xs
xsm
sm
md
lg

G-ABLE ส่ง 3 โซลูชัน รุก Digital Transformation

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


G-ABLE ประกาศรุก Digital Transformation ต่อเนื่อง ชู 3 โซลูชันหลัก Big Data, Marketing Technology และ Cloud เป็นองค์ประกอบหลักในการทำ Digital Transformation ให้กับองค์กร บนเป้าหมายต้องทำให้ธุรกิจวัดผลได้, ทำงานได้อัตโนมัติ และขยายผลเพื่อรองรับการเติบโตได้

นายสุเทพ อุ่นเมตตาจิต กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท G-ABLE กล่าวว่า ปีนี้ G-ABLE จะเน้นยุทธศาสตร์ การเป็น Digital Transformation เพื่อช่วยลูกค้าในการปฏิรูปองค์กรให้ตอบโจทย์การขับเคลื่อนของธุรกิจในยุคดิจิตอล โดยมี 3 โซลูชันเรือธง คือ Big Data, Marketing Technology, และ Cloud Infrastructure

G-ABLE เชื่อว่า มีคอนเซ็ปต์ที่สำคัญ 3 ข้อ ในการทำ Digital Transformation คือ การสร้างความสามารถในการวัดผล (Measurable) เมื่อธุรกิจติดตลาดแล้ว ก็ต้องเพิ่มความสามารถในการขยายตัวของธุรกิจได้ทัน, การสร้างระบบอัตโนมัติ (Automated) โดยไม่ต้องส่งคนมานั่งเก็บข้อมูล และการสร้างความสามารถในการขยายผล (Scalable) ของธุรกิจ เพื่อให้เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้ธุรกิจ ด้วย IT และ Digital Technologies โดยโซลูชันที่ G-ABLE ให้บริการทั้งหมด สามารถช่วยให้องค์กรธุรกิจตอบทั้งคอนเซ็ปต์ของ Digital Transformation ได้ โดยโซลูชันทั้งหมดของ G-ABLE สามารถแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ คือ

1.Modern Digital Solutions หรือกลุ่มโซลูชันที่สร้างจากการผสานนวัตกรรมใหม่ในการขับเคลื่อนธุรกิจโดยเน้นเทคโนโลยีดิจิตอลขั้นสูง เช่น Big Data, Machine Learning, Internet of Things เพื่อพัฒนาต่อยอดให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้สูงสุด โดยโซลูชันเรือธงของกลุ่มนี้ คือ Big Data

2.Enterprise Solutions หรือกลุ่มโซลูชันที่เน้นการสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจด้วยเทคโนโลยีสำหรับองค์กรโดยเฉพาะ เช่น Enterprise Business Solutions, Enterprise Communication, Marketing Technology (MarTech) โดยโซลูชันเรือธงของกลุ่มนี้ คือ Marketing Technology

3.Infrastructure Solutions หรือกลุ่มโซลูชันด้านโครงสร้างพื้นฐานในระบบสารสนเทศที่เน้นการปรับเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานที่ซับซ้อนให้มีความง่ายในการบริหารจัดการ และมีประสิทธิภาพมากขึ้น และสามารถปรับขยายให้รองรับการเติบโตของธุรกิจ หรือการใช้งานได้อย่างรวดเร็ว เช่น Cloud Infrastructure & Platform, IT Operation Management โดยโซลูชันเรือธงของกลุ่มนี้ คือ Cloud Infrastructure

ทั้งนี้ จากแต่ละกลุ่มโซลูชัน G-ABLE คัดเลือกมาเป็น 3 แฟลกชิปโซลูชัน คือ Big Data, Marketing Technology และ Cloud Infrastructure เพราะเป็นส่วนประกอบสำคัญในการทำ Digital Transformation ให้กับองค์กร โดยเริ่มจากระดับ Infrastructure ให้มีเสถียรภาพที่รองรับการขยายตัวทางธุรกิจได้ และต่อไปสู่การใช้โซลูชัน Big Data เพื่อทำการเก็บ และวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจทางธุรกิจที่ดีกว่า จนไปถึงการขายที่นำด้วย Digital Marketing ที่ใช้พลังของ Marketing Technology ผสมกับการใช้ Big Data ที่มีอยู่มหาศาลสร้างยอดขายผ่าน Digital Channels ที่ทันสมัย

นายสุเทพ กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมา G-ABLE เป็นผู้เปิดตลาด Big Data Solutions ในประเทศไทย โดยลงทุนสร้างนวัตกรรมเอง นอกจากนี้ ยังลงทุนในโครงการ Big Data Experience Center หรือ ศูนย์ให้คำปรึกษา และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ Big Data ครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทย เพื่อส่งเสริมการพัฒนาโซลูชัน Big Data ขั้นสูงด้วยฝีมือคนไทย และได้ถูกนำไปใช้ในหลายองค์กรชั้นนำอย่างเป็นรูปธรรม

ทั้งนี้ จากความสำเร็จด้านโซลูชัน Big Data ของบริษัทที่มียอดขายเติบโตสูงขึ้น 86% ในปีที่ผ่านมา ในปีนี้ ทาง G-ABLE ต่อยอดโซลูชัน Big Data ให้สามารถประยุกต์ใช้ร่วมกับเทคโนโลยีขั้นสูงอื่นๆ เช่น Machine Learning, Marketing Technology และ Internet of Things (IoT) ได้ เพื่อให้ลูกค้ามีทางเลือกในการได้ผลการวิเคราะห์ที่รวดเร็ว แม่นยำที่สุด เพื่อใช้ในประกอบการตัดสินใจในการทำธุรกิจ โดยในปี 2560 ถือเป็นปีที่ผู้ประกอบการทุกธุรกิจควรเลือกลงทุนกับ Digital Marketing ที่สามารถสร้างผลลัพธ์ และวัดผลทางธุรกิจได้แบบเรียลไทม์ อย่างไรก็ตาม การทำ Digital Marketing ในปัจจุบัน โดยมากเป็นการเริ่มต้นแบบพื้นฐานที่เน้นการทำ Creative Ad และเผยแพร่ผ่านช่องทางออนไลน์เท่านั้น แต่ยังไม่ได้เน้นการใช้เทคโนโลยีการตลาดในการสร้างธุรกิจ จะเห็นได้ว่า บริษัทระดับโลกที่ทำ Digital Marketing นั้น จะไม่ได้เน้นแค่การทำ Creative Ads แต่มีการลงทุนด้าน Marketing Technologies และวิศวกรรมอย่างมาก โดยเฉพาะการทำ High Performance Website, ROI Optimization, Marketing Cloud ซึ่งโซลูชันด้าน Marketing Technologies เหล่านั้น คือ สิ่งที่ G-ABLE นำเสนอ โดยทุกโซลูชันจะเน้น Automation Technology มีระบบ และการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ Measurable Technology สามารถวัดผลได้ ให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่า ทุกเม็ดเงินที่ลงไปสามารถสร้างรายได้กลับมาได้อย่างเป็นรูปธรรม

นอกจากนี้ ในตลาดโลกมีการคาดการณ์ว่า Cloud ยังแรงไม่มีตก ตลาด Cloud จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นประมาณ 2 เท่าจากมูลค่าตลาดในปัจจุบัน ไปอยู่ที่ 195,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (6.825 ล้านล้านบาท) ในปี 2020 โดยรายได้รวมของ IT Infrastructure สำหรับ Private Cloud และ Public Cloud นั้น เติบโตรวมกันอยู่ที่ 15.7% (ไตรมาสที่ 4 ปี 2015) ในขณะที่รายได้ของระบบ Traditional IT Infrastructure มีการหดตัวลงเล็กน้อยประมาณ 2.7% ในช่วงเวลาเดียวกัน (อ้างอิงจาก IDC, ข้อมูลปี 2016) สำหรับประเทศไทย คาดการณ์ว่าสัดส่วนของ Traditional IT Structure และ Cloud Infrastructure ของธุรกิจจะปรับเปลี่ยนมาอยู่ที่ 55% ต่อ 45% ในปี 2019

แนวโน้มนี้ทำให้ Cloud Infrastructure ยังคงเป็น 1ใน 3 เรือธงของ G-ABLE ในปีนี้ โดย G-ABLE มีประสพการณ์ด้านการพัฒนา และดูแลรักษาระบบดาต้าเซ็นเตอร์ให้กับลูกค้ามานาน สามารถเสนอโซลูชันที่เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ ดาต้าเซ็นเตอร์แบบครบวงจร ตั้งแต่การอัปเกรด ดาต้าเซ็นเตอร์ ด้วย 3rd generation platform การทำ virtualization และการสร้าง private cloud การเชื่อมโยงระหว่างดาต้าเซ็นเตอร์ และ public cloud ด้วยการทำระบบให้รองรับการทำ Hybrid Cloud

ในปีนี้ G-ABLE มีแผนเพิ่มการลงทุนใน 3 ด้าน คือ People, Partner และ Technology โดยด้าน People เป็นส่วนที่ให้ความสำคัญสูงสุด มีการจ้างคนเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% ที่ดูโซลูชันด้าน Big Data, Securityและ Digital Marketing รวมถึงธุรกิจต่างๆ เพื่อให้มั่นใจได้ว่า ทุกโซลูชันของ G-ABLE จะไม่เพียงแต่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุด แต่จะสอดคล้องกับความต้องการในธุรกิจนั้นๆ เพื่อให้ลูกค้าได้ประโยชน์สูงสุดในการทำ Digital Transformation โดยคาดว่าจะมีการลงทุนโดยรวมเพิ่มขึ้นประมาณ 90 ล้านบาท

ในปี 2560 กลุ่ม G-ABLE คาดว่า จะมีการเติบโตจากปี 2559 ประมาณ 10% และในปี 2561 คาดว่าจะมีการเติบโตจากปี 2560 ประมาณ 15% ในจำนวนนี้จะเป็นรายได้ที่มีจาก 3 ส่วน คือ Big Data, Marketing Technology, และ Cloud Infrastructure ประมาณ 25% และในอีก 3 ปีข้างหน้า รายได้จาก 3 ส่วนนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 50% ของรายได้ของบริษัท ทั้งนี้ กลุ่มลูกค้าหลักของ G-ABLE ปัจจุบันอยู่ในกลุ่มธุรกิจการเงิน เทเลคอม การศึกษา พลังงาน และภาครัฐ ปัจจุบันมองความเป็นไปได้ตลาดใหม่ที่น่าสนใจอย่าง เฮลท์แคร์ เซอร์วิส, ทรานฟอร์เมชันแอนด์ลอจิสติก, มีเดีย, รีเทล, เอสเอ็มอี, และสตาร์ทอัป
กำลังโหลดความคิดเห็น