ปณท พร้อมรองรับความต้องการของผู้ประกอบการยุคดิจิตอล และการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ตอบสนองนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ด้วยบริการหลากหลายครบวงจร พร้อมขยายเวลาเปิดให้บริการของที่ทำการไปรษณีย์ในย่านชุมชนถึง 20.00 น.
นางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้ประกอบการรุ่นใหม่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ทั้งในรูปแบบของเอสเอ็มอียุคดิจิตอล และกลุ่มธุรกิจสตาร์ทอัป ไปรษณีย์ไทย ในฐานะผู้ให้บริการขนส่งไปรษณีย์ และลอจิสติกส์ที่มีเครือข่ายครอบคลุมทั่วประเทศไทย พร้อมรองรับการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซของผู้ประกอบการยุคใหม่ ด้วยบริการที่ครอบคลุมทุกความต้องการ และสามารถอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการยุคดิจิตอลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และครบวงจร
ทาง ปณท ได้มีการพัฒนาแอปพลิเคชันพร้อมโพสต์ (Prompt Post) ช่วยจัดเตรียมการฝากส่งล่วงหน้าทางไปรษณีย์ให้ผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซโดยเฉพาะ ซึ่งมาพร้อมกับกล่องพร้อมส่ง กล่องเหมาจ่ายสุดสะดวก ในราคาเริ่มต้นที่ 30 บาท ลดขั้นตอนการชั่งน้ำหนัก และคำนวณค่าบริการ ประหยัดเวลา และค่าฝากส่ง
ขณะเดียวกัน ได้ขยายเวลาการให้บริการรับฝาก ณ ที่ทำการไปรษณีย์จนถึง 20.00 น. ในย่าน 20 ย่านชุมชนหลักที่มีการใช้บริการจำนวนมาก รวมถึงไปรษณีย์จังหวัด อำเภอขนาดใหญ่ ห้างสรรพสินค้า และสนามบิน เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้บริการมีเวลาในการฝากส่งสิ่งของทางไปรษณีย์มากขึ้น
นางสมร กล่าวเสริมว่า นอกจากบริการใหม่ที่ตอบโจทย์กลุ่มอีคอมเมิร์ซ และธุรกิจสตาร์ทอัปแล้ว ยังมีบริการไปรษณีย์ขั้นพื้นฐานต่างๆ ที่ผู้ประกอบการสามารถเลือกใช้บริการได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นบริการไปรษณีย์แบบลงทะเบียน ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้วยอัตราค่าบริการเริ่มต้น 18 บาท บริการไปรษณีย์ด่วนพิเศษ (EMS) เน้นความสะดวกรวดเร็ว ส่งถึงผู้รับใน 1-3 วันทำการ
บริการอีเอ็มเอสซูเปอร์ สปีด (EMS SUPER SPEED) ส่งด่วนถึงผู้รับในประเทศภายใน 24 ชั่วโมง การประกันสิ่งของเพิ่มเติม สำหรับสิ่งของที่มีมูลค่าสูงสร้างความอุ่นใจให้กับลูกค้า แทรกแอนด์เทรซ (Track & Trace) ระบบตรวจสอบสถานะสิ่งของที่สามารถใช้บริการผ่านสมาร์ทโฟนได้ทุกที่ทุกเวลาตลอด 24 ชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม ในปี 2560 ไปรษณีย์ไทยมุ่งหน้าสู่การเป็น “เครือข่ายเพื่อชีวิตดิจิตอล” พร้อมรองรับนโยบาย ไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาล และการเติบโตของผู้ประกอบการยุคใหม่ ตามนโยบาย POST Excellence ภายใต้แนวทาง “5D & 2S” ได้แก่ D1-Digital Product & Service พัฒนาสินค้า และบริการรองรับยุคดิจิตอล D2-Digital Operation ยกระดับระบบปฏิบัติการสู่ระบบดิจิตอล
D3-Digital Infrastructure พัฒนาระบบฐานข้อมูล เทคโนโลยีและอุปกรณ์ดิจิตอล D4-Digital Communication & Experience พัฒนาระบบการสื่อสารให้เข้ากับยุคดิจิตอล D5-Digital People with Digital Mindset พัฒนาบุคลากรพร้อมรับมือยุคดิจิตอล S1-Service Touch Point เน้นสร้างความประทับใจแก่ผู้ใช้บริการ และ S2-Social Responsibility ต่อยอดด้านความรับผิดชอบต่อสังคม
