xs
xsm
sm
md
lg

วงเสวนาไอทีพีซี แนะทุกฝ่ายเร่งปรับตัวรับไทยแลนด์ 4.0

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ไอทีพีซีผนึกรัฐ-เอกชน จัดเวทีเสวนา ทรานส์ฟอร์เมชั่นประเทศ รับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ระบุเทคโนโลยีเปลี่ยน ทุกคนต้องก้าวตามให้ทัน แนะทุกภาคอุตสาหกรรมร่วมกันผลักดัน ชูยุทธศาสตร์ด้านดิจิทัล สู่ต้นแบบเมืองอัจฉริยะ

ชมรมนักข่าวสายเทคโนโลยีสารสนเทศ (ITPC) สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย จัดงานเสวนาเรื่อง “Smart City with Smart Governance” ภายในงาน Digital Thailand Big Bang 2017 ที่ห้อง Seminar 6 ชั้น 2 อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยได้รับเกียรติจากนายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เป็นประธานเปิดงาน

นายพิเชฐ กล่าวว่า วิวัฒนาการด้านเทคโนโลยีในขณะนี้มีความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทุกภาคส่วนจำเป็นต้องรีบตามให้ทันความเปลี่ยนแปลง สิ่งที่ชัดเจน คือ ตัวเทคโนโลยีไปเร็วเท่าใด คนเราต้องปรับตัวตลอดเวลาให้ทันสิ่งที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่ใช้อยู่เทคโนโลยีที่เข้ามาเกี่ยวเนื่อง สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ความพร้อมในเรื่องคุณภาพคนถือเป็นเรื่องสำคัญ การรู้เท่าทันเทคโนโลยีต้องรู้ได้กว้างกว่าที่ตัวเองรู้อยู่ ให้ดิจิทัลเข้าไปมีส่วนสำคัญกับการดำรงชีวิต ดังนั้น ทุกภาคอุตสาหกรรมต้องใช้เทคโนโลยีเอาภาครัฐมาร่วมมือกับการทำงานของเอกชนมากขึ้น

ปัจจุบัน ข่าวสารด้านดิจิทัลน้อยเกินไป ดังนั้น ทั้ง 2 ฝ่ายต้องร่วมกัน โดยเฉพาะประเด็นข่าวที่สื่อมวลชนต้องให้ความสนใจ สิ่งที่ตนเป็นห่วง คือ สื่อมวลชน เพราะหลายธุรกิจอุตสาหกรรมมีผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ยกตัวอย่างเช่น แบรนด์โนเกีย ที่เกือบหายไปจากอุตสาหกรรมทั้ง ๆ ที่เป็นบริษัทใหญ่อยู่ดี ๆ และธุรกิจกล้องถ่ายรูป ต้องคำนึงว่าจะอยู่ได้กี่ปี และอาจหายไป ดังนั้น สื่อมวลชนต้องศึกษาพฤติกรรมการบริโภคข่าวสารที่กำลังเปลี่ยนแปลง ต้องหาไอเดียมาใช้ร่วมกันกับการรายงานข่าวปัจจุบัน ซึ่งผู้บริโภคเสพข่าวจากที่ใดก็ได้ จะเห็นว่ามีการปิดสำนักพิมพ์ และสิ่งสำคัญ คือ จะปรับบทบาทอย่างไรให้สื่อมวลชนที่เป็นปัจจัยสำคัญให้อยู่ได้อย่างยั่งยืนได้อย่างไร

ด้านนายครรชิต มาลัยวงศ์ ราชบัณฑิต สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ และนายกสภามหาวิทยาลัยศรีปทุม และประธานชมรมส่งเสริมธรรมาภิบาล และความรับผิดชอบต่อเทคโนโลยีดิจิตอลไทย (NaDGA) กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงที่จะเข้าสู่ยุคดิจิทัลที่จะต้องนำไปสู่การใช้งานเทคโนโลยี และการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต อยากให้ทุกคนเข้าใจก่อนที่จะไปสนใจเรื่องการเข้าถึงของเทคโนโลยี ซึ่งเป็นกับดักทางด้านความคิด แต่กับดักที่แท้จริงนั้น คือ การที่จะเปลี่ยนแปลงไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 ดังนั้น อยากให้มองว่า การทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐ และเอกชน จะต้องมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ทันที และต้องมีเอกภาพด้านเป้าหมาย วัตถุประสงค์ และแนวทางดำเนินงานร่วมกัน โดยภาคเอกชนจะต้องมีความจริงใจในเรื่องการร่วมมือกับภาครัฐ

ทั้งนี้ ความร่วมมือกันระหว่างภาครัฐ และเอกชน จะต้องดำเนินการตามกฏหมาย ไม่มีการเอื้อประโยชน์ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นพิเศษ คำนึงถึงประโยชน์สังคม และประเทศ เป็นหลัก ซึ่งหากภาคเอกชน และภาครัฐ ไม่ร่วมมือกัน ประเทศจะขับเคลื่อนไม่ได้ โดยเฉพาะเรื่องธรรมาภิบาล ซึ่งเป็นกลไกสำคัญที่จะนำพาประเทศไปสู่ต้นแบบเมืองอัจฉริยะ (สมาร์ทซิตี)

ขณะที่นายจุมพต ภูริทัตกุล หัวหน้าคณะผู้บริหาร ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ กลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า หัวเว่ยมีข้อเสนอ และแนวความคิด ที่จะช่วยประเทศไทยพัฒนาไปสู่เมืองอัจฉริยะ โดยจะต้องมีองค์ประกอบสำคัญ 4 ด้านด้วยกัน คือ 1. การเชื่อมต่อของเทคโนโลยีต้องมีการพัฒนาในรูปแบบโซลูชันแบบครบวงจร 2. การเชื่อมต่ออุปกรณ์อัจฉริยะ (สมาร์ท ดีไวซ์) กับอินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ (ไอโอที) 3. ดาต้า เซ็นเตอร์ และ 4. แอปพลิเคชัน ซึ่งจะต้องเป็นความร่วมมือกันในทุกภาคส่วน จะต้องพัฒนาเทคโนโลยีร่วมกันสนับสนุนสู่การเป็นสมาร์ทซิตีที่แท้จริง

“การทำให้ประชาชนเข้าถึงสมาร์ทซิตีควรดูที่เป้าหมายตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 จะต้องพัฒนาให้พ้นกับดักรายได้ปานกลาง นำไปสู่รายได้สูงของค่าเฉลี่ยรายได้ต่อประชากร และต้องทำให้เกิดการรับรู้ในแต่ละช่วงอายุ ให้เข้าถึงประโยชน์ของเทคโนโลยีหัวเว่ย ที่มีความร่วมมือทั้งภาครัฐ และเอกชน การเป็นเมืองอัจฉริยะสามารถทำได้หลายแนวทาง”

ด้าน พ.อ. สรรพชัย หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กรอบนโยบายที่จะมุ่งสู่ไทยแลนด์ 4.0 นั้น ต้องพัฒนาคนให้มีรายได้อย่างยั่งยืน ผ่านการใช้งานเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มรายได้ ซึ่งที่ผ่านมา ภาครัฐ และเอกชน ได้ร่วมมือกันมาอย่างต่อเนื่อง โดยการพัฒนาประเทศนั้น ควรมีการดำเนินงานในรูปแบบสร้างระบบนิเวศของอุตสาหกรรม (อีโคซิสเตมส์) ผลักดันให้เกิดการสร้างสรรค์ เทคโนโลยีใหม่ ๆ เกิดเทคโนโลยีที่สร้างให้เกิดกิจกรรมโดยรวม และสร้างให้เกิดการใช้งานจริง สู่การพัฒนาและสร้างเศรษฐกิจให้แก่ประเทศ เช่น โครงการดิจิตอล พาร์ค ไทยแลนด์ ที่ จ. ชลบุรี นั้น ต้องการให้เกิดการลงทุนของทุกกลุ่มอุตสาหกรรม เกิดนักพัฒนาหน้าใหม่ มีการบ่มเพาะความคิดจากเหล่าสตาร์ทอัป และเกิดผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ให้กับประเทศ

สำหรับการนำเข้าอุปกรณ์ไอที อุปกรณ์ต่าง ๆ มาใช้ในประเทศไทย ภาครัฐควรจะสนับสนุน จะต้องดูว่า ภาครัฐจะต้องดำเนินการอย่างไรให้เกิดระบบนิเวศของอุตสาหกรรมดังกล่าว เกิดการสร้างคน สร้างการลงทุนให้เกิดเทคโนโลยีขึ้นมา ดังนั้น การดำเนินการของภาคเอกชนถือว่าได้ดำเนินการไปไกลระดับหนึ่งแล้ว ดังนั้น รัฐบาลควรผลักดันให้เกิดการใช้งานได้จริง สร้างนวัตกรรมจากธุรกิจให้เกิดขึ้นได้จริงจากเทคโนโลยี และสอดคล้องกับความต้องการของทุกอุตสาหกรรม
กำลังโหลดความคิดเห็น