ทีโอที เผยปีนี้ ทีโอทีจะกลายเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์ประจำที่เพียงรายเดียวในประเทศ หลังต้องดูแลลูกค้าต่อจากทีทีแอนด์ที และทรู ที่กำลังจะหมดสัญญาภายในปีนี้ ทำให้มีลูกค้ากว่า 5 ล้านเลขหมาย มีรายได้กว่า 1 หมื่นล้านบาท
นายมนต์ชัย หนูสง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2560 ทีโอทีจะเป็นผู้ให้บริการกับลูกค้าโทรศัพท์ประจำที่ของ บริษัท ทีทีแอนด์ที จำกัด (มหาชน) จำนวน 3.5 แสนเลขหมายได้ทันที โดยไม่กระทบต่อการใช้งานของลูกค้า
โดยกลุ่มลูกค้าดังกล่าวประกอบไปด้วย ลูกค้าธุรกิจ 32% ลูกค้าประชาชน 63% ลูกค้าภาครัฐ 4% และอื่นๆ อีก 1% ดังนั้น หากรวมกับลูกค้าทีโอที ที่มีอยู่ 3.75 ล้านเลขหมาย และลูกค้า บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งสัญญาร่วมการงานในการให้บริการโทรศัพท์ประจำที่กับทีโอทีจะสิ้นสุดลงวันที่ 26 ต.ค.2560 อีก 1.3 ล้านเลขหมาย จะทำให้ทีโอที กลายเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์ประจำที่รายเดียว และสามารถสร้างแพกเกจแบบครบวงจรให้กับลูกค้า โดยเฉพาะลูกค้าองค์กรที่มีสาขาหลายแห่ง และใช้บริการของผู้ให้บริการ 3 ค่าย คือ ทีโอที, ทีทีแอนด์ที และทรู ได้ประหยัดค่าใช้จ่ายมากขึ้น เมื่อต่อไปจะกลายเป็นลูกค้าของทีโอที เพียงรายเดียว
ส่วนเรื่องการลงทุน หรือการอัปเดตเทคโนโลยีข่ายสายนั้น ทีโอที คาดว่า น่าจะใช้งบประมาณไม่เกิน 400 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบประจำปีที่ทีโอที ใช้ในการบริหารจัดการ และบำรุงรักษาบริการโทรศัพท์ประจำที่อยู่แล้ว เนื่องจากข่ายสายของทีทีแอนด์ที จากการที่ทีโอที ตรวจรับอุปกรณ์แล้วพบว่า ยังอยู่ในสภาพดี ขณะที่ของทรู เองก็ไม่น่าจะมีปัญหา ทั้งนี้ เบื้องต้น คาดว่าจะมีรายได้เพิ่มจากการให้บริการลูกค้าทีทีแอนด์ที เดือนละ 90 ล้านบาท โดยทีโอที มีรายได้อยู่ที่ 7,000 ล้านบาท ส่วนรายได้ของทรู ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ แต่ปกติ ทีโอทีมีรายได้จากทรู อยู่ที่ปีละ 2,000-3,000 ล้านบาท
“ที่มาที่ทีโอที ต้องให้บริการลูกค้าทีทีแอนด์ทีนั้น สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2559 ศาลล้มละลายกลาง ได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดทีทีแอนด์ที โดยเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ให้ทีโอที ในฐานะผู้อนุญาตตามสัญญาดังกล่าวเป็นผู้เข้าดำเนินการ เพื่อให้บริการทั้งหมดต่อเนื่องจากทีทีแอนด์ที ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2560 คาดว่า ภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ จะสามารถส่งมอบทรัพย์สินได้ครบ 100% แม้ว่าจริงๆ แล้ว สัญญาที่มีจะหมดลงในเดือนกันยายน 2561 ก็ตาม แต่เราก็มีการเตรียมความพร้อมทั้งเรื่องศูนย์บริการ การทำบิล เพื่อให้ลูกค้าใช้งานได้ต่อเนื่อง โดยในเดือนแรกลูกค้าจะได้รับบิล 2 ใบ คือ บิลการใช้งานก่อนวันที่ 28 กุมภาพันธ์ เนื่องจากรายได้ที่เกิดขึ้นทีโอที ต้องนำส่งให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ส่วนหลังจากนั้น จะเป็นอีกบิลที่เป็นรายได้ของทีโอที ซึ่งเราจะจัดทำใบแทรกเพื่อชี้แจงให้ลูกค้าทราบด้วย”
นายมนต์ชัย กล่าวย้ำว่า ลูกค้าผู้ใช้บริการกว่า 3.5 แสนเลขหมาย สามารถใช้บริการได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องเปลี่ยนเลขหมายที่ใช้อยู่เดิม และไม่ต้องขอเปิดใช้บริการใหม่แต่อย่างใด รวมถึงลูกค้าที่ชำระค่าบริการโดยหักบัญชีธนาคาร หรือชำระผ่านบัตรเครดิตยังคงดำเนินการได้ตามปกติ โดยทีโอที ได้เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับลูกค้า ทั้งทางด้านโครงข่ายโทรคมนาคมที่ครอบคลุมทั่วประเทศทั้งนครหลวง และภูมิภาค ด้านระบบเทคโนโลยี
ขณะนี้ได้มีการแมพลูกค้าของทีทีแอนด์ที เข้ากับศูนย์บริการลูกค้าทีโอที เพื่อให้สามารถดูแลลูกค้าได้อย่างใกล้ชิด และรวดเร็วนอกจากนี้ ทีโอทีได้เตรียมพร้อมระบบบิลลิ่ง ซึ่งจะสามารถออกบิลได้ การจัดการระบบ Payment ระบบ CRM และระบบการเจ้งเหตุเสีย รวมถึงความพร้อมในด้านการบริหารจัดการ และด้านบุคลากร พนักงานที่จะรองรับให้บริการศูนย์บริการลูกค้าในภูมิภาคทั่วประเทศ และช่างที่จะดูแลบำรุงรักษา เพื่อให้บริการมีคุณภาพ ทั้งนี้ ทีโอทีจะมีหนังสือแจ้งถึงการเข้าดำเนินการให้บริการกับผู้ใช้บริการของทีโอที รวมถึงการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ
สำหรับผู้ใช้บริการสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการลูกค้า ทีโอที ทุกแห่งทั่วประเทศ หรือสอบถามที่ TOT Contact Center โทร.1100 และ www.tot.co.th รวมถึงลูกค้าที่ต้องการแจ้งเหตุเสีย สามารถติดต่อได้ที่ โทร.1100