บริการผู้ช่วยส่วนตัวของกูเกิล “กูเกิลแอสซิสเทนต์” (Google Assistant) พร้อมเปิดใช้งานในโทรศัพท์มือถือระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android) รุ่นเก่า คาดว่าจะทำให้ผู้ใช้แอนดรอยด์มากกว่าครึ่งสามารถใช้ประโยชน์จาก Google Assistant ได้
ที่ผ่านมา Google Assistant บริการผู้ช่วยที่ผู้ใช้แอนดรอยด์สามารถเอ่ยปากสั่งการสมาร์ทโฟนด้วยเสียงพูดนั้นเปิดให้บริการบนเครื่องรุ่นใหม่มาระยะหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังถูกมองว่ากลุ่มผู้ใช้ Google Assistant ยังอยู่ในวงจำกัด ส่วนหนึ่งเนื่องจากผู้ใช้แอนดรอยด์มากกว่า 46.5% ในปัจจุบันนั้น เป็นแอนดรอยด์รุ่นเก่าที่ต่ำกว่า Marshmallow ซึ่งเปิดใช้วงกว้างช่วงปี 2015
เพื่อแก้ปัญหานี้ กูเกิลจึงพัฒนาให้ระบบผู้ช่วย Assistant รองรับบนอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android Lollipop ซึ่งเป็นรุ่นเก่าที่เปิดให้ใช้งานช่วงปี 2014 ผลคือ ผู้ใช้สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์รุ่นเก่าเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ก็จะมีผู้ช่วยปัญญาประดิษฐ์ให้บริการไม่ต่างจากสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่
การอัปเดตระบบผู้ช่วย Assistant จะเริ่มมีผลในสมาร์ทโฟนที่ตั้งค่าภาษาอังกฤษ ในประเทศสหรัฐอเมริกา, อังกฤษ, ออสเตรเลีย, แคนาดา, อินเดีย และสิงคโปร์ นอกจากนี้ ยังรองรับสมาร์ทโฟนที่ตั้งค่าภาษาสเปนในสหรัฐอเมริกา เม็กซิโก และสเปน โดยประเทศที่จะได้รับอัปเดตรอบต่อไปได้แก่ บราซิล, เยอรมนี, อิตาลี, ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ไม่มีชื่อภาษาไทยปรากฏในขณะนี้
สิ่งที่เกิดขึ้นจากการอัปเดตนี้ คือ ผู้ใช้อุปกรณ์แอนดรอยด์ในปัจจุบันมากกว่าครึ่งจะสามารถใช้งานระบบผู้ช่วย Assistant เท่ากับระบบสั่งการด้วยเสียงกำลังจะขยายตัวออกนอกวงจำกัดอย่างเป็นทางการ
นอกจากนี้ Google Assistant ยังถูกพัฒนาให้รองรับการใช้งานบนแท็บเล็ตแอนดรอยด์ด้วย ถือเป็นส่วนเพิ่มเติม ซึ่งไม่เคยมีในประวัติศาสตร์แอนดรอยด์ ผลคือ ผู้ใช้แท็บเล็ตจอใหญ่จะสามารถควบคุมระบบต่าง ๆ ในบ้านอัจฉริยะ รวมถึงสามารถตอบคำถามเบื้องต้นได้เหมือนที่สมาร์ทโฟนทำได้
อย่างไรก็ตาม Google Assistant บนแท็บเล็ตแอนดรอยด์จะเริ่มนำร่องในสหรัฐอเมริกาก่อนเท่านั้น โดยจะรองรับเฉพาะเครื่องที่ตั้งค่าภาษาอังกฤษ กำหนดการเริ่มให้บริการ คือ “ไม่กี่สัปดาห์” นับจากนี้