ไม่ใช่แค่ชาวไอทีตาดำ ๆ อย่างเรา แต่ทิม คุก (Tim Cook) ซีอีโอแอปเปิลเองยังเอ่ยปากว่า แทบจะรอไม่ไหวให้ถึงเวลาวางจำหน่ายสินค้านวัตกรรมของบริษัทในไม่กี่เดือนนับจากนี้ คำพูดนี้เป็นเพียงหนึ่งในจุดยืนที่สะท้อนอย่างไม่ปิดบังว่า แอปเปิลตั้งความหวังสูงกับไอโฟนรุ่นใหม่ “iPhone 8” เช่นเดียวกับซัมซุง ที่วาดวิมานไว้กับสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นต่อไป “Note 8” อย่างสวยหรู
ความสำคัญของ 2 สมาร์ทโฟนรุ่นยักษ์ ทำให้ข่าวลือภาพหลุดของทั้ง iPhone 8 และ Note 8 ถูกส่งต่อเป็นไฟลามทุ่ง แม้จะไม่มีการยืนยันใด แต่ชาวเน็ตก็ติดตามคอยเก็บข้อมูลความเป็นไปตั้งแต่ทั้งคู่ยังอยู่ในท้องแม่ แถมยังถูกนำมาโยงเป็นคู่แข่งกันตั้งแต่ยังไม่ทันคลอด
ข้อมูลล่าสุดที่ถูกยืนยันในขณะนี้ คือ คำกล่าวของผู้บริหาร โดยช่วงสัปดาห์ต้นเดือนสิงหาคม แอปเปิลได้ออกมาประกาศตัวเลขผลประกอบการไตรมาสเดือนเมษายน-มิถุนายน ที่เพิ่งผ่านไป แต่ความสนใจของนักสังเกตการณ์กลับอยู่ที่ตัวเลขคาดการณ์ไตรมาส 3 และ 4 ในครึ่งปีหลัง ซึ่งเป็นตัวเลขที่ทำให้รู้ได้ว่า ทั้ง 2 ค่ายคาดฝันกับ 2 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ และใหญ่อย่างไรบ้าง
กรณีของแอปเปิล ทิม คุก ไม่ได้เอ่ยเฉพาะเจาะจงถึง iPhone 8 แต่กล่าวกับนักวิเคราะห์วอลล์สตรีทเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ในโอกาสประกาศผลประกอบการว่า ตัวเขาแทบจะรอไม่ไหวที่จะจำหน่ายสินค้าที่มีระบบซอฟต์แวร์นวัตกรรมอย่าง iOS, macOS, watchOS และ HomePod ซึ่งล้วนถูกเปิดตัวในงานประชุมนักพัฒนาเมื่อมิถุนายนที่ผ่านมา โดยทั้งหมดนี้จะเริ่มสะท้อนผลลัพธ์สอบได้หรือสอบตกในฤดูใบไม้ร่วงปีนี้
จุดหนึ่งที่เป็นเงื่อนงำของ iPhone 8 คือแอปเปิลตั้งความหวังไว้สูงมากกับสินค้าใหม่ที่จะจำหน่ายในครึ่งหลังของปีนี้ เฉพาะไตรมาสเดือนกันยายน แอปเปิล คาดว่า บริษัทจะทำยอดขายได้ระหว่าง 4.9-5.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้น 4-10% จากไตรมาสเดียวกันในปี 2016 ก่อนจะเข้าสู่ช่วงเทศกาลจับจ่ายปลายปีที่แอปเปิลทำรายได้มหาศาล
สัดส่วนเป้าหมายรายได้ 4.9 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐนี้ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ตั้งไว้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะแอปเปิลมั่นใจกับแรงอัดฉีดของคุณสมบัติใหม่อย่างการรองรับเทคโนโลยีเสมือนจริงเออาร์ “ARKit” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในระบบปฏิบัติการ iOS 11 ที่ผู้ใช้จะได้เห็นภาพกราฟิกเสมือนจริงไปพร้อมกับภาพวิวตรงหน้า
แม้จะอยู่ในช่วงทดลองใช้งาน แต่ซีอีโอแอปเปิลเชื่อมั่นว่า ARKit จะสามารถตอบโจทย์ทั้งอุตสาหกรรมบันเทิง ภาคการศึกษา เกม และธุรกิจ ที่สำคัญ ARKit จะทำงานได้บนอุปกรณ์ iOS รุ่นเก่าได้ เพียงแต่จะทำงานได้ดีกว่าบนอุปกรณ์ใหม่ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS 11 จุดนี้ทำให้ซีอีโอแอปเปิลย้ำว่า iOS 11 จะเป็นแพลตฟอร์มให้บริการ AR ที่ใหญ่ที่สุดในโลกแน่นอน
AR หรือ Augmented reality นี่เองที่ถูกร่ำลือนักว่าจะเป็นหนึ่งในคุณสมบัติใหม่บน iPhone 8 หลายแหล่งข่าวฟันธงว่า iPhone 8 จะมีกล้อง 3 มิติที่รองรับการใช้งาน AR ขั้นสูง นำไปสู่ข่าวลือว่าอาจมีระบบสแกนใบหน้าแบบ 3 มิติแทนสแกนลายนิ้วมือก็ได้
นอกจาก AR ข้อมูลที่ตรงกันของภาพหลุด iPhone 8 หลายครั้ง คือ ดีไซน์ไร้ขอบพร้อมกล้องคู่ และความละเอียดหน้าจอระดับเทพ เรื่องนี้นักพัฒนาผู้วิเคราะห์ซอฟต์แวร์ระบบลำโพงอัจฉริยะในบ้านของแอปเปิล “โฮมพ็อด” (HomePod) ชื่อ สตีฟ ทรอตัน-สมิธ (Steve Troughton-Smith) พบว่า ชุดคำสั่งแสดงถึงความละเอียดหน้าจอ iPhone รุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวในกันยายนนี้ว่า จะมีความละเอียดสูงสุดถึง 2436x1125 พิกเซล สูงกว่า iPhone 7 ที่มีความละเอียด 1334 × 750 พิกเซล (รุ่นหน้าจอ 4.7 นิ้ว)
หน้าจอดั้งเดิมความละเอียด 1334 × 750 พิกเซล ที่แอปเปิลเรียกว่า เป็นเรตินาดิสเพลย์ (Retina display) นั้น คิดเป็นความละเอียด 326 ppi หรือพิกเซลต่อนิ้ว ข่าวลือระบุว่า ความละเอียด 2436x1125 จะมาพร้อมหน้าจอขนาด 5.15 นิ้ว คำนวณได้เป็นความละเอียด 521 ppi
ความละเอียดหน้าจอที่เพิ่มขึ้นนี้สามารถนำไปเทียบกับไอโฟนยุคแรกที่มีความละเอียด 480x320 ก่อนจะถูกเพิ่มเท่าตัวเป็น 960x640 กลายเป็นหน้าจอ Retina display ดั้งเดิมบน iPhone 4 จากนั้น แอปเปิลจึงเพิ่มความละเอียดให้สามารถแสดงภาพที่ใหญ่ขึ้น 2 เท่าในไอโฟนรุ่นปัจจุบัน ทำให้หลายฝ่ายคาดกันว่า Retina รุ่นใหม่ล่าสุดจะขยายเป็น 3 เท่าก็ได้ในครั้งนี้
iPhone 8 ที่คาดกันว่าจะเปิดตัวในกันยายนนี้ ยังมีข่าวลือว่ากำลังขาดแคลนชิ้นส่วน ทำให้อาจต้องเลื่อนจัดส่งเครื่องไปเป็นปลายปี ที่สำคัญ คือ อาจไม่มีสีขาวให้เลือก ขณะที่ดีไซน์จอไร้ขอบไม่มีปุ่มโฮมนั้นแอปเปิลอาจจะใช้ปุ่มเสมือน ซึ่งจะทำให้บริเวณที่ตั้งปุ่มโฮมดั้งเดิมหลายเป็น “พื้นที่ฟังก์ชัน” หรือ function area สำหรับให้ผู้ใช้ได้สัมผัสเพื่อการทำงานที่ยืดหยุ่นหลากหลายกว่า
*** Note 8 เจอกันปลาย ส.ค.
ดีเจ โกห์ (DJ Koh) ประธานธุรกิจโทรคมนาคม ซัมซุง เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนกันยายน คนไทยจะได้สัมผัสสมาร์ทโฟนใหม่ Samsung Galaxy note 8 ล่าสุด มีรายงานว่า ซัมซุงยึดวันที่ 23 สิงหาคม 2017 เป็นฤกษ์ดีจัดงานอีเวนต์อันแพก (Unpacked) ที่มหานครนิวยอร์ก สหรัฐฯ คาดจะเป็นเวทีเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหญ่ 6.3 นิ้ว ซึ่งจะลดแบตเตอรี่ลงเพื่อไม่ให้ซ้ำรอย Note 7 ที่ระเบิด
ซัมซุงประกาศไม่ยอมแพ้พิษบาดแผล Note 7 ระเบิดตั้งแต่ตุลาคมปีที่แล้ว โดยยืนยันว่า รุ่นใหม่ Note 8 จะพร้อมเปิดตลาดปีนี้โดยจะเสนอโปรแกรมสิทธิพิเศษให้ลูกค้า Note 7 ในเกาหลีใต้ สามารถซื้อ Note 8 ได้ในราคาครึ่งเดียว
วันนี้ Note 8 เชื่อว่าจะมาพร้อมหน้าจอความละเอียดระดับ 4K (4428 x 2160 พิกเซล) บนอัตราส่วน 18.5:9 กล้องคู่ที่ประกอบด้วยเลนส์ไวด์ (Wide) ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล และเลนส์เทเลโฟโต้ (Telephoto) ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล
Note 8 ถูกวิเคราะห์ว่าจะมาพร้อมระบบสแกนลายนิ้วมือด้านหลังเครื่อง อาจมีหน่วยความจำ RAM ขนาด 6 GB คาดว่ามีพื้นที่เก็บข้อมูลให้เลือกสูงสุดถึง 256 GB
ข่าวลือย้ำว่า Note 8 จะเหนือกว่า Galaxy S8 ที่การรองรับปากกา S Pen ผู้ใช้สามารถเขียนปากกาอัจฉริยะนี้บนหน้าจอเหมือนการเขียนบนกระดาษ นอกจากนี้ Note 8 จะเป็นประตูสู่การแจ้งเกิดผู้ช่วยอัจฉริยะ “บิกซ์บี” (Bixby) ที่มีคิวเปิดตัวปลายเดือนสิงหาคมนี้
ข่าวลือเหล่านี้แม้จะไม่ได้รับการยืนยัน แต่แหล่งข่าวจำนวนไม่น้อยสามารถแสดงภาพสมาร์ทโฟนตัวจริงได้ไม่ผิดเพี้ยน ตัวอย่างสำคัญคือผู้ใช้ชื่อ “ไอซ์ยูนิเวิร์ส” (Ice Universe) ที่เป็นแหล่งข่าวหลุดชื่อดังบนทวิตเตอร์ (Twitter) ที่เคยเผยแพร่ภาพตัวเครื่อง S8 ขณะทำงานให้เห็นก่อนเปิดตัวได้จริง
ล่าสุด เจ้าพ่อข่าวหลุดอย่างอีวาน บลาส (Evan Blass) ได้เปิดเผยภาพที่เชื่อว่าจะเป็น Note 8 ตอกย้ำว่าเครื่องจะมีระบบกล้องคู่บนตัวเครื่องขอบโค้ง ไร้ปุ่มโฮมเช่นกันกับ iPhone 8 แต่มีระบบอ่านลายนิ้วมือที่ด้านหลังแทน
เพื่อความปลอดภัย ขนาดความจุแบตเตอรี่ Note 8 อาจน้อยลงลง จากเดิม 3500 mAh บน Note 7 เหลือ 3300 mAh โดย Note 7 เป็นสมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่ที่ถูกสั่งหยุดผลิตเมื่อปีที่แล้ว เพราะพบปัญหาแบตเตอรีระเบิดจนสร้างความเสียหายให้กับทรัพย์สิน และร่างกายของผู้ใช้
*** แพงเท่าไรก็ขายกระฉูด ?
Note 8 และ iPhone 8 คาดว่าจะปรับราคาสูงขึ้นกว่าทุกปี อาจเริ่มต้นที่ 1,000 เหรียญสหรัฐ หรือราว 35,000 บาททั้งคู่ บวกลบอีกราว 100 เหรียญสหรัฐ ทั้งหมดนี้ต้นสังกัดอย่างแอปเปิล และซัมซุง เชื่อมั่นว่า สาวกจะกัดฟันอดออมซื้อสมาร์ทโฟนในดวงใจมาใช้แน่นอน
เหตุที่ทำให้เชื่อเช่นนี้ เพราะขณะที่ iPhone 8 และ Note 8 ยังไม่วางตลาด แอปเปิลยังสามารถจำหน่ายไอโฟนได้ 41 ล้านเครื่องในไตรมาสที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นจากช่วงกลางปี 2016 ด้านซัมซุง แม้ส่วนแบ่งในตลาดจีนจะลดลงเหลือ 3% เท่านั้น แต่ก็ยังสามารถดันสมาร์ทโฟนตระกูล J ขึ้นมาครองตารางแชมป์มือถือขายดีของโลก
บริษัทวิเคราะห์ข้อมูล Strategy Analytics ได้รายงานเมื่อพฤษภาคมที่ผ่านมาว่า สมาร์ทโฟนที่ขายดีที่สุดในตลาดสมาร์ทโฟนโลกช่วงมกราคม-มีนาคม ของปี 2017 นั้น 5 อันดับแรกประกอบไปด้วยแชมป์ iPhone 7 รองลงมาเป็น iPhone 7 Plus, Oppo R9s, Samsung Galaxy J3 และอันดับ 5 คือ J5
ว่าแล้ว ก็รอกันต่อไป.