เสี่ยวมี่ (Xiaomi) ขอเวลาไม่เกิน 3 ปี ขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดสมาร์ทโฟน พร้อมยกตัวอย่างในอินเดีย ใช้เวลา 3 ปีขึ้นมาเป็นอันดับ 2 และเป็นอันดับ 3-4 ในอีกหลาย ๆ ประเทศ เชื่อการสร้างฐานลูกค้าจากผลิตภัณฑ์ที่คุ้มค่าจะช่วยให้เกิดกลุ่มผู้ใช้งานที่แท้จริง ล่าสุด เปิดตัวแฟลกชิป Mi Mix 2 ในราคา 17,990 บาท
นายสตีเวน หวัง ผู้อำนวยการฝ่ายการพัฒนาการตลาด เสี่ยวมี่ โกลบอล กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมา Xiaomi เริ่มนำสินค้าตระกูล Mi Mix ออกสู่ตลาด โดยวางให้เป็นผลิตภัณฑ์ในระดับบนที่เน้นการแสดงนวัตกรรมของสมาร์ทโฟน ด้วยการนำเทคโนโลยีการแสดงผล การประมวลผล รวมถึงฟีเจอร์ระดับสูงมาใช้งาน เพื่อให้กลายเป็นเครื่องระดับเรือธงของ Xiaomi
“Mi Mix ได้รับรางวัลทางด้านการออกแบบด้วยการเป็นสมาร์ทโฟนที่มากับจอแสดงผลแบบเต็มพื้นที่ด้านหน้ารายแรก ๆ ของโลก ก่อนที่อินเตอร์แบรนด์รายอื่นจะเริ่มนำมาใช้งานในช่วงปีนี้ และเป็นผู้ที่ทำให้กูเกิล เปลี่ยนมาตรฐานในการรับรองสมาร์ทโฟนที่มากับสัดส่วนอื่นนอกจาก 4:3 และ 16:9 ด้วย”
สำหรับแผนการขยายตลาดของ Xiaomi ปัจจุบันในประเทศจีน มีหน้าร้านอยู่ทั้งหมด 220 แห่ง และจะเพิ่มเป็น 1,000 แห่งภายใน 3 ปีข้างหน้า ส่วนในระดับโลก ปัจจุบันมีหน้าร้านมากกว่า 130 แห่งจาก 60 ประเทศที่ทำตลาด
ส่วนในในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นตลาดที่สำคัญเป็น 1 ใน 10 ของ Xiaomi ซึ่งก่อนหน้านี้ เริ่มวางจำหน่าย Mi 6 ได้มีการจับมือร่วมกับพันธมิตรทางอีคอมเมิร์ซ 3 ราย คือ Lazada, 11Street และ Shoppee รวมถึงเป้าหมายในการเพิ่มสถานที่จำหน่ายสินค้า ไม่นับรวมกับ Mi Authorise Store อีก 2 แห่งที่เปิดให้บริการแล้วที่อิมพีเรียลเวิร์ลสำโรง และซีคอน บางแค
“Xiaomi ยังใหม่มากในประเทศไทย สิ่งที่ต้องทำ คือ การสร้างคอมมูนิตี สร้างฐานลูกค้า ด้วยการนำสินค้าที่หลากหลายเข้ามาแบบค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้ประสบความสำเร็จในระยะยาว อย่างในอินเดียที่ Xaiomi เข้าไปทำตลาด 3 ปี และตอนนี้กลายเป็นอันดับ 2 และหวังว่าจะเกิดขึ้นในประเทศไทยเช่นเดียวกัน”
ล่าสุด ได้ทำการเปิดตัว Mi Mix 2 สมาร์ทโฟนที่มากับหน้าจอ Full Screen Display ขนาด 5.99 นิ้ว โครงเครื่องทำจากอะลูมิเนียมเกรดเดียวกับยานอวกาศ ฝาหลังทำจากเซรามิกเคลือบเงา ภายในมากับหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 835 RAM 6 GB ROM 64 GB
ขณะที่เรื่องของกล้องใช้เซ็นเซอร์ IMX386 12 ล้านพิกเซล ที่มีเม็ดพิกเซลขนาด 1.25um พร้อมกันสั่น 4 แกน วางจำหน่ายในราคา 17,990 บาท โดยเริ่มจำหน่ายผ่านทาง Lazada ในวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้ พร้อมกับช่องทางจำหน่ายผ่านเจมาร์ท และไอทีซิตี้