xs
xsm
sm
md
lg

ทีโอทีอ้าแขนรับเพนกวิน ร่วมวง MVNO น้องใหม่ หวังปั้นรายได้โตไปด้วยกัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ทีโอทีแก้มปริ หลัง เพนกวิน จับมือเป็น MVNO รายใหม่ แย้มสิ้นปีจะมีเพิ่มอีกราย คาดสิ้นปีรายได้โมบายพุ่ง 4,000 ล้านบาท ด้านเพนกวิน มั่นใจหลังใช้คลื่น 2100 MHz ทีโอที ยอดลูกค้าทะลุ 1 ล้านเลขหมายภายในสิ้นปีหน้า

นายรังสรรค์ จันทร์นฤกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจสื่อสารไร้สาย บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภายในสิ้นปีนี้ ทีโอที จะมี MVNO (Mobile Virtual Network Operatorหรือผู้ให้บริการเสมือน เป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือที่ไม่ได้มีโครงข่ายของตนเอง) ประมาณ 4 ราย โดยล่าสุด ได้เป็นพันธมิตร กับบริษัท เดอะ ไวซ์สเปซ จำกัด MVNO แบรนด์ เพนกวิน ในการเป็น MVNO รายใหม่สำหรับคลื่น 2100 MHz จากเดิมที่มี 2 ราย คือ บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท โมบาย เอท เทลโค (ไทยแลนด์) จำกัด นอกจากนี้ คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีการเจรจาเป็นพันธมิตรกับ MVNO เพิ่มอีกหนึ่งราย ทั้งนี้ ทีโอทีมีเลขหมายสำหรับให้ MVNO อยู่ประมาณ 4-5 ล้านเลขหมาย แต่ปัจจุบัน MVNO มีการใช้เลขหมายไปเพียง 1 แสนเลขหมายเท่านั้น

ทีโอที คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีรายได้จากธุรกิจโมบายอยู่ที่ 4,000 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จาก MVNO จำนวน 10 ล้านบาท จากการให้บริการของทีโอทีเอง 90 ล้านบาท และรายได้จากการให้บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส เช่าเสาสัญญาณอีก 3,900 ล้านบาท นอกจากนี้ หากสำนักงานอัยการสูงสุด ส่งหนังสือตอบรับร่างสัญญาการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจในคลื่น 2100 MHZ ที่ทำกับเอไอเอส จะทำให้ทีโอทีมีรายได้วันละ 10 ล้านบาท และการเป็นพันธมิตรร่วมกับ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค ในคลื่น 2300 MHz อีกวันละ 15 ล้านบาท

นายชัยยศ จิรบวรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเดอะ ไวซ์สเปซ กล่าวว่า การเป็น MVNO ร่วมกับ ทีโอที เนื่องจากคลื่น 2100 MHz มีเครือข่ายครอบคลุมทั่วประเทศกว่า 20,000 สถานีฐาน อีกทั้งยังเป็นคลื่นที่มีเครื่องลูกข่ายรองรับมากกว่าคลื่น 850 MHz ของ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) โดยคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะสามารถเปิดให้บริการภายใต้ MVNO ของทีโอที ได้ ซึ่งรับรองว่าจะมีแพกเกจที่แตกต่างเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าเฉพาะกลุ่มอย่างแน่นอน และคาดว่าจะทำให้เป้าหมายที่บริษัทตั้งไว้ที่ 1 ล้านเลขหมายภายในสิ้นปีหน้าไปถึงได้

“ตอนนี้เรามีลูกค้าที่แอ็กทีฟอยู่ 3 แสนเลขหมาย มีลูกค้าใหม่ต่อเดือน 4-5 หมื่นเลขหมาย รายได้เลขหมายต่อเดือนอยู่ที่ 199 บาท 80% เป็นการใช้งานดาต้า ดังนั้น ต่อไปซิมเพนกวินจะต้องใช้เบอร์เพื่อต่อยอดในการให้บริการ IoT มากขึ้นด้วย เช่น ระบบแทรกกิ้ง ระบบลิงก์เอทีเอ็ม นาฬิกาติดตามตัวสำหรับเด็ก เป็นต้น ซึ่งการให้บริการ IoT แม้ว่าจะมีรายได้ต่อเลขหมายน้อยลงแต่ก็จะสามารถกระจายซิมการ์ดได้กว้างกว่า”
กำลังโหลดความคิดเห็น