สถาบันแมคคินซีย์ โกลบอล (McKinsey Global Institute) เปิดรายงานใหม่ ชี้แรงงานในสหรัฐอเมริกา 73 ล้านคนเสี่ยงตกงานในปี 2030 เนื่องจากการมาถึงของระบบอัตโนมัติ โดยการศึกษาฉบับนี้พบว่า แรงงานในสหรัฐอเมริกานั้น กว่าครึ่งสามารถถูกแทนที่ได้ด้วยระบบอัตโนมัติแล้ว
ทั้งนี้ จะมีแรงงานที่ได้รับผลกระทบถูกเลิกจ้างอยู่ระหว่าง 39 ล้านคน-73 ล้านคนในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้านี้ โดยในจำนวนดังกล่าวจะมีประมาณ 20 ล้านคนที่สามารถเปลี่ยนไปทำงานอื่นได้ แต่อีก 16-54 ล้านคนที่เหลือ จะต้องเข้ารับการอบรมใหม่เพื่อให้สามารถทำงานในระบบเศรษฐกิจในอนาคตได้
ขณะที่ตัวเลขในระดับโลกนั้นพบว่า จำนวนคนงานที่สามารถแทนที่ด้วยระบบอัตโนมัติ มีมากถึง 800 ล้านคน และมีถึง 375 ล้านคนที่จำเป็นต้องเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ เพื่อทำงานในอาชีพที่ไม่เคยมีมาก่อน เช่น งานที่ต้องเข้าไปควบคุมเครื่องจักร หรือระบบอัตโนมัติอีกทีหนึ่ง
กลุ่มเสี่ยงต่อการตกงานมากกว่าใคร คือ กลุ่มพนักงาน ในประเทศที่พัฒนาแล้ว และมีอัตราค่าจ้างสูงลิ่ว เช่น สหรัฐอเมริกา นั่นเอง
แต่ถ้าพิจารณาดี ๆ แล้ว ยังมีอาชีพอีกไม่น้อยที่ปลอดภัย และไม่อาจถูกทดแทนได้ในอนาคตอันใกล้ เช่น การรับดูแลคนชรา, งานด้านสุขภาพ, งานซ่อมประปา, งานดูแลสวน ไปจนถึงผู้เชี่ยวชาญทางวิทยาศาสตร์หรือไอทีระดับสูง ซึ่งทั้งสองกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่เทคโนโลยียังไม่สามารถเข้ามาทดแทนได้
ส่วนความท้าทายของภาครัฐก็คือ การอบรมให้คนที่ถูกระบบอัตโนมัติแทนที่นั้นได้มีงานใหม่ทำ ซึ่งนอกจากจะต้องอบรมแล้ว ยังมีคำถามตามมาด้วยว่า แล้วจะมีงานเหลือให้คน 800 ล้านคนทำด้วยหรือไม่ ซึ่งในจุดนี้ เราอาจใกล้ที่จะได้เห็นรัฐบาลประเทศต่าง ๆ เริ่มให้เงินเลี้ยงชีพแก่ประชากรในประเทศในระหว่างการเปลี่ยนผ่านนี้แล้วก็เป็นได้