“ไอคอม เทค” เร่งสนับสนุนภาคการศึกษาผลักดันหลักสูตรมัลติมีเดียด้านการผลิตอนิเมชัน เนื่องจากตลาดดิจิตอลคอนเทนต์ต้องไปในทิศทางของภาพเคลื่อนไหวมากขึ้น หวังสร้างรายได้จากการจำหน่ายซอฟต์แวร์แอนิเมชัน 100 ล้านบาท ในสิ้นปีนี้
ริกซ์ เซียว กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอม เทค จำกัด กล่าวว่า ด้วยเทรนด์ของดิจิตอลคอนเทนต์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ทำให้อนาคตของคอนเทนต์ที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ จะอยู่ที่ภาพ และเสียง (Visual & Sound) เป็นหลัก เพราะด้วยความพร้อมของอินฟราสตรักเจอร์ที่พร้อมแล้วในเวลานี้
“ตอนนี้ทุกคนต่างหันไปให้ความสำคัญกับดีไวซ์ที่จะรองรับคอนเทนต์ที่เกิดขึ้นในอนาคต แต่มีน้อยรายที่จะหันมาให้ความสำคัญกับการผลิตคอนเทนต์ โดยเฉพาะในยุคดิจิตอล ดังนั้น ไอคอม เทค จึงมองถึงช่องว่างดังกล่าว เข้ามาสนับสนุนภาคการศึกษาให้พัฒนาบุคลากรที่มีคุณภาพในการผลิตคอนเทนต์อนิเมชัน”
ดังนั้น ไอคอม เทค จึงแตกไลน์ธุรกิจออกมาให้บริการซอฟต์แวร์ด้านการผลิตอนิเมชันภายใต้ชื่อ 3Dsoftthai ที่นำซอฟต์แวร์การผลิตอนิเมชันจากไต้หวัน iClone และ Crazy Talk เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย เพิ่มเติมจากธุรกิจเดิม โดยปัจจุบัน สัดส่วนรายได้หลักของไอคอม เทค ยังมาจาก 2 ธุรกิจเดิมเป็นหลัก คือ การจำหน่ายแอนตี้ไวรัสแคสเปอสกี้ (Kaspersky) และการรับจ้างผลิตโปรเจกเตอร์ รวมถึงจัดจำหน่ายภายใต้แบรนด์ วิวิเทค (Vivitek) ที่กินสัดส่วนราว 90% และจะต่อเนื่องไปอีกในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า
เนื่องจากปัจจุบัน ไอคอม เทค อยู่ในระหว่างการเข้าไปแนะนำซอฟต์แวร์ผลิตอนิเมชัน ให้ภาคการศึกษาได้นำไปทดลองใช้งานในเบื้องต้นก่อน และคาดว่ายอดสั่งซื้อจะเริ่มเข้ามาหลังจากการทดลองใช้งานจบ และทางภาคการศึกษาเริ่มเห็นความสำคัญในการผลักดันหลักสูตรการเรียนการสอนทางด้านมัลติมีเดีย
“ที่น่าสนใจ คือ จากการผลักดันเศรษฐกิจส่งออกของประเทศไทยที่คาดว่าจะเติบโตราว 5% ในปีนี้นั้น อุตสาหกรรมการผลิตแอนิเมชันจะกลายเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้การส่งออกเติบโตจากการผลิตอัตลักษณ์ไทยมากยิ่งขึ้น”
ประกอบกับการช่วยส่งเสริมผู้ผลิตอนิเมชัน (อนิเมเตอร์) ไทยให้ไปแข่งขันบนเวทีโลก เพื่อทำให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น จะช่วยให้ตลาดอนิเมชันในประเทศไทยสามารถโตได้อีกราว 10% ในปีนี้ คิดเป็นมูลค่าตลาดรวมกว่า 14,500 ล้านบาท โดยกว่า 70% จะมาจากอุตสาหกรรมเกมเป็นหลัก
เบื้องต้น ไอคอม เทค ตั้งเป้ารายได้จากธุรกิจซอฟต์แวร์อนิเมชันราว 100 ล้านบาท และคาดว่าในอนาคตอีก 2-3 ปีข้างหน้า ธุรกิจดังกล่าวจะสร้างสัดส่วนรายได้เป็น 50% โดยจะมาจากทั้งภาคการศึกษา องค์กรธุรกิจ และคอนซูเมอร์ในสัดส่วน 50% 25% และ 25% ตามลำดับ
นายจามร วิริยะ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ไอคอม เทค ให้ข้อมูลเสริมถึงการแข่งขันในตลาดซอฟต์แวร์แอนิเมชันปัจจุบันว่า ถูกครองโดยเจ้าตลาดอย่าง Autodesk กับโปรแกรม Maya และ 3Ds Max เพียงแต่ว่าส่วนใหญ่จะจับอยู่ในตลาดมืออาชีพ เนื่องจากไลเซนส์มีราคาค่อนข้างสูงราว 2 แสนบาท ทำให้เกิดการสนับสนุนผู้ผลิตซอตฟ์แวร์ในกลุ่มเริ่มต้นมากขึ้น
“ปัญหาที่เกิดขึ้นคือเรื่องของการสร้างการรับรู้ ในการนำซอฟต์แวร์สร้างงาน 3มิติ ในระดับเริ่มต้นเข้ามาช่วยเปิดโอกาสให้นักเรียน นักศึกษาได้จับ และทดลองใช้ ภายใต้งบประมาณไม่เกิน 1 หมื่นบาท ซึ่งถ้ามีการผลิตบุคลากรในส่วนนี้เพิ่มมากขึ้น ก็จะเพิ่มจำนวนมืออาชีพในตลาด และสร้างรายได้ให้แก่เจ้าตลาดเหมือนเดิม”
นอกจากนี้ ทางไอคอม เทค ยังได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยรังสิต ในการจัดงาน “Asiagraph Reallusion Award 2017” ระหว่างวันที่ 24-26 มีนาคม ที่จะประกวดทำคลิปอนิเมชัน 3-3.30 นาที ภายในระยะเวลา 48 ชั่วโมง ด้วยซอฟต์แวร์สร้างงาน 3มิติ iClone6 โดยมีตัวแทนนักศึกษาจาก 18 มหาวิทยาลัย ที่เข้าร่วมทั้งหมด 33 ทีม ก่อนคัดเลือกผู้ชนะ 2 ทีม เป็นตัวแทนประเทศไทย ไปแข่งขันในระดับเอเชียที่ประเทศไต้หวัน ร่วมกับนักศึกษาจากหลายประเทศในภูมิภาคเอเชีย