xs
xsm
sm
md
lg

เทนเซนต์ ก้าวแซงเฟซบุ๊ก สู่บริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดอันดับห้าของโลก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ภาพจากรอยเตอร์
เทนเซ็นต์ โฮลดิ้ง (Tencent Holdings) บริษัทผู้ให้บริการเกม และโซเชียลเน็ตเวิร์กยักษ์ใหญ่ของจีน กลายเป็นบริษัทแรกจากซีกโลกตะวันออก ที่มีมูลค่าตลาดมากกว่า 500,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และขึ้นเทียบชั้นเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกกับบิ๊กโฟร์อย่างแอปเปิล (Apple) อัลฟาเบ็ท (Alphobet) แอมะซอน (Amazon) ไมโครซอฟท์ (Microsoft) แล้ว

ส่วนบริษัทที่ถูกเทนเซ็นต์เบียดตกไปนั้น น่าสนใจที่เป็นบริษัทผู้ให้บริการโซเชียลเน็ตเวิร์กเช่นกัน นั่นคือ “เฟซบุ๊ก” (Facebook) ที่คนไทยคุ้นเคยกันดีนั่นเอง

คุณ S.Y. Lau รองประธานบริษัทเทนเซ็นต์ เผยว่า ก้าวต่อไปของเทนเซ็นต์ คือ ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีประชากรมากกว่า 600 ล้านคน และปัจจุบันเป็นภูมิภาคที่มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูงสุด ส่วนประเทศเป้าหมาย คือ มาเลเซีย ที่มีผู้ใช้งานวีแชต สูงมากกว่า 20 ล้านคน โดยในปีหน้า เทนเซ็นต์ คาดว่าจะได้ไลเซนต์ในการให้บริการอี-เพย์เมนต์ ในมาเลเซีย เพื่อทำธุรกรรมต่าง ๆ ได้ 

สำหรับบริการอย่างวีแชตเพย์ (WeChat Pay) และอาลีเพย์ (Alipay) นั้น ต้องยอมรับว่ากลายเป็นแพลตฟอร์มที่มีอิทธิพลมากขึ้นในตลาดโลก โดยเฉพาะในด้านการท่องเที่ยว เพราะชาวจีนที่กลายเป็นนักท่องเที่ยวคนสำคัญของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกนั้น ต่างถนัดใช้งานสองบริการนี้เป็นหลัก ทำให้ประเทศที่ต้องการรับนักท่องเที่ยวจีนต้องเรียนรู้วิธีการรับชำระเงินแบบชาวจีน เพื่อจะได้สร้างประสบการณ์การชำระเงินที่สะดวกสบาย และทำให้นักท่องเที่ยวจีนประทับใจนั่นเอง

ด้านเทนเซ็นต์เองก็มีแนวโน้มว่าไม่เร่งทำตลาดนอกบ้าน โดย มร. Lau เผยว่า จะเดินตามแนวทางของตัวเองต่อไป พร้อมบอกว่ายังมีเรื่องที่อยากทำอีกมากในตลาดจีนด้วย

สำหรับผลิตภัณฑ์ที่คาดว่าจะใช้ในการขยายตลาดนั้น หนีไม่พ้นวีแชต แพลตฟอร์มส่งข้อความที่ปัจจุบันมีฟีเจอร์ต่าง ๆ เพิ่มขึ้นมากจนกลายเป็นแอปพลิเชันที่ทำงานได้แบบออลอินวัน โดยตอนนี้ วีแชตมีผู้ใช้งานแบบเป็นประจำแล้วถึง 980 ล้านคนต่อเดือน และมีรายได้จากค่าโฆษณาเติบโตขึ้นถึง 63 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่รายได้จากบริการเพย์เมนต์ และรายได้จากธุรกิจอื่น ๆ เติบโตขึ้น 143 เปอร์เซ็นต์ ส่วนรายได้จากเกม Honor of Kings ก็มีรายได้เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่แล้ว 84 เปอร์เซ็นต์

แต่นอกเหนือจากเกม และโซเชียลมีเดีย เทนเซ็นต์ยังมีรายได้จากธุรกิจคอนเทนต์ดิจิทัล เช่น เทนเซ็นต์มิวสิก (เทียบได้กับสปอติฟายในบ้านเรา) และเทนเซ็นต์วิดีโอ (คล้าย ๆ ยูทูป) นอกจากนี้ ยังมีการผลิตละครของตัวเองด้วย

นอกจากนั้น เทนเซ็นต์ยังมีฝั่งของธุรกิจด้านคอนเทนต์ที่ขายนวนิยายที่ได้รับความนิยม รวมถึงเปลี่ยนนวนิยายเหล่านั้นให้กลายเป็นละคร วิดีโอเกมอีกต่อด้วย

มร. Lau กล่าวว่า เป้าหมายสูงสุด คือ การเผยแพร่วัฒนธรรมจีนออกสู่ทั่วโลก และสิ่งที่ตั้งใจก็คือ การสร้างซูเปอร์ไอพี (IP ที่ย่อมาจาก Intellectual Property หรือทรัพย์สินทางปัญญา) พร้อมยกตัวอย่างว่า ดิสนีย์แลนด์ หรือภาพยนตร์เจมส์บอนด์ ที่ถือเป็นโมเดลที่ประสบความสำเร็จในสหภาพยุโรป
กำลังโหลดความคิดเห็น