กระทรวงดีอี เร่งรวบรวมหลักฐานประสานผู้ให้บริการแอปพลิเคชันไลน์ (LINE) ดำเนินการกับผู้ใช้ที่หลอกลวงทำใบขับขี่ปลอม พร้อมชวนประชาชนผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ช่วยสอดส่อง หากพบผู้กระทำผิดให้แจ้งรายงานผู้ให้บริการแอปพลิชันได้ทันที พร้อมแจ้งเบาะแสไปยังหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องโดยตรง หรือแจ้งทางสายด่วน 1111 เพื่อป้องกันปัญหาบานปลาย
น.อ.สมศักดิ์ ขาวสุวรรรณ์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีการรับจัดทำใบขับขี่ปลอมผ่านแอปพลิเคชันไลน์ ในรูปแบบผิดกฎหมาย โดยที่ไม่ต้องสอบใบขับขี่ ด้วยวิธีการชำระเงินพร้อมแนบเอกสารส่วนตัวนั้น
กรณีดังกล่าวถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ซึ่งหากเป็นการเสนอขายใบขับขี่ปลอมจะผิดทั้งผู้ปลอม และผู้ใช้เอกสารราชการปลอม และที่น่าห่วงใย คือ หากผู้ซื้อได้ใช้เอกสารดังกล่าวโดยปราศจากความรู้ หรือทักษะที่แท้จริง ก็อาจเป็นอันตรายแก่ประชาชนบนท้องถนน สร้างความเสียหายอื่นๆ ตามมา ผู้ตัดสินใจซื้อโดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนก็จะได้รับผลร้ายภายหลัง
ดังนั้น กระทรวงดีอี ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลภายใต้ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 จึงได้มอบหมายให้ผู้รับผิดชอบ และพนักงานเจ้าหน้าที่ของกระทรวงฯ ดำเนินการตรวจสอบรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อประสานกับผู้ให้บริการไลน์ ให้ให้พิจารณาดำเนินการตามเงื่อนไขในการให้บริการ และหากพบว่า เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ก็จะดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลอาญาตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ เพื่อมิให้เกิดความเสียหายในวงกว้าง ซึ่งมิใช่เพียงแค่หยุดยั้งการหลอกลวงประชาชนให้หลงเชื่อในการทำธุรกรรมที่ผิดกฎหมาย แต่รวมถึงการป้องกันการหลอกลวงมิให้เกิดการหลงเชื่อ และโอนเงิน แต่ไม่ได้รับใบขับขี่ หรือได้ใบขับขี่แล้วไม่สามารถนำไปใช้ในการทำธุรกรรมได้ และอาจเชื่อมโยงไปถึงกระบวนการทำบัตรประชาชนปลอม พาสปอร์ตปลอม หรือเอกสารหลักฐานของทางราชการปลอมอื่นๆ รวมถึงอาจนำไปสู่การแอบอ้างสิทธิของบุคคลอื่นในการทำธุรกรรม เช่น การใช้บัตรประชาชนปลอมในการเปิดบัญชีธนาคาร หรือถอนเงินออกจากบัญชีธนาคาร หรือการกระทำที่สวมรอยแอบอ้างในการกระทำความผิดต่างๆ ด้วย
อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวได้รับการแจ้งเตือนจากผู้หวังดี เพื่อให้ทางราชการตระหนักถึงปัญหาและแจ้งเตือนประชาชน ซึ่งกรมการขนส่งทางบกผู้รับผิดชอบเรื่องการจัดทำใบขับขี่โดยตรงได้เคยมีประกาศแจ้งเตือนเรื่องนี้แล้วเมื่อต้นเดือนมกราคม 2560 ที่ผ่านมา แต่ยังมีกลุ่มมิจฉาชีพปรากฏอยู่ในปัจจุบัน
ดังนั้น จึงขอความร่วมมือประชาชนผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ทุกคนช่วยกันสอดส่อง หากพบเห็นการกระทำผิดในลักษณะดังกล่าว หรือการออกเอกสารราชการปลอมต่างๆ ให้แจ้งไปยังช่องทางของภาครัฐ เช่น ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน (GCC1111) โทร.สายด่วน 1111 เพื่อจะได้ดำเนินการกับกลุ่มมิจฉาชีพโดยเร็ว และร่วมกันแจ้งรายงาน (Report) ไปยังผู้ให้บริการแอปพลิเคชันไลน์ หรือผู้ให้บริการรายอื่นๆ ผ่านช่องทางที่ผู้ให้บริการจัดเตรียมไว้ต่อไป