iFlix ชูการเป็นพันธมิตรกับผู้ผลิตคอนเทนต์ที่หลากหลาย ใช้งานง่าย ได้ทั้งรับชมออนไลน์ และโหลดเก็บไว้ดูเป็นออฟไลน์ เพื่อให้เข้าถึงผู้ใช้ที่ครอบคลุมทุกกลุ่มมากขึ้น ตั้งเป้าสมาชิกเพิ่ม 3 เท่าภายในสิ้นปี จากปัจจุบัน ลูกค้าในไทยอยู่ที่ 1 ล้านราย
นางสาวอาทิมา สุรพงษ์ชัย หัวหน้าฝ่ายการตลาด บริษัท ไอฟลิกซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า กลยุทธ์ของ iFlix ในปีนี้จะเน้นไปที่การเพิ่มพันธมิตรทางธุรกิจ โดยเฉพาะผู้ผลิตคอนเทนต์ให้มากขึ้น โดยปัจจุบัน iFlix มีพันธมิตรราว 170 ราย โดยเป็นพันธมิตรในไทยกว่า 30 ราย
“สิ่งที่ต้องทำเพิ่มขึ้น คือ การหาคอนเทนต์ให้หลากหลาย ครอบคลุมความต้องการมากขึ้น ทั้งจากสหรัฐอเมริกา ยุโรป เกาหลีใต้ ไทย ทั้งซีรีส์ สารคดี เรียลริตี้ และภาพยนต์ รวมถึงการเพิ่มเอ็กซ์คลูซีฟคอนเทนต์มาให้บริการมากขึ้น อย่างหนังฉายพร้อมโรง หรือซีรีส์ฉายหลังต่างประเทศใน 24 ชั่วโมง”
ขณะเดียวกัน ยังมีการเข้าไปร่วมมือกับพันธมิตรองค์กรธุรกิจทั้งรัฐ และเอกชน ที่ต้องการนำคอนเทนต์ไปใช้ในการส่งเสริมการตลาด การให้โปรโมชันพิเศษแก่ลูกค้า ทำให้รายได้ของ iFlix จะมาจากทั้งการสมัครค่าสมาชิกของลูกค้าทั่วไป และจากตลาดองค์กร
สำหรับในปีนี้ iFlix ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้น 3 เท่า จากปัจจุบันที่มียอดผู้ใช้งานราว 1 ล้านราย โดยเป็นลูกค้าที่มีการใช้งานต่อเนื่องราว 1 แสนราย ที่มีอัตราการรับชมเฉลี่ยประมาณ 135 นาที ต่อคนต่อวัน โดยอายุสมาชิกหลักๆ จะอยู่ที่ราว 18-34 ปี
ทั้งนี้ แนวโน้มของตลาดวิดีโอออนดีมานด์ในไทยปีนี้มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง และทวีความรุนแรงในการแข่งขันมากขึ้น โดยจะมีจากการแข่งขันทางด้านราคา ฟีเจอร์ในการใช้งาน ซึ่งปัจจุบันมีผู้ให้บริการในตลาดราว 6 ราย iFlix อยู่ในระดับท็อป 2
ส่วนในภาพรวม iFlix เปิดให้บริการใน 10 ประเทศทั่วเอเชีย ได้แก่ ประเทศไทย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ศรีลังกา บรูไน มัลดีฟส์ ปากีสถาน เวียดนาม และเมียนมา มีสมาชิกรวมกว่า 5 ล้านราย รับชมคอนเทนต์ไปแล้ว 5 พันล้านนาที โดยเน้นที่ประเภทดราม่า และคอมเมดี้
ในแง่จุดเด่น ของ iFlix คือ สมาชิกสามารถรับชมได้ถึง 5 เครื่อง ทั้งสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก เพื่อเชื่อมต่อดูบนทีวี โดยสามารถดูทั้งแบบออนไลน์ หรือดาวน์โหลดมาเก็บไว้ดูออฟไลน์ได้ทุกเวลา ในราคาเดือนละ 100 บาท ไม่มีโฆษณาคั่น