ETDA เผยไทยยังไม่เจอมัลแวร์เรียกค่าไถ่ชนิดใหม่ชื่อ “Petya” ที่กำลังโจมตี และสร้างความเสียหายให้แก่หลายประเทศในแถบทวีปยุโรป โดยเฉพาะประเทศรัสเซีย และยูเครน ล่าสุด ทางเอ็ตด้า ได้ทำการแจ้งเตือนหน่วยงานรัฐ รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนผ่านทางหน้าเว็บไซต์ และเฟซบุ๊กเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นางสุรางคณา วายุภาพ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ ETDA กล่าวว่า กรณีมัลแวร์เรียกค่าไถ่ชนิดใหม่ชื่อ “Petya” กำลังโจมตี และสร้างความเสียหายให้แก่หลายประเทศในแถบทวีปยุโรป โดยเฉพาะประเทศรัสเซีย และยูเครน ล่าสุด ทาง ETDA ได้ทำการแจ้งเตือนหน่วยงานรัฐ รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนผ่านทางหน้าเว็บไซต์ และเฟซบุ๊ก เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยวิธีป้องกันจะเป็นในลักษณะเดียวกันกับมัลแวร์เรียกค่าไถ่ “Wanna Cry” คือ การปรับปรุงเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เป็นเวอร์ชันปัจจุบันตลอดเวลา ควรสำรองข้อมูลสำคัญไว้อย่างสม่ำเสมอ ไม่ควรเปิดอ่านอีเมลที่ไม่รู้ที่มาที่ไป ซึ่งในระหว่างใช้งานหากพบว่า เครื่องคอมพิวเตอร์หยุดทำงาน พร้อมขึ้นหน้าจอสีดำ และมีการระบุให้ตรวจสอบ และแก้ไขฮาร์ดดิสก์ หรือในภาษาทางเทคนิคจะขึ้นว่า “CHKDSK” ขอให้รีบปิดเครื่องทันที เนื่องจาก Petya จะเข้ารหัสข้อมูลในคอมพิวเตอร์หลังเครื่องคอมพิวเตอร์รีสตาร์ท หรือเริ่มต้นการทำงานใหม่ จากนั้น ให้เร่งติดต่อผู้ดูแลระบบเป็นการเร่งด่วน หรือติดต่อมายัง ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนปัญหาออนไลน์หมายเลข 1212 และไทยเซิร์ตตลอด 24 ชม.
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน ทาง ETDA ยังไม่พบการระบาดของ Petya ในประเทศไทยแต่อย่างใด เนื่องจากพฤติกรรมของผู้ไม่หวังดีที่ปล่อยไวรัสดังกล่าว มักโจมตีพร้อม ๆ กันในพื้นที่ประเทศเป้าหมาย ซึ่งในส่วนของประเทศไทยเอง ไทยเซิร์ตก็ได้มีการประสานงานกับหลายประเทศในแถบเอเชียแปซิฟิก เพื่อจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ Wanna Cry กับ Petya ในทางเทคนิคถือเป็นมัลแวร์เรียกค่าไถ่เช่นเดียวกัน แต่จะแตกต่างกันในทางเทคนิค คือ Wanna Cry จะเข้ารหัสที่ตัวไฟล์ในเครื่องคอมพิวเตอร์โดยตรง ส่วน Petya จะเข้ารหัสจากตัวสารบัญในระบบปฏิบัติการส่งผลให้ผู้ใช้งานไม่สามารถเข้าถึงไฟล์ข้อมูลได้เช่นเดียวกัน