียนออนไลน์ 1212 หรือผู้ให้บริการสื่อออนไลน์ต่าง ๆ ดำเนินการตรวจสอบได้อีกทางหนึ่ง เพื่อช่วยกันดูแลสิทธิของผู้บริโภคไม่ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้ขายหรือผู้ให้บริการอีกต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น