เอปสันจับมือสถาบันไทย-เยอรมัน เปิดศูนย์ นวัตกรรมหุ่นยนต์ หวังแชร์ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีหุ่นยนต์แขนกลให้กับผู้ประกอบการไทย เพื่อเพิ่มศักยภาพ ด้านการผลิตรับยุคไทยแลนด์ 4.0
นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า การประกาศนโยบาย ไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาล ทำให้หลายอุตสาหกรรมเกิดการตื่นตัวในการนำเทคโนโลยีหุ่นยนต์ และระบบอัตโนมัติ เข้ามาใช้เพื่อพัฒนาศักภาพการทำงาน เพิ่มผลิตผล และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการ อีกทั้งรัฐบาลยังได้วางมาตรการต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนให้อุตสาหกรรมการผลิตและบริการภายในประเทศนำหุ่นยนต์ และระบบอัตโนมัติ มาใช้งานมากขึ้น อาทิ การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 50% สำหรับผู้ประกอบการที่ใช้หุ่นยนต์ และระบบอัตโนมัติ เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตและบริการ การสนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำจากเงินกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวทางประชารัฐ เพื่อปรับเปลี่ยนการผลิตเป็นหุ่นยนต์ และระบบอัตโนมัติ
ขณะที่กระทรวงการคลังจะยกเว้นภาษีเงินได้ 300% โดยสนับสนุนผู้ประกอบการในการวิจัยหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ เอปสันจึงมองเห็นโอกาสที่จะรุกทำตลาดสินค้ากลุ่มหุ่นยนต์แขนกล สำหรับการผลิตที่ต้องการผลผลิตปริมาณมากขึ้น และคุณภาพของผลิตภัณฑ์สูงขึ้น ในประเทศไทยอย่างจริงจัง
ทั้งนี้ เอปสันได้พัฒนาเทคโนโลยีหุ่นยนต์มาอย่างต่อเนื่องนานกว่า 36 ปี และจำหน่ายไปยังกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก เช่น สหรัฐอเมริกา, ยุโรป, ญี่ปุ่น, จีน และเกาหลี ส่วนในประเทศไทยหุ่นยนต์แขนกลของเอปสัน มีใช้ในโรงงานผลิตอย่างแพร่หลายกว่า 20 ปีแล้ว มีลูกค้าหลักเป็นบริษัทข้ามชาติที่ขยายฐานการผลิตมายังประเทศไทย โดยที่บริษัทแม่ในต่างประเทศคุ้นเคยกับเทคโนโลยีของเอปสันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว จึงเลือกใช้หุ่นยนต์ของเอปสันในโรงงานผลิตที่มีสาขาในประเทศไทยด้วยเช่นกัน ที่ผ่านมา ตลาดหุ่นยนต์แขนกลของประเทศไทยยังมีขนาดเล็ก และมีแนวโน้มการเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไป การดูแลด้านการจัดจำหน่ายของเอปสันในตลาดประเทศไทยจึงยังอยู่ในการดูแลของสำนักงานภูมิภาคที่สิงคโปร์
แต่หลังการเปิดตัวโมเดลไทยแลนด์ 4.0 ตามด้วยอุตสาหกรรม 4.0 ของรัฐบาลทำให้วงการเทคโนโลยีหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติเกิดการตื่นตัวขึ้นมาก เอปสัน ประเทศไทย จึงเข้ามาดูแลด้านการตลาดและการจัดจำหน่ายอย่างเต็มตัว โดยจะเริ่มขยายตลาดไปยังกลุ่มโรงงานผลิตขนาดเล็กและขนาดกลางของคนไทย ควบคู่ไปกับการรักษาฐานลูกค้ากลุ่มบริษัทข้ามชาติในปัจจุบัน ซึ่งส่วนมากอยู่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
นายยรรยง กล่าวว่า ปัจจุบัน โรงงานอุตสาหกรรมของไทยส่วนใหญ่ยังใช้ระบบ Manual มีเพียง 15% เท่านั้น ที่เริ่มผสมผสานระบบอัตโนมัติเข้ารวมกับกระบวนการผลิต ซึ่งเป็นโรงงานขนาดใหญ่ใน 5 อุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ ยานยนต์, เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์, โรงงานเหล็ก, โรงงานผลิตภัณฑ์ยางและพลาสติก, และการแปรรูป, อาหาร แต่ก็มีแนวโน้มการเติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
เอปสันเล็งเห็นถึงโอกาสทางการตลาดที่เปิดกว้าง และได้เริ่มนำหุ่นยนต์แขนกลขนาดเล็ก 2 ประเภท คือ SCARA Robot และ 6-Axis Robot เข้ามาทำตลาด ได้แก่ รุ่น T3 SCARA Robot, LS-Series SCARA Robot และ C-Series compact 6-Axis robot ซึ่งเหมาะกับหลายอุตสาหกรรมทั้งงานประกอบชิ้นส่วนอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์, โรงงานผลิตเครื่องจักร, ห้องปฏิบัติการอัตโนมัติ, ไลน์การผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์, เซมิคอนดักเตอร์ และอุปกรณ์โทรคมนาคม
สำหรับแผนการตลาดนั้น บริษัทกำลังขยายเครือข่ายพันธมิตร ทั้งด้านการจำหน่าย การบริการหลัง การขาย การทำเทรนนิ่ง และการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ โดยบริษัทจะมีการแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านหุ่นยนต์แขนกล และตลาดอุตสาหกรรมเพิ่มภายในปีนี้ เพื่อบุกตลาดมากขึ้น โดยมีเป้าหมายที่ โรงงานในอุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
ล่าสุด เอปสันได้จับมือกับสถาบันไทย-เยอรมัน (TGI) ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านการวิจัยและพัฒนาบุคลากรและเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมการผลิต พร้อมให้คำปรึกษาและฝึกอบรมแก่โรงงานอุตสาหกรรมในการเปิด “ศูนย์นวัตกรรมหุ่นยนต์เอปสัน” หรือ TGI-EPSON : Epson Robotics Innovation Center เพื่อจัดแสดงและทำการสาธิต พร้อมจัดคอร์สอบรมการใช้งานหุ่นยนต์แขนกลของเอปสันให้แก่ผู้สนใจทั้งบุคลากรจากโรงงานอุตสาหกรรม และจาก System Integrator โดยคอร์สแรกจะเริ่มต้นในเดือนพฤศจิกายนนี้ ประกอบด้วยหลักสูตรเกี่ยวกับพื้นฐานการใช้งาน Epson Robot, SCARA Robot, การบำรุงรักษาหุ่นยนต์ Epson Robot และการประยุกต์การใช้งาน Epson Robot Vision
“เนื่องจากมูลค่าในการลงทุนกับหุ่นยนต์อุตสาหกรรม และระบบอัตโนมัติค่อนข้างสูง และมีขั้นตอนการใช้งานที่ต้องอาศัยเวลาในการทำความเข้าใจ เอปสันจึงได้สร้างทีมพรีเซล เพื่อคอยให้คำปรึกษาเกี่ยวกับสินค้า ลักษณะงาน และขั้นตอนในการทำงาน การติดตั้ง และระบบการสั่งงานและควบคุม รวมถึงการให้ความช่วยเหลือทางเทคนิคในช่วงก่อนและระหว่างการติดตั้งหุ่นยนต์ให้แก่ลูกค้า และทีมบริการหลังการจำหน่ายที่จะคอยให้ความช่วยเหลือภายหลังการติดตั้ง สนับสนุนงานด้านการซ่อมบำรุง ศึกษาความต้องการเพิ่มเติมของลูกค้า เพื่อตอกย้ำความมั่นใจแก่ลูกค้าที่ตัดสินใจเลือกลงทุนกับเอปสัน ดังนั้น ในปีนี้จึงยังไม่ได้ตั้งเป้ายอดขาย แต่ต้องการสร้างการรับรู้แบรนด์ก่อน”