ซัมซุง (Samsung) เปิดตัวระบบ “บิ๊กซ์บี” (Bixby) ระบบผู้ช่วยส่วนตัวอัจฉริยะที่จะเป็นหนึ่งในจุดขายหลักของกาแล็กซี่ เอส 8 (Galaxy S8) โดย Bixby จะทำให้เจ้าของ Galaxy S8 สามารถเอ่ยสั่งงานด้วยเสียงแสนสะดวกสบาย เรียกว่าเข้าใจวรรคตอน รวมถึงเสียงพูดที่ผสม หรือออกเสียงไม่เต็มที่ได้แม่นยำ
ก่อนหน้านี้ ผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยมองว่า สมาร์ทโฟนของซัมซุง มีรูปแบบการใช้งานยากกว่าเมื่อเทียบกับคู่แข่ง ปัญหานี้อาจหมดไปเมื่อมี Bixby ระบบผู้ช่วยส่วนตัวที่ซัมซุง การันตีว่า ผู้ใช้สามารถเอ่ยปากส่งเสียงเพื่อทำงานกับเครื่องได้เต็มรูปแบบ ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องเลื่อนหน้าจอ หรือแตะที่โทรศัพท์ด้วยตัวเองหากไม่สะดวก
Bixby นั้น ถือเป็นยุคใหม่ของบริการเอสวอยซ์ (S Voice) แอปพลิเคชันควบคุมด้วยเสียงที่ซัมซุง เคยเปิดตัวมาก่อนหน้านี้ สำหรับกรณีของ Bixby ซัมซุงนั้น เริ่มแจ้งข่าวต่อสาธารณชนเมื่อปีที่แล้ว แต่ยังไม่เคยนำมาใช้กับอุปกรณ์ใด
ล่าสุด ซัมซุงระบุในเว็บไซต์ของบริษัทว่า Bixby ถูกนำมาใช้ในสมาร์ทโฟนรุ่น Galaxy S8 ที่จะเปิดตัวปลายเดือนมีนาคมนี้ โดยจะเปิดการทำงานผ่านปุ่มด้านซ้ายของเครื่อง ซึ่งหลังจากเปิดระบบแล้ว Bixby จะทำให้ผู้ใช้สามารถพูดคุยกับเครื่องได้เต็มรูปแบบว่า ต้องการให้เครื่องทำอะไร
จุดนี้ซัมซุง ยืนยันว่า Bixby ต่างจากระบบสั่งการด้วยเสียงรายอื่นในท้องตลาด เนื่องจากระบบเหล่านี้ยังมีข้อจำกัดเรื่องการทำงานเฉพาะคำสั่งพื้นฐานที่มีในฐานข้อมูลของระบบแล้ว แต่ Bixby สามารถเข้าใจภาษาพูด หรือ natural language ซึ่งทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องกังวลว่า Bixby จะตอบกลับมาว่า “ขอโทษด้วย ฉันทำให้ไม่ได้” เหมือนที่ระบบสิริ (Siri) ตอบผู้ใช้ไอโฟน (iPhone) ชาวไทยบ่อยครั้ง
แก้ปัญหาสมาร์ทโฟนใช้งานยาก?
หนึ่งในเหตุผลที่ซัมซุงพัฒนา Bixby คือ เพราะทุกวันนี้สมาร์ทโฟนเพิ่มความสามารถซับซ้อน จนอาจทำให้การใช้งานทำได้ไม่ทั่วถึง หรือเข้าถึงได้ยากเกินไป ดังนั้น โลกจึงต้องการระบบที่เป็นธรรมชาติ (natural way) เพื่อให้เข้าถึง หรือตอบโต้กับเทคโนโลยีได้ง่ายขึ้น แนวคิดนี้ไม่ต่างจากอุปกรณ์อัจฉริยะที่ไม่มีหน้าจออย่างแอมะซอนเอคโค่ (Amazon Echo) และกูเกิลโฮม (Google Home) ซึ่งเป็นลำโพงส่งเสียงบอกข้อมูล หรือสั่งการระบบอัจฉริยะในบ้านที่ได้รับความนิยมในสหรัฐอเมริกา
อย่างไรก็ตาม ระบบผู้ช่วยส่วนตัวเหล่านี้ไม่ได้เชื่อมต่อกับโทรศัพท์ หรือกับคอมพิวเตอร์ โดยที่ผ่านมา ผู้ใช้ไอโฟนนั้นมี Siri เป็นผู้ช่วยอยู่แล้ว และสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ (Android) บางรุ่นก็รองรับระบบกูเกิลแอสซิสเทนต์ (Google Assistant) แต่ผู้ใช้หลายคนยังมองว่า การแตะหน้าจอสมาร์ทโฟนแบบเดิมนั้น ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติมากกว่า
แน่นอนว่าโลกยังไม่สามารถตัดสินการทำงานของ Bixby ได้จนกว่าจะได้สัมผัส Galaxy S8 ซึ่งจะเปิดตัวในวันที่ 29 มีนาคมนี้ จุดนี้มีการตั้งข้อสังเกตว่า ผู้ใช้สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์อาจสับสนได้ เนื่องจากสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ส่วนใหญ่ล้วนมีระบบ Google Assistant ของกูเกิล มากับเครื่องอยู่แล้ว แถมผู้ผลิตรายอื่นอย่างโมโตโรลา (Motorola) และหัวเว่ย (Huawei) ก็เริ่มนำระบบของ Amazon อย่างอเล็กซ่า (Alexa) ซึ่งเป็นเบื้องหลังความอัจฉริยะใน Echo มาใช้กับอุปกรณ์บางรุ่นของบริษัทแล้ว
ประเด็นนี้แสดงว่า วงการสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์กำลังเกิดการเปลี่ยนแปลง นั่นคือ แทนที่จะผูกตัวเองแล้วหวังพึ่งพาความเชี่ยวชาญด้านระบบปัญญาประดิษฐ์ของกูเกิลฝ่ายเดียว ผู้ผลิตหลายราย รวมถึงซัมซุง กำลังพยายามลุยเดี่ยวเพื่อสร้างระบบผู้ช่วยอัจฉริยะของตัวเอง
กรณีของ Bixby มีการวิเคราะห์ว่า ระบบผู้ช่วยส่วนตัวของซัมซุง จะสามารถทำงานกับบางแอปพลิเคชันของซัมซุง ที่มากับ Galaxy S8 เท่านั้นในช่วงแรก โดยจะไม่เน้นความสามารถด้านค้นหาเหมือน Alexa หรือ Google Assistant แต่ Bixby จะทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมเครื่องแบบเต็มร้อย จุดนี้เชื่อว่า จะมีการต่อยอดในอนาคต เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานสมาร์ทโฟนซัมซุง รุ่นต่อไป
Bixby นั้น เป็นระบบที่ถูกจับตานับตั้งแต่วันที่ซัมซุง ซื้อกิจการสตาร์ทอัปเทคโนโลยี AI ชื่อวีฟ (Viv) เมื่อปีที่แล้ว คาดกันว่า ซัมซุงจะเปิดให้ผู้พัฒนาแอปรายอื่น (third-party) สามารถติดระบบ Bixby ลงในแอป ซึ่งจะช่วยเพิ่มฐานผู้ใช้ได้แบบก้าวกระโดด
อย่างไรก็ตาม ประเด็นนี้ถือเป็นแผลที่เคยทำร้ายซัมซุง มาก่อน เห็นได้ชัดจากกรณีหน้าจอโค้งของซัมซุง รุ่น Edge ที่มีประโยชน์ใช้สอยไม่มาก เนื่องจากมีแอปพลิเคชันจำนวนน้อยที่รองรับ แสดงว่านักพัฒนาอาจไม่ยอมเล่นด้วยกับซัมซุง หากเพิ่งเห็นเทคโนโลยีใหม่บนอุปกรณ์เพียงรุ่นเดียว
อีกสิ่งที่น่าสนใจ คือ Bixby อาจถูกนำมาติดในเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะทุกรุ่นที่สามารถเชื่อมต่อออนไลน์ได้ ทำให้เครื่องซักผ้า ทีวี เครื่องดูดฝุ่น รวมถึงตู้เย็นของซัมซุง อาจสามารถสั่งการด้วยเสียง ความเห็นไปได้นี้ทำให้ Bixby ถูกมองว่า เป็นคู่แข่ง Alexa ตัวจริง ซึ่งปัจจุบัน Alexa สามารถเชื่อมต่อกับระบบไฟ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น รวมถึงระบบในรถยนต์ฟอร์ด (Ford) ได้แล้ว
