ทีโอที เผยรายชื่อผู้ชนะการประมูลโครงการเน็ตประชารัฐ พบมีผู้ตกคุณสมบัติโครงการ 2 บริษัท คือ ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น ในรายการเคเบิ้ลใยแก้วนำแสง เหตุอุปกรณ์รายการที่ 1 และ 2 ไม่มี ม.อ.ก. และรายการที่ 3, 4, 5 ไม่ยืนยันกำลังการผลิตทั้งๆ ที่ทีโออาร์ ระบุชัด แจงต้องจัดซื้อใหม่ในรายการที่ 5 เพราะผู้เสนอราคาที่เหลือเสนอราคาสูงกว่าราคากลาง ส่วนอีกบริษัท คือ ไนน์เน็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล พบเอกสารบางรายการไม่ถูกต้อง ทำให้ต้องตกคุณสมบัติในสัญญาที่ 2 เรื่องอุปกรณ์ข่ายสาย ขณะที่สัญญาอุปกรณ์ OLT ของเอไอที ไม่ตกคุณสมบัติ ทำให้ไม่ต้องดึงเอ็นอีซี ที่มีการแก้ราคาเจ้าปัญหาขึ้นมาแทน พบการที่ฟอร์ท และไนน์เน็กซ์ ตกคุณสมบัติส่งผลรัฐต้องจ่ายเงินเพิ่ม 371,164,602.60 บาท
นายมรกต เธียรมนตรี รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานขาย และบริการภาครัฐและภาคเอกชน บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) กล่าวในฐานะผู้อำนวยการสำนักงานบริหารโครงการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิตอลว่า หลังจากที่ทีโอที ได้จัดการเปิดซองราคาจัดซื้ออุปกรณ์ในโครงการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ หรือเน็ตประชารัฐ ไปเมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา กรรมการได้พิจารณาคุณสมบัติของผู้เสนอราคาต่ำสุดแล้วพบว่า มี 2 บริษัทที่พลาดโครงการนี้ คือ บริษัท ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) และบริษัท ไนน์เน็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
โดยฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น ตกคุณสมบัติทั้ง 5 รายการในสัญญาเคเบิ้ลใยแก้วนำแสง เหตุอุปกรณ์รายการที่ 1 และ 2 ไม่มี ม.อ.ก. และรายการที่ 3, 4, 5 ไม่ยืนยันกำลังการผลิตทั้งๆ ที่ทีโออาร์ ระบุชัด ทำให้ต้องนำผู้เสนอราคาต่ำสุดอันดับต่อไป และไม่ตกคุณสมบัติเป็นผู้ชนะแทน คือ The Consortium of B and K ชนะในรายการที่ 1, บริษัท ฟู่หยวน บิซิเนส จำกัด ชนะในรายการที่ 2 และ กิจการร่วมไฟเบอร์ออฟติคไทย ชนะในรายการที่ 3 กับ 4 ส่วนรายการที่ 5 พบว่า บริษัทที่เหลือเสนอราคาแพงกว่าราคากลาง ทำให้ต้องทำการจัดซื้อจัดจ้างใหม่
“หลังจากที่คณะกรรมการพิจารณาคุณสมบัติของฟอร์ท แล้วพบว่า ไม่ผ่าน เราก็ได้เรียกเขามาพูดคุยนะว่า ในเมื่อรายการที่ 1 กับ 2 ไม่มี ม.อ.ก.จนต้องตกคุณสมบัติไปก็จริง แต่รายการที่ 3, 4, 5 มี ม.อ.ก เพียงแต่ไม่ได้ยืนยันกำลังการผลิต ขอให้เขายืนยันมาได้หรือไม่ ซึ่งเขากลับยืนยันว่า ไม่มีกำลังการผลิต อันนี้ก็ต้องปรับตกไป เพราะเรื่องนี้ทีโออาร์ เขียนชัดเจนอยู่แล้วว่า ต้องยืนยัน”
ส่วนอีกบริษัท คือ ไนน์เน็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล นั้น พบว่า มีเอกสารบางรายการไม่ถูกต้อง ทำให้ต้องตกคุณสมบัติในสัญญาที่ 2 เรื่องอุปกรณ์ข่ายสายในรายการที่ 3 จึงประกาศให้บริษัท โกลบอล เมช จำกัด เป็นผู้ชนะ ขณะที่ โกลบอล เมช ก็ตกคุณสมบัติในรายการที่ 1 จึงประกาศให้บริษัท ลี้ คิม เทรดดิ้ง จำกัด เป็นผู้ชนะ
ส่วนในรายการที่ 2 บริษัท อินเตอร์ลิงค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ผ่านคุณสมบัติ และเป็นผู้ชนะ เช่นเดียวกับสัญญาที่ 3, 4 และ 5 ผู้ที่เสนอราคาต่ำสุดผ่านคุณสมบัติทั้งหมด ได้แก่ สัญญาที่ 3 อุปกรณ์ Optical Line Terminal (OLT) 4 รายการ คือ บริษัท แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอที จากราคากลาง 1,395,797,185 (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) เสนอราคาต่ำสุดที่ 685,257,438 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ทำให้ไม่ต้องดึง บริษัท เอ็นอีซี คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด หรือ เอ็นอีซี ที่มีการแก้ราคาเจ้าปัญหาขึ้นมาแทน
นอกจากนี้ เอไอทียังเสนอราคาต่ำสุดในสัญญาที่ 4 อุปกรณ์ Switch จากราคากลาง 286,380,150 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยเสนอราคา 169,743,268 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ส่วนสัญญาที่ 5 อุปกรณ์กระจายสัญญาณแบบไร้สาย Wireless Access Point ได้แก่ บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน) จากราคากลาง 251,075,500 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) เสนอ 240,125,441 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
***รัฐจ่ายแพงขึ้น 371 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม งานนี้ทำให้ทีโอที ต้องจ่ายเงินเพิ่มจากเดิมที่ได้ราคาต่ำสุด แต่เมื่อตกคุณสมบัติก็ทำให้ต้องนำผู้ผ่านคุณสมบัติรายถัดไปที่มีราคาสูงกว่าเป็นผู้ชนะแทน ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบราคาแล้ว พบว่า รัฐต้องจ่ายเงินเพิ่ม 371,164,602.60 บาท
สำหรับ ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น เสนอราคาต่ำสุดในสัญญาที่ 1 ทั้ง 5 รายการ โดยรายการที่ 1 เสนอ 1,246,787,454.40 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) แต่ราคาของผู้ชนะ คือ The Consortium of B and K เสนอราคา 1,468,103,814.80 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ราคาสูงกว่า 221,316,360.40 บาท
รายการที่ 2 ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น เสนอราคา 375,195,585.60 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ราคาผู้ชนะคือ บริษัท ฟู่หยวน บิซิเนส จำกัด เสนอราคา 418,496,688.00 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ราคาสูงกว่า 43,301,102.40 บาท
รายการที่ 3 ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น เสนอราคา 3,778,812 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ราคาผู้ชนะ คือ กิจการร่วมไฟเบอร์ออฟติคไทย เสนอราคา 4,853,520. 00 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) แต่กรรมการต่อรองราคาเหลือ 4,534,574.40 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) แต่ก็ยังสูงกว่า 755,762.40 บาท
รายการที่ 4 ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น เสนอราคา 1,612,704 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ราคาผู้ชนะ คือ กิจการร่วมไฟเบอร์ออฟติคไทย เสนอราคา 1,951,680.00 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) แต่กรรมการต่อรองราคาเหลือ 1,841,769.60 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) แต่ก็ยังสูงกว่า 229,065.60 บาท
นอกจากนี้ ในสัญญาที่ 2 รายการที่ 1 จากเดิมที่ บริษัท โกลบอลเมช จำกัด เสนอราคาที่ 93,376,032.40 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) แต่ราคาผู้ชนะ คือ บริษัท ลี้ คิม เทรดดิ้ง จำกัด เสนอราคา 220,188,024.00 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) แต่กรรมการต่อรองราคาเหลือ 198,576,577.20 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) แต่ยังสูงกว่า 105,200,544.80 บาท และรายการที่ 3 จากเดิมที่ บริษัท ไนน์เน็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เสนอราคาที่ 1,507,362.50 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) แต่ราคาผู้ชนะ คือ บริษัท โกลบอล เมช จำกัด เสนอราคา 1,981,105.00 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) แต่กรรมการต่อรองราคาเหลือ 1,869,129.50 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) แต่ยังสูงกว่า 361,767 บาท