เอวาแอดไวเซอรี่ เปิดแอปพลิเคชันใหม่ AVA เอาใจนักลงทุนในเดือน พ.ค.นี้ ให้ข้อมูลทันเหตุการณ์แบบครบวงจรสะดวกง่ายแค่ปลายนิ้ว พร้อมลุยตลาดต่างประเทศสิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา เวียดนาม ฮ่องกง และจีน
บริษัท เอวาแอดไวเซอรี่ จำกัด เปิดตัวแอปพลิเคชัน AVA (เอวา) เพื่อเพิ่มความรวดเร็ว แม่นยำ จำกัดความเสี่ยง และสร้างผลกำไรอย่างต่อเนื่องในทุกสภาวะตลาด ด้วยความสามารถของเทคโนโลยี เอวา เปิดโอกาสให้นักลงทุนได้มีโอกาสลงทุนอย่างไร้พรมแดน พร้อมทั้งคอยอัปเดตข่าวสารให้ทันเหตุการณ์ในสภาวะตลาดผันผวน และแนะนำกองทุนส่วนบุคคลที่เอาชนะตลาดสร้างกำไรอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการลงทุนด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ Artificial Intelligence พร้อมเปิดให้บริการดาวน์โหลด iOS และ Android ในเดือนพฤษภาคม 2560 นี้
ทั้งนี้ นายนิรันดร์ ประวิทย์ธนา ประธานบริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท เอวาแอดไวเซอรี่ จำกัด เป็นประธานเปิดตัวแอปพลิเคชั่นเอวา และอธิบายถึงคุณสมบัติของเอวา พร้อมสาธิตการใช้งาน และ มิรันดา ทรงพัฒนาศิลป์ ประธานบริหารการเงินและผู้ก่อตั้ง ร่วมพูดถึงการขยายตลาดของแอปพลิเคชัน AVA ในอนาคต ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
นายนิรันดร์ กล่าวถึงความพิเศษของเอวาว่า จะเป็นเพื่อนคู่คิดของนักทุนได้เป็นอย่างดี โดยแอปเอวา ถูกพัฒนาขึ้นตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2559 เพื่อให้นักลงทุนได้ทำงานง่ายขึ้น แอปนี้ใช้งานง่าย สะดวกสบายเพียงแค่ปลายนิ้ว เหมาะสำหรับนักลงทุนใหม่ และเก่าที่พร้อมจะเติบโตภายในอนาคต ด้วย 4 เมนูที่เปี่ยมประสิทธิภาพ อย่าง Personalized AI Advisor วิเคราะห์การลงทุนอย่างฉับไวด้วยการคัดสรรเฉพาะบุคคล และแจ้งเตือนอัจฉริยะ, Real-Time Complete Stock Analysis ครอบคลุมทุกการวิเคราะห์การลงทุนด้วยข้อมูลย้อนหลังสูงสุด 12 ปี, Screen & Back Test / Forward Test คัดกรองหุ้นพร้อมวัดผลการลงทุนย้อนหลัง และพิสูจน์ผลการลงทุนในอนาคต และ AVA Trade ซื้อขายหุ้นหลักทรัพย์ผ่านทางแอปพลิเคชันเอวา พร้อมเชื่อมต่อกับพอร์ตโฟลิโอของนักลงทุนอัตโนมัติ และการเปิดตัวแอปพลิเคชันในครั้งนี้เป็นการประกาศความร่วมมือระหว่าง AVA กับ Settrade ในการซื้อขายโดยตรง AVA Trade อีกด้วย
ด้านมิรันดา กล่าวถึงความแตกต่างของแอปพลิเคชันในตลาดหุ้นปัจจุบัน และการวางแผนการในอนาคตของเอวาว่า ในตลาดมีผู้ให้บริการข้อมูลการลงทุนมากมายทั้งในส่วนของสตาร์ทอัป และการพัฒนาของโบรกเกอร์เอง แต่เป้าหมายของเอวา คือ การพัฒนาเทคโนโลยีที่ครอบคลุมการลงทุนมากที่สุด เพื่อจำกัดความเสี่ยง และสร้างผลตอบแทนต่อเนื่องได้ในทุกสภาวะตลาด โดยมีทั้งข้อมูลการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis) การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) การไหลเวียนของเงินทุน (FundFlow) ตลอดจนถึงข่าวสารที่เกี่ยวข้อง และบทวิเคราะห์จากโบรกเกอร์ พาร์ตเนอร์ของเอวา นอกจากนี้ AVA Engine ยังขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI โดยล่าสุด เอวาได้พัฒนา Image Processing Trendline Detection หรือการนำเทคโนโลยีประมวลผลภาพเข้าตรวจจับสัญญาณซื้อขาย ซึ่งเป็นฟีเจอร์ล่าสุด
“เรามั่นใจว่า เอวาที่พัฒนามานี้จะเติบโตในวงการตลาดหุ้นได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้การเติบโตเพิ่มขึ้นจะสูงถึง 30% และอัตราการคงอยู่ (Retention rate) สูงขึ้น 50% จากปัจจุบันที่ยอดผู้ใช้งาน 120,000 ยูสเซอร์ต่อเดือน หรือเท่ากับ 30% ของวอลุ่มซื้อขายในตลาด”
สำหรับในแง่ของการขยายตลาดภายในปี 2560 เอวามีการวางแผนที่จะให้บริการข้อมูลหุ้นต่างประเทศ เริ่มจาก สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา และจะขยายไปยังประเทศเวียดนาม ฮ่องกง และจีน ตามลำดับ ส่วนในแง่ของ AVA Trade จะเริ่มใช้งานทำการซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านเอวาได้ภายในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ และสำหรับนักลงทุนที่ไม่ต้องการลงทุนด้วยตนเอง AVA FUND กองทุนส่วนบุคคลด้วยปัญญาประดิษฐ์อัจฉริยะจะเปิดให้บริการในปีนี้เช่นกัน
ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถดาวน์โหลด และใช้งานแอปพลิเคชันเอวา ได้ทั้งโทรศัพท์มือถือในระบบ iOS และ Android ในเดือนพฤษภาคม 2560