ไมโครซอฟท์ (Microsoft) ตัดสินใจออกแพตช์เวอร์ชันพิเศษที่สามารถใช้งานได้ทุกระบบปฏิบัติการแล้ว ทำให้ผู้ใช้งานระบบปฏิบัติการอย่างวินโดวส์ เอ็กซ์พี (Windows XP) และวินโดวส์ วิสต้า (Windows Vista) ก็สามารถอัปเดตได้
จากที่บริษัทเคยประกาศว่า จะหยุดการซัปพอร์ตระบบปฏิบัติการวินโดวส์ เอ็กซ์พี ไปตั้งแต่เดือนเมษายน ปี 2014 แต่จากเหตุการณ์มัลแวร์เรียกค่าไถ่ “WannaCry” ที่ทำให้มีเครื่องคอมพิวเตอร์ถูกล็อกไม่ให้สามารถทำงานได้กว่า 75,000 เครื่องใน 99 ประเทศทั่วโลก และบางรายต้องจ่ายเงิน 300-600 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 10,200-20,300 บาท) เพื่อให้อาชญากรปลดล็อกให้นั้น นำไปสู่การตัดสินใจครั้งใหม่ของไมโครซอฟท์ ที่น่าติดตาม
เอเดรียน ฮอลล์ ผู้จัดการทั่วไปแผนกการรับมือกับภาวะวิกฤต (Crisis Management) ของไมโครซอฟท์ กล่าวว่า “ในการรีวิวอัปเดตของเดือนนี้มีการพบช่องโหว่บางแห่งที่อาจเกิดความเสี่ยงให้เกิดการเจาะระบบโดยผู้ไม่ประสงค์ดีที่อาจเป็นได้ทั้งอาชญากร และหน่วยงานภาครัฐได้ วันนี้ เราจึงพัฒนาแพตช์ซีเคียวริตีเพื่ออุดช่องโหว่นั้น โดยแพตช์ดังกล่าวสามารถใช้ได้กับทุกระบบปฏิบัติการของวินโดวส์ รวมถึงเวอร์ชันอย่าง Windows XP, Windows Vista และเวอร์ชันอื่นๆ ที่เคยบอกว่า จะยกเลิกการซัปพอร์ตไปแล้วด้วย”
โดยไมโครซอฟท์ ได้เปิดให้ดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ของไมโครซอฟท์ หรือรอได้จากส่วนของ Windows Update
สำหรับใครก็ตามที่ยังใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ เอ็กซ์พี อยู่ และตระหนักดีถึงความน่ากลัวของมัลแวร์ WannaCry ก็ควรอย่างยิ่งที่จะอัปเดตแพตช์นี้โดยเร็ว แม้ว่าผลกระทบที่เกิดกับคอมพิวเตอร์ Windows XP จากมัลแวร์เรียกค่าไถ่จะไม่ร้ายแรงเท่ากับบางเวอร์ชัน เช่น วินโดวส์ 7 (ที่ไม่ได้ติดตั้งแพตช์) ก็ตาม
แต่งานนี้ที่น่าสนใจกว่าอาจเป็นช่องโหว่ที่เสี่ยงต่อการถูกโจมตีรอบใหม่ที่ทำให้ไมโครซอฟท์ กังวลอย่างมากจนต้องออกแพตช์ครั้งนี้ เพราะไม่มีการอธิบายใดๆ เพิ่มเติมถึงผู้ที่มีโอกาสจะลงมือ
