LINE ประเทศไทยเปิดตัว “Music Sticker” ครั้งแรกกับมิวสิกสติ๊กเกอร์ที่มาพร้อมเสียงเพลงยาวสูงสุด 8 วินาที สนุกกับการแชต ผ่านท่อนฮุกเพลงฮิตจากจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ รวมประโยคเด็ดสุดจี๊ดโดนใจผู้ใช้ทุกรุ่นทุกวัย ให้ใช้สติ๊กเกอร์แทนคำพูด สร้างสีสันในการสื่อสารให้สนุกยิ่งขึ้น
นายกณพ ศุภมานพ หัวหน้าธุรกิจสติกเกอร์ LINE ประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบัน สติ๊กเกอร์ LINE กลายเป็นเครื่องมือการสื่อสารที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และมีแนวโน้มจะเป็นที่ต้องการมากขึ้นเรื่อยๆ โดย 4 ประเทศหลักที่ธุรกิจสติ๊กเกอร์มีการเติบโตอย่างเห็นได้ชัด ได้แก่ ญี่ปุ่น ไต้หวัน ไทย และอินโดนีเซีย สำหรับประเทศไทยในปีที่ผ่านมา ยอดดาวน์โหลดสติ๊กเกอร์มีการเติบโตสูงกว่า 25% โดยปัจจัยที่ผลักดันในธุรกิจสติ๊กเกอร์ของ LINE ได้รับการตอบรับที่ดีมาโดยตลอด มาจากการพัฒนารูปแบบของสติ๊กเกอร์ให้มีความหลากหลาย และน่าสนใจอย่างต่อเนื่อง ทั้งสติ๊กเกอร์ภาพนิ่ง รูปภาพ สติ๊กเกอร์ที่มีการเคลื่อนไหว ป๊อปอัป หรือสติ๊กเกอร์ที่มีเสียง และล่าสุด สติ๊กเกอร์ที่มีเสียงเพลง หรือมิวสิกสติ๊กเกอร์ ซึ่งประเทศไทยเปิดตัวเป็นประเทศที่สองรองจากประเทศญี่ปุ่น
หลังจากเปิดให้บริการในเดือนมิถุนายน 2554 LINE ได้เริ่มใช้สติ๊กเกอร์ในแชตตั้งแต่เดือนตุลาคม โดยมีการพัฒนารูปแบบสติ๊กเกอร์เรื่อยมา ไม่ว่าจะเป็นสติ๊กเกอร์ดุ๊กดิ๊กในปี 2557 สติ๊กเกอร์ที่มีเสียง และขยับได้เมื่อต้นปี 2558 ป๊อปอัปสติกเกอร์ ส่งความน่ารักแบบป๊อปอัปเต็มจอโทรศัพท์มือถือได้ในเดือนมิถุนายน 2559 รวมไปถึงโฟโต้สติ๊กเกอร์ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปลายปี 2559 และล่าสุด “มิวสิกสติ๊กเกอร์” (Music Sticker) ครั้งแรกของสติ๊กเกอร์ที่มาพร้อมเสียงเพลงความยาวสูงสุด 8 วินาที ที่จะเปลี่ยนแชตธรรมดาๆ ให้มีชีวิตชีวามากขึ้น
โดยมิวสิกสติ๊กเกอร์ เซ็ตแรกที่เปิดตัวในประเทศไทย LINE ได้จับมือกับพันธมิตรยักษ์ใหญ่วงการเพลงอย่างจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ค่ายเพลงที่มีศิลปินที่ได้รับความนิยม และมีเพลงฮิตติดปากคนไทยจำนวนมาก โดยได้นำท่อนฮุกจากเพลงยอดนิยมทั้งในอดีต และปัจจุบันมาสร้างสรรค์เป็นสติ๊กเกอร์แบบพิเศษ เจาะกลุ่มผู้ใช้ทุกเพศทุกวัย ประเดิมเซ็ตแรกด้วยท่อนเพลงฮิตติดปากสำหรับคนทำงานออฟฟิศ ที่คัดสรรมาแล้วว่าโดนใจคนทำงานสุดๆ อาทิ อ้าว เฮ้ย (เพลง “อ้าว” จากอะตอม), ก็ใครมันจะไปรู้ล่ะ (“ก็ใครมันจะไปรู้ล่ะ” จาก เจ เจตริน) เหนื่อยไหมสิ่งที่เธอทำอยู่ (“เหนื่อยไหม” จากเบิร์ด ธงไชย), เช้าไม่กลัว กลัวไม่เช้า (เพลง “เช้าไม่กลัว” จากลีโอ พุฒ) นั่นแหละ คือ ความกดดัน (“กดดัน” จากแอม เสาวลักษณ์) ไปจนถึง ออก อย่างนี้ต้องลาออก (เพลง “ลาออก” จากบิลลี่ โอแกน) และอื่นๆ อีกไม่ว่าจะอารมณ์ไหนก็แชตได้ง่ายๆ แค่กดสติ๊กเกอร์ส่งในคลิกเดียว
นายภาวิต จิตรกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายธุรกิจ จีเอ็มเอ็ม มิวสิค บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เชื่อว่าท่อนฮุกเพลงฮิตของแกรมมี่ ไม่ได้เป็นเพียงแค่เนื้อหาที่สามารถเข้าถึงคนทุกเพศทุกวัยได้เพียงอย่างเดียว แต่เพลงของเราสามารถเจาะลึกเข้าถึงความรู้สึกด้วยการสร้างสรรค์บทเพลงคุณภาพกว่า 34 ปี ทุกคนมีประสบการณ์ร่วมกับท่อนฮุกในอารมณ์ที่หลากหลาย โปรเจกต์นี้เกิดขึ้นได้ เพราะเรามี Big Data ที่บอกได้เลยว่า เพลงไหนฮิตเมื่อไหร่ โดนกลุ่มไหน คนฟังอายุเท่าไหร่ ด้วยคลังเพลง และเพลงฮิตที่มีมากที่สุดในประเทศสามารถสร้างสรรค์มิวสิกสติ๊กเกอร์ร่วมกับทาง LINE ได้อีกหลายร้อยหลายพันเวอร์ชัน ซึ่งจะทำการปล่อยออกมาในอนาคตอันใกล้นี้
“LINE มั่นใจว่า สติ๊กเกอร์ ท่อนฮุกเพลงฮิต จากจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ที่เปิดให้ดาวน์โหลดเป็นครั้งแรกในวันนี้จะช่วยให้ทุกๆ แชตสนุก และมีสีสันมากยิ่งขึ้น และคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ใช้อย่างแน่นอน” นายกณพ กล่าวทิ้งท้าย
ดาวน์โหลดสติ๊กเกอร์ “ท่อนฮุกเพลงฮิต” ได้ที่ http://lin.ee/3EN42W6 สำหรับผู้ที่ไม่มีบัตรเครดิต สามารถซื้อสติ๊กเกอร์ และธีม ได้ผ่านช่องทาง LINE STORE (store.line.me) ค่าโหลด 60 บาท หรือดูวิดีโออธิบายการใช้งาน LINE STORE ได้ที่ : https://www.youtube.com/watch?v=eVBu2RjaLKI