รมว.ดีอี เข้าพบ กสทช.หลัง กม.ทั้งดีอี และ กสทช.ผ่านแล้ว มั่นใจนับจากนี้การทำงานเป็นเอกภาพขึ้นพร้อมเร่งสางปัญหาดาวเทียมไทยคม 7 และ 8 ที่ยืดเยื้อมานานให้จบในปีนี้อย่างแน่นอนเตรียมดึงแนวทางแก้ปัญหาเดิมสมัย “อุตตม” ที่เสนอ ครม.ผ่านแล้ว เดินหน้าต่อ
นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 10 เม.ย.2560 ได้เข้าพบ พล.อ.อ.ธเรศ ปุณศรี ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) พร้อมคณะกรรมการ กสทช. และ นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. เพื่อหารือถึงความเป็นเอกภาพในการทำงานร่วมกันภายใต้กฎหมายใหม่ของทั้งกระทรวงดีอี และ กสทช. ที่ต้องทำงานร่วมกัน โดยกระทรวงดีอี จะทำหน้าที่ดูแลเชิงนโยบาย ขณะที่ กสทช.มีหน้าที่กำกับดูแลเพื่อให้เรื่องทุกอย่างที่คั่งค้างมีความชัดเจน อันจะสร้างความมั่นใจให้กับภาคเอกชนทั้งไทย และเทศว่า ประเทศไทยจะเดินหน้าไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 ด้วยนโยบายดิจิตอล ไทยแลนด์ และจะส่งผลให้เกิดการลงทุนในประเทศไทยตามมา
“ปัญหาอะไรที่ไม่จบ ปีนี้เราจะเห็นความชัดเจน เช่น เรื่องดาวเทียม การแก้ปัญหาเรื่องไทยคม 7 และ 8 ตรงนี้ต้องทำให้ภาพการแก้ปัญหาชัดเจนขึ้น เราจะนำกรอบในสมัยที่นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีคนก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี หรือ ครม.ผ่านแล้ว นำมาประชุมร่วมกัน ทั้ง กสทช. กระทรวงดีอี และไทยคม เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ซึ่งในวันที่ 11 เม.ย. จะมีการประชุมคณะทำงานเพื่อหาข้อสรุปเบื้องต้น โดยยึดการรักษาผลประโยชน์ของชาติ และดูที่การระบุตามสัญญาเป็นตัวตั้ง เพื่อให้สามารถวางแผนดาวเทียมต่อไปในอนาคตได้ โดยไม่ติดขัดอย่างที่ผ่านมา ซึ่งภายในปีนี้จะเห็นเรื่องหลายเรื่องที่ไม่ชัดเจนมาก่อนชัดเจนขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งการหารือกับ กสทช.ในครั้งนี้จะนำเสนอในคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (บอร์ดดีอี) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานที่จะประชุมนัดแรก 20 เม.ย.นี้”
ด้าน พล.อ.อ.ธเรศ กล่าวว่า การหารือในวันนี้มีประโยชน์ในการช่วยผลักดันแผนยุทธศาสตร์พัฒนาดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และการไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 โดย กสทช.และกระทรวงดีอี จะมีความร่วมมือกันทุกมิติเพื่อประโยชน์ของสังคม ขณะที่นายฐากร กล่าวว่า กสทช.ได้รายงานการดำเนินการ 6 เรื่องในที่ประชุม ประกอบด้วย 1.การประมูลคลื่นความถี่ 2600 MHz, 1800 MHz และ 850 MHz ที่จะผลักดันให้มีการประมูลเพื่อขับคลื่นเศรษฐกิจเดินหน้าไปได้ 2.การจัดระเบียบสายสื่อสารโทรคมนาคมลงดิน 3.ความคืบหน้าโครงการเน็ตประชารัฐที่ กสทช.รับผิดชอบจากกระทรวงดีอี รวมถึงอินเทอร์เน็ตชายขอบโดย กสทช.จะบูรณาการการทำงานให้มีความชัดเจน
4.การนำเงินรายได้ของ กสทช.ที่เกิดจากการประมูลคลื่นความถี่ใหม่ทั้งหมดโดยไม่หักค่าใช้จ่าย 15% และรายได้ของ กสทช.อีก 15 % ส่งเข้ากองทุนของบอร์ดดีอี ตามกฎหมายใหม่ ซึ่ง กสทช.จะส่งเงินให้ก่อนที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) จะมาตรวจสอบ แต่ขณะนี้ยังไม่มีการประมูล กสทช.จะนำเงินรายได้ที่มีอยู่ประมาณ 10,000 ล้านบาท ส่งให้กองทุน 15% ก่อน
5.การแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ กสทช. อาทิ พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ... เพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญพ.ศ.2560 โดยสำนักงานมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน และ 6.เรื่องการเชิญผู้ประกอบการในอาเซียน มาประชุมพิจารณาแนวทางบริหารกำกับดูแลธุรกิจที่ให้บริการบนโครงข่ายสื่อสารโทรคมนาคม หรือ OTT (Over The Top) ในวันที่ 12-13 กันยายน 2560 ที่ประเทศไทย