ถือเป็นมิติใหม่ของวงการสื่อออนไลน์ เมื่อบริษัทผู้เผยแพร่หนังสือการ์ตูนสัญชาติสก็อต ถูกเจ้าพ่อบริการสตรีมมิงอย่าง เน็ตฟลิกซ์ (Netflix) ซื้อกิจการ ส่งให้นักเขียนการ์ตูนดัง “มาร์ก มิลลาร์” (Mark Millar) และคาแร็กเตอร์ในเครือที่สามารถนำไปสร้างเป็นรายการทีวี และภาพยนตร์ ตกอยู่ในมือ Netflix อย่างเต็มตัว
อย่างไรก็ตาม คาแร็กเตอร์ดังอย่าง Kick-Ass และ Kingsman ถูกระบุว่า ไม่รวมในดีลนี้
การซื้อสำนักพิมพ์การ์ตูนมิลลาร์เวิร์ล (Millarworld) ได้รับความสนใจอย่างมาก เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ Netflix ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจวิดีโอสตรีมมิง อายุกว่า 20 ปี ตัดสินใจซื้อบริษัทเพื่อสร้างคลังซีรีส์ และภาพยนตร์ที่เป็นต้นฉบับสำหรับดึงดูดลูกค้าใหม่ทั่วโลก
รายละเอียดเม็ดเงินการซื้อขายไม่ถูกเปิดเผยในขณะนี้
การซื้อครั้งนี้ถูกนำไปเชื่อมกับกลยุทธ์ของ วอลต์ดีสนีย์ (Walt Disney Co.) ที่ซื้อสตูดิโออย่างมาร์เวล (Marvel Studios) เมื่อปี 2009 ทำให้บริษัทกลายเป็นเจ้าของภาพยนตร์ดังเงินล้านอีกหลายรายการ รวมถึงรายการทีวี และของเล่นรูปซูเปอร์ฮีโรหลากชื่อ โดยทุกวันนี้ โชว์ของ Marvel ก็ถูกเผยแพร่บน Netflix
นอกจากนี้ วอร์เนอร์บราส์ (Warner Bros) ยังซื้อบริษัทดีซีคอมมิกส์ (DC Comics) ในปี 1968 การที่ Millarworld ถูกซื้อไป จึงเป็นการซื้อกิจการหนังสือการ์ตูนครั้งที่ 3 ที่มีขนาดใหญ่เช่นนี้
Millarworld เป็นบริษัทที่ก่อตั้งโดย มาร์ก มิลลาร์ อดีตพนักงาน Marvel เขาทำงานร่วมกับภรรยา ลูซี มิลลาร์ (Lucy Millar) โดยปัจจุบัน การ์ตูน 3 เรื่องของ Millarworld เช่น “Wanted”, “Kick-Ass” และ “Kingsman” ถูกนำไปดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ จนทำเงินได้รวมกันมากกว่า 913 ล้านเหรียญสหรัฐ
แม้ Kick-Ass และ Kingsman จะไม่ถูกรวมเป็นส่วนหนึ่งของดีล แต่การซื้อกิจการครั้งนี้ก็ทำให้ Netflix มีการ์ตูนดังอื่นในมือที่หลากหลาย ทั้งที่เป็นนิยายวิทยาศาสตร์ โลกแฟนตาซี รวมถึงซูเปอร์ฮีโร และอีกหลายตัวละครที่เป็นคนธรรมดา
เท็ด ซาแรนโดส (Ted Sarandos) ประธานฝ่ายเนื้อหาของ Netflix เชื่อมั่นว่า มาร์ก มิลลาร์ มีความสามารถเทียบเท่านักเขียนการ์ตูนเงินล้าน “สแตน ลี” (Stan Lee) ผู้สร้างการ์ตูนอมตะวัย 94 ปี อย่าง Spider-Man, Avengers และ X-Men ผู้บริหารของ Netflix ชี้ว่า หัวหอก Millarworld คือ สแตน ลี ยุคใหม่
มิลลาร์ ใช้เวลา 8 ปีในการทำงานที่ Marvel ซึ่งเป็นช่วงที่เขาเขียนการ์ตูน และเส้นเรื่อง จนมาเป็นภาพยนตร์ดังอย่าง Logan, Captain America : Civil War ความสามารถนี้ทำให้มีการคาดการณ์ว่า Netflix อาจเสนอเงินซื้อกิจการสูงถึง 250 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นไปตามนโยบายเพิ่มงบประมาณเพื่อสร้างภาพยนตร์ของตัวเอง หลังจากที่ผ่านมา Netflix เน้นพัฒนาภาพยนตร์และภาพยนตร์ชุดต้นทุนต่ำมาก่อน
ธันวาคมที่ผ่านมา เจ้าพ่อสตรีมมิงใช้งบกว่า 90 ล้านเหรียญสหรัฐ ไปกับการสร้างภาพยนตร์ที่มี วิล สมิธ (Will Smith) เป็นดาวเด่น ทั้งหมดนี้ไม่ทำให้ Netflix ขนหน้าแข้งร่วงเพราะบริษัทมีรายได้มากกว่า 2.79 พันล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อไตรมาสที่ผ่านมา บนกำไรมากกว่า 65.6 ล้านเหรียญสหรัฐ
สำหรับการซื้อกิจการครั้งนี้ Millarworld จะสร้างและเผยแพร่การ์ตูนใหม่ภายใต้ชื่อ Netflix นอกจากนี้ ยังอาจทำให้แบรนด์ Netflix ขยายไปสู่สินค้าเพื่อผู้บริโภคอื่นมากขึ้น โดยที่ผ่านมา Netflix เริ่มผลิตและจำหน่ายสินค้าจากภาพยนตร์ชุดดังของบริษัท Stranger Things แล้ว ทั้งหมดนี้ทำให้มูลค่าหุ้นของ Netflix เพิ่มขึ้นทันที 0.6% ทันทีที่ประกาศดีล แตะระดับ 181.37 เหรียญสหรัฐในตลาดแนสแดค