รมว.ดีอี เตรียมหารือ กสทช. ภายในสัปดาห์นี้ เผยหากคุยรายละเอียดได้ข้อสรุปตรงกัน ยินดีรับงาน 15,732 หมู่บ้านเพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน และอาจให้ทีโอที ทำต่อ ย้ำทำราคาเน็ตเข้าบ้าน 200 บาทต่อเดือนไม่ได้ เหตุเงื่อนไขคนละแบบกับเน็ตชายขอบ 3,920 หมู่บ้านของ กสทช.
นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี กล่าวว่า ตามที่มติที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เห็นชอบให้มอบโครงการขยายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ห่างไกลโซน ซี อีกจำนวน 15,732 หมู่บ้านให้สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) หน่วยงานภายใต้กระทรวงดีอีดำเนินการได้นั้น ภายในสัปดาห์นี้ ตนเองจะเข้าหารือกับ กสทช. เพื่อรับทราบรายละเอียดก่อน ถึงจะตัดสินใจว่าจะทำได้หรือไม่ เพราะจะต้องติดตั้งให้เสร็จภายในปี 2561
ทั้งนี้ กสทช. มีผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์อยู่แล้ว กระทรวงก็ต้องหารือถึงรายละเอียดในการติดตั้งว่าจะตรงกับมาตรฐานที่บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ดำเนินการแทนกระทรวงหรือไม่ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า หากกระทรวงจะรับมาทำ ก็อาจจะมอบหมายให้ทีโอที ดำเนินการในลักษณะเบิกจ่ายแทนกันเหมือนเดิม เพื่อให้มีมาตรฐานเดียวกัน อีกทั้ง ทีโอทีก็สามารถติดตั้งโครงการที่รับผิดชอบ จำนวน 24,700 หมู่บ้านได้ทันภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งข้อมูล ณ วันที่ 2 ธ.ค. ติดตั้งไปแล้ว 21,866 หมู่บ้าน คิดเป็น 88.53%
ส่วนเงื่อนไขเรื่องราคาให้บริการตามบ้านประชาชนต้องอยู่ที่เดือนละ 200 บาทนั้น ขอยืนยันว่าโครงการเน็ตประชารัฐ ไม่สามารถใช้ราคาเดียวกับโครงการอินเทอร์เน็ตชายขอบ 3,920 หมู่บ้านเหมือนที่กสทช. ทำได้ เพราะเงื่อนไข และปัจจัยต่างกัน พื้นที่ก็ไม่เหมือนกัน
อนึ่ง สำนักงาน กสทช. ได้จ้างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ดำเนินการศึกษาราคากลาง และจุดที่จะให้บริการ โดยกรอบศึกษาที่ได้วางกรอบไว้ คือ แนวทางที่ 1 ดำเนินการตามกรอบแนวทางที่ กสทช. ดำเนินการในส่วนของโครงการ USO เน็ตชายขอบ ที่ดำเนินการอยู่ว่าจะต้องใช้กรอบวงเงินในการดำเนินการเท่าใดนั้น โดยโครงการ USO เน็ตชายขอบที่ กสทช. ดำเนินการต้องมีอัตราค่าบริการไม่เกิน 200 บาทต่อเดือน จะต้องมีการรับประกัน 5 ปี โครงข่ายต่าง ๆ ที่มีการจัดตั้งขึ้นมา จะต้องเป็นทรัพย์สินของรัฐ โรงพยาบาลของรัฐ สถานที่ราชการของรัฐ ในพื้นที่ให้บริการจะต้องเปิดจุดเชื่อมต่อสัญญาณให้ฟรี ซึ่งจากการศึกษาถ้าจะดำเนินการจัดให้มีบริการโทรคมนาคมพื้นฐานในพื้นที่ห่างไกลโซนซีดังกล่าว ตามเงื่อนไขนี้ จะต้องใช้เงินเกือบ 20,000 ล้านบาทในการดำเนินการ
แนวทางที่ 2 ดำเนินการตามขอบเขตงาน และเงื่อนไขเช่นเดียวกับโครงการเน็ตประชารัฐที่กระทรวงดีอีมอบหมายให้ทีโอทีดำเนินการขยายโครงข่ายและติดตั้งอุปกรณ์จุดบริการไวไฟ โดยมีระยะเวลาการสนับสนุนการให้บริการ 1 ปี ที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน กรอบวงเงินงบประมาณไม่เกิน 3,283.155 ล้านบาท
แนวทางที่ 3 กรณีดำเนินการตามขอบเขตงานและเงื่อนไขเช่นเดียวโครงการเน็ตประชารัฐที่กระทรวงดีอีมอบหมายให้ทีโอที ดำเนินการ แต่เพิ่มระยะเวลาการสนับสนุนการให้บริการเป็น 5 ปี จะใช้กรอบวงเงินงบประมาณไม่เกิน 7,119.946 ล้านบาท