“ฐากร” ระบุประชุม กสทช. นัดพิเศษ สั่งยุบบอร์ด กสท.-กทค. พร้อมทั้งพิจารณาคุณสมบัติอนุกรรมการทุกคณะให้สอดคล้องกับกฎหมายใหม่ ส่วนบอร์ด กสทช. ยังทำงาน และมีอำนาจเต็มร้อยจนกว่าจะหมดวาระ 7 ต.ค. นี้ ด้าน “เขมทัต” บอสใหญ่ อสมท วิ่งโร่ คืนคลื่น 2600 MHz หวังเงินเยียวยา หลังกฎหมายมีผลบังคับใช้
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า ภายหลัง พ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษาไปเมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 2560 และมีผลบังคับใช้ 23 มิ.ย. 2560
ส่งผลให้ให้ กสทช. จัดให้มีการประชุมคณะกรรมการ กสทช. นัดพิเศษ เพื่อยุบคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เป็นอนุกรรมการกลั่นกรองงานของ กสทช. ด้านกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ พร้อมกับยุบคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) เป็นอนุกรรมการกลั่นกรองงานของ กสทช. ด้านกิจการโทรคมนาคม
ขณะเดียวกัน อนุกรรมการทั้ง 2 ชุดจะไม่มีอำนาจในการลงมติตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ ได้เหมือนสมัยที่เป็น กสท. และ กทค. โดยจะต้องนำเรื่องต่าง ๆ ให้ที่ประชุม กสทช. ลงมติเท่านั้น ขณะที่คณะกรรมการ กสทช. ทุกคนยังคงสามารถดำรงตำแหน่งเดิม และมีอำนาจต่อไปจนกว่าจะครบวาระดำรงตำแหน่งในวันที่ 7 ต.ค. 2560
ส่วนอนุกรรมการต่าง ๆ ที่ตั้งขึ้นเพื่อทำงานให้ กสท. และ กทค. เดิม ก็ต้องมีการพิจารณาทบทวนคุณสมบัติของอนุกรรมการที่มีด้วย เนื่องจากในกฎหมายใหม่ระบุคุณสมบัติเพิ่มตามมาตรา 7 (12),(13) และ (14) ดังนั้น หากอนุกรรมการขาดคุณสมบัติก็ต้องหมดสภาพการเป็นอนุกรรมการ ส่วนผู้ปฏิบัติงานในสำนักงานอำนวยการต่าง ๆ ก็จะมีการรวมการทำงานให้กระชับขึ้น แต่จะไม่กระทบต่อตำแหน่ง และเงินเดือนของเจ้าหน้าที่เดิมแต่อย่างใด
“ส่วนของงบประมาณที่ กสทช. จัดสรรนั้น นับจากนี้ กสทช. จะต้องเสนอให้คณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (บอร์ดดีอี) ให้ความเห็นก่อน จึงจะนำมาปรับปรุง, แก้ไข และจัดสรรงบประมาณต่อไป โดยในเดือน ก.ค. นี้ กสทช. จะมอบเงินรายได้ 15% ของ กสทช. งวดที่สองให้กองทุนดีอี อีก 1,042 ล้านบาท”
นายฐากร กล่าวว่า ในช่วงเช้าที่ผ่านมา นายเขมทัตต์ พลเดช ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ได้เข้าพบเพื่อคืนคลื่นความถี่ย่าน 2600 MHz ไม่น้อยกว่า 90 MHz แล้ว ตามที่กฎหมายระบุให้สามารถจ่ายเงินค่าเยียวยาคลื่นให้กับเจ้าของคลื่นที่ประสงค์จะคืนได้
โดยนำเงินจากการประมูลคลื่นมาให้ ซึ่งเรื่องนี้อยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรมการพิจารณาอยู่ ที่จะต้องมีตัวแทนจากกระทรวงการคลัง, สำนักงานอัยการสูงสุด และสำนักงานกฤษฎีกา ร่วมเป็นคณะกรรมการด้วย
***ดีอี ตั้งคณะทำงานหารือร่วมกัน
นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวว่า หลังจากนี้จะมีการตั้งคณะทำงานหารือร่วมกันในรายละเอียดของการเป็นหน่วยงานระดับประเทศกับองค์กรระหว่างประเทศ รวมถึงการปรับปรุง พ.ร.บ.ดังกล่าว ให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญภายใน 180 วัน (ภายใน 2 ต.ค. 2560)
โดยเฉพาะมาตรา 60 และ มาตรา 274 ซึ่งคาดว่าจะมีการแก้ไขเล็กน้อยว่าการประเมินการทำงานของกสทช.นั้นจะต้องขึ้นอยู่กับภาครัฐ หรือ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) รวมทั้งจะจัดตั้งคณะทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงดีอี สำนักงาน กสทช. สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (สคก.) เพื่อยกร่าง พ.ร.บ. ให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย