เบื้องหลังดีลจับมือ เท็นเซนต์บุกโลก สปอติฟายบุกจีน

มีรายงานว่า สองบริษัทยักษ์ใหญ่ผู้ให้บริการด้านสตรีมมิ่งเพลงอย่างสปอติฟาย (Spotify) กับเท็นเซนต์ (Tencent) มีการซื้อหุ้นในบริษัทลูกของอีกฝ่าย ซึ่งกลายเป็นที่น่าจับตา เพราะการซื้อหุ้นระหว่างกันครั้งนี้ ได้ทำให้สปอติฟาย มีโอกาสขยายธุรกิจเข้าไปในจีนแผ่นดินใหญ่ ขณะที่เท็นเซนต์ ก็ได้โอกาสออกมาเติบโตนอกประเทศจีน เรียกได้ว่าวิน-วินทุกฝ่ายนั่นเอง

สำหรับรายละเอียดของการซื้อหุ้นนี้ไม่ปรากฏกว่ามูลค่าของการซื้ออยู่ที่เท่าไร รวมถึงสัดส่วนที่แต่ละฝ่ายเข้าไปถือหุ้นด้วย ทราบแต่เพียงว่า บริษัทที่สปอติฟายเข้าไปถือหุ้นมีชื่อว่า เท็นเซนต์ มิวสิค เอนเตอร์เทนเมนต์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านสตรีมมิ่งเพลงในตลาดจีน

นอกจากนั้น การดีลกับเท็นเซนต์ยังเป็นประโยชน์ในการสร้างสตอรีให้กับสปอติฟาย ที่คาดการณ์ว่าจะเข้าตลาดหุ้นในปีหน้าอย่างมากด้วย เพราะแสดงให้เห็นว่า สปอติฟายมีความสนใจจะบุกตลาดจีนอย่างจริงจัง

โดยหากสปอติฟายใช้โอกาสนี้แทรกตัวเข้าไปในตลาดจีนได้สำเร็จ นอกจากจะสามารถใช้ดีลนี้เพิ่มมูลค่าหุ้นได้แล้ว ยังสามารถอ้างว่าตนเองเป็นโกลบอลคอมพานีได้อย่างเต็มภาคภูมิด้วย

อีกสิ่งหนึ่งที่สปอติฟายจะได้ประโยชน์ก็คือ การมีพาร์ตเนอร์เป็นเพื่อนคู่คิด เพราะหลายแบรนด์คงทราบกันดีว่า ในตลาดจีนนั้น การบุกเดี่ยวตามลำพังไม่ใช่เรื่องง่าย

สำหรับเท็นเซนต์ มิวสิค เอนเตอร์เทนเมนต์ มีบริษัทลูกที่ให้บริการด้านสตรีมมิ่งเพลงอยู่สองบริษัท คือ คิวคิว มิวสิค และ KuGou ซึ่งทั้งสองบริษัทนี้มีผู้ใช้งานรายเดือนรวมกันอยู่ที่ 450 ล้านคน

ด้าน Daniel Ek ผู้ก่อตั้ง และซีอีโอของสปอติฟาย กล่าวว่า สปอติฟาย และเท็นเซนต์ มิวสิค เอนเตอร์เทนเมนต์ เห็นโอกาสอันดีที่จะก้าวไปสู่ตลาดมิวสิกสตรีมมิ่งระดับโลก และคาดว่าจะเป็นประโยชน์กับพาร์ตเนอร์รายต่าง ๆ ของบริษัทในตอนนี้ รวมถึงผู้ใช้งานด้วย

หากพิจารณาย้อนหลังจะพบว่า เท็นเซนต์มีการซื้อหุ้นในบริษัทหลาย ๆ บริษัท ไม่ว่าจะเป็นสแน็ป (Snap) ด้วยมูลค่าสองพันล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่งผลให้บริษัทมีฐานะเป็นผู้ถือหุ้นที่ใหญ่เป็นอันดับห้าของสแน็ป

ขณะที่ก่อนหน้านี้ เท็นเซนต์ก็เคยซื้อหุ้นเทสล่า (Tesla) ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าถึง 5 เปอร์เซ็นต์ของมูลค่าบริษัท และซื้อหุ้นของซูเปอร์เซลล์ (Supercell) บริษัทสัญชาติฟินแลนด์ ด้วยมูลค่า 8.6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน