ใครก็รู้ว่า วันนี้ตลาดอีคอมเมิร์ซ (e-commerce) เติบโตร้อนแรงสุดขีดในอาเซียน ยอดจำหน่ายสินค้าออนไลน์ คาดว่าจะทะลุ 8.8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2025 ตลาดที่ได้รับการจับตามากที่สุดจีนไม่พ้นไทย-เวียดนาม-มาเลเซีย เนื่องจากทั้ง 3 ตลาดนี้สร้างสรรค์ตัวเลขน่าสนใจหลายชุดจนคนตกตะลึง
ยอดจำหน่ายสินค้าออนไลน์คาดว่าจะทะลุ 8.8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ถูกประเมินว่าจะทำให้ตลาดอีคอมเมิร์ซคิดเป็น 6% ของตลาดค้าปลีกรวมในปี 2025 เบื้องหลัง ปรากฏการณ์นี้มี 2 ส่วน คือ สัดส่วนชนชั้นกลางที่ขยายตัวขึ้น และความแพร่หลายของอินเทอร์เน็ต ซึ่งล้วนเสริมให้ตลาดอีคอมเมิร์ซร้อนแรงฉุดไม่อยู่
ศึกษาตลาดที่มีการแข่งขันอีคอมเมิร์ซสูง บริษัทไอไพรส์ (iPrice) จึงเลือกไทย เวียดนาม และมาเลเซีย มาเปรียบเทียบสัดส่วนตลาดอีคอมเมิร์ซ โดยดึงข้อมูลเชิงลึกจากบริษัทโซเชียลเบกเกอร์ส (Socialbakers) มาประมวลร่วมกับข้อมูลเปิดจากคอนซูเมอร์ บารอมิเตอร์ (Consumer Barometer) รวมถึงงานวิจัยที่กูเกิล (Google) จับมือกับเทมาเสก (Temasek) ศึกษาด้วยกัน
การรวบรวมพบว่า ลาซาดา (Lazada) เป็นร้านออนไลน์อันดับ 1 ที่คนไทยคลิกจับจ่ายด้วยมากที่สุด แม้จะให้บริการในอาเซียนอย่างจริงจังมาเพียง 5 ปี ด้วยเงินทุนของอาลีบาบา (Alibaba) ที่ซื้อกิจการมาในเมษายน 2016 วันนี้ คนไทย เวียดนาม และมาเลเซีย ล้วนเลือก Lazada
สำหรับประเทศไทย Lazada ครองส่วนแบ่งทราฟฟิก 52.6% รองลงมา เป็นอีเลเวนสตรีท (11street) ที่ทำได้ 12.2% อันดับ 3 คือ ช็อปปี (Shopee) อีก 4.4%
ประเทศไทยยังคว้าแชมป์ชาติที่ติดตามข้อมูลจากเพจร้านค้าบนเฟซบุ๊ก (Facebook) สูงที่สุดใน 3 ชาติ เพราะการสำรวจพบคนไทยมีส่วนร่วมกับเพจร้านค้าบน Facebook อย่างจริงจังบ่อยครั้ง มากกว่าชาวเวียดนาม ที่ครองอันดับ 2 และมาเลเซีย ที่ครองอันดับ 3
ที่สำคัญ คือ ประเทศไทยจะเป็นตลาด e-commerce ที่มีขนาดใหญ่อันดับ 2 ของภูมิภาคอาเซียนภายในปี 2025 หรืออีก 8 ปีข้างหน้า เป็นรองมาเลเซีย แต่นำหน้าเวียดนาม