คสช. ส่งหนังสือถามความเห็น กสทช. หวังขยายเวลาจ่ายงวดประมูลคลื่น 900 MHz ให้ทรู และเอไอเอส หลัง 2 เจ้าร้อง คสช. บ่นไม่ไหวต้องจ่ายงวดสุดท้ายปี 2562 คนละ 60,000 ล้านบาท ส่วนการรับฟังความคิดเห็นที่หลายภาคส่วนระบุราคาสูงเกินไป แต่ กสทช. ไม่สามารถเปลี่ยนได้ เนื่องจากอาจถูกผู้ชนะการประมูลครั้งที่ผ่านมาฟ้อง
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงานได้รับหนังสือจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เพื่อขอความเห็นในการประกอบการพิจารณา เรื่องการขยายระยะเวลาการชำระเงินค่าประมูลคลื่น 900 MHz
หลังจากที่ผู้ชนะการประมูล ทั้ง 2 บริษัท คือ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด หรือ เอดับบลิวเอ็น บริษัทในเครือ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส และบริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด หรือ ทียูซี บริษัทในเครือ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้ขอให้ คสช. พิจารณาขยายระยะเวลาดังกล่าวออกไป
ทั้ง 2 บริษัทได้ทยอยจ่ายค่าประมูลมาแล้ว 2 งวด คือ งวดแรก จำนวน 8,040 ล้านบาท งวดที่สอง จำนวน 4,020 ล้านบาท ส่วนงวดที่สาม จำนวน 4,020 ล้านบาท จะครบกำหนดชำระในปี 2561 ซึ่งบริษัทดังกล่าวขอให้ขยายระยะเวลาการชำระงวดสุดท้ายที่จะครบกำหนดชำระในปี 2562 จำนวน รายละ 60,000 ล้านบาท ออกไปเป็นอีก 5 งวด รวมทั้งหมดเป็น 8 งวด
“ราคาประมูลคลื่น 900 MHz เป็นเหตุการณ์ที่แจส โมบายล์ ทำราคาสูง และทิ้งใบอนุญาตไป โดยทรู ชนะการประมูลที่ราคา 76,298 ล้านบาท ต้องจ่ายงวดสุดท้ายจำนวน 60,218 ล้านบาท ขณะที่เอดับบลิวเอ็น มาประมูลรอบสองที่แจส โมบายล์ ทิ้งใบอนุญาตไปในราคา 75,654 ล้านบาท ต้องจ่ายงวดสุดท้าย จำนวน 59,574 ล้านบาท หาก คสช. ใช้ ม.44 ประกาศให้ขยายเวลาได้ตามที่เอกชนขอ ก็จะจ่ายเพียงปีละประมาณ 13,000 ล้านบาท และมีดอกเบี้ยให้ด้วย”
นายฐากร กล่าวต่อว่า ขณะนี้สำนักงานได้ยกร่างหนังสือเพื่อเตรียมเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการ กสทช. เพื่อนำเข้าที่ประชุมวันที่ 27 ธ.ค. โดยความเห็นที่ กสทช. เสนอไป คือ สามารถชำระแบบเดิม หรือจะเพิ่มงวดการชำระออกไปก็ได้ ซึ่งหาก คสช. มีประกาศออกมา จำนวนงวดการชำระค่าประมูลจะถูกนำมาบรรจุในการประมูลคลื่น 900 MHz ครั้งใหม่นี้ด้วย
ส่วนเรื่องการประมูลคลื่นครั้งใหม่ หากมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะแล้ว แล้วเสียงส่วนใหญ่เห็นว่า ราคาเริ่มต้นการประมูลสูงเกินไป กสทช. ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงราคาได้ เพราะเป็นมติที่ประชุม และมีโอกาสที่ กสทช. จะถูกผู้ชนะการประมูลครั้งก่อนฟ้องร้องได้
สำหรับการรับฟังความเห็นการประมูลคลื่น 900 และ 1800 MHz ของผู้ประกอบการ และตัวแทนภาคประชาชนนั้น ได้แสดงความเห็นหลายประเด็น อาทิ การกำหนดราคาคลื่นความถี่โดยใช้ราคาที่ชนะประมูลครั้งที่ผ่านมาเป็นราคาเริ่มต้น เป็นราคาสูงเกินไป จะกระทบกับต้นทุนการประกอบของผู้ชนะประมูล รวมถึงการจัดชุดคลื่นความถี่ที่กำหนดในร่าง ไม่ว่าผู้ประกอบการรายใดชนะประมูลในคลื่นความถี่ชุดใดไป อาจทำให้เกิดการใช้ประโยชน์จากชุดคลื่นความถี่ไม่เต็มประสิทธิภาพ เนื่องจากชุดคลื่นความถี่ไม่ได้อยู่ใกล้เคียงกัน จึงขอให้มีการจัดเรียงชุดคลื่นความถี่ใหม่หลังการประมูล และการกำหนดหลักเกณฑ์ให้มีจำนวนผู้เข้าประมูลมากกว่าจำนวชุดคลื่นความถี่ อาจจะทำให้การประมูลคลื่นได้ไม่หมดตามที่ กสทช. กำหนดไว้