“เอเซอร์” เน้นจับกลุ่มลูกค้าเฉพาะทางมากขึ้น ประเดิมด้วย Predator 21X เครื่องละ 3.59 แสนบาท จำหน่ายแค่ 21 เครื่องในประเทศไทย และโน้ตบุ๊ก “Hello Kitty” ที่จะเริ่มจำหน่ายช่วงต้นเดือนเมษายน 300 เครื่อง ระดับราคา 2.5 หมื่นบาท มองภาพรวมตลาดพีซีปีนี้เติบโตราว 5%
นายนิธิพัทธ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด กล่าวถึงภาพรวมตลาดพีซีในปีที่ผ่านมาว่า มีปริมาณพีซีถูกจำหน่ายไปในท้องตลาดแล้ว 2.4 ล้านเครื่อง ในอัตราส่วนใกล้เคียงกันระหว่างโน้ตบุ๊ก และเดสก์ท็อป โดยผู้บริโภคยินดีที่จะจ่ายเงินแพงขึ้นเพื่อให้ได้เครื่องที่คุ้มค่ากับการใช้งาน
“ตลาดพีซีในไทยถือเป็นตลาดที่อิ่มตัวแล้ว เพราะเมื่อเทียบย้อนหลังไป 2-3 ปีที่ผ่านมา จะพบว่า ตลาดไม่ได้มีการเติบโต แต่จะอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงราว 2 ล้านกว่าเครื่อง เพียงแต่ที่น่าสนใจ คือ มูลค่ากลับสูงขึ้นจากความต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพมาใช้งาน ทำให้คาดว่าในปีนี้ตลาดรวมน่าจะเติบโตราว 5%”
ขณะเดียวกัน ก็พบว่าส่วนใหญ่จะไม่ใช่โน้ตบุ๊กที่ซื้อไปใช้เครื่องแรก แต่จะเป็นเครื่องที่ 2 เครื่องที่ 3 ซึ่งซื้อไปเพื่อใช้งานเฉพาะทาง ไม่ว่าจะนำไปใช้ในการเล่นเกม หรือนำไปใช้ในการพกพาที่เป็นเครื่องบางเบามากยิ่งขึ้น ทำให้เชื่อว่าในปีนี้จะเติบโตไม่เกิน 5% ในส่วนของเครื่องทดแทน
สิ่งที่เกิดขึ้น คือ เอเซอร์ ต้องมีการจับกลุ่มลูกค้าให้ชัดเจนมากขึ้น โดยใช้ความได้เปรียบจากมุมมองของผู้บริโภคต่อแบรนด์ เพราะปัจจุบัน ผู้บริโภคชัดเจนในตัวเองมากขึ้น ทำให้ต้องตอบโจทย์ความเป็นไลฟ์สไตล์มากขึ้น และยังต้องมีคาแร็กเตอร์ต่างๆ อย่างของ Marvel ให้นำมาใช้งานในอนาคตด้วย
สำหรับผลิตภัณฑ์ที่จะมาเจาะกลุ่มเกมเมอร์ ประกอบด้วย Predator 21X ในราคา 359,000 บาท ที่จะเป็นรุ่นไฮเอนด์แบบลิมิเต็ดที่มีจำหน่ายในประเทศไทย 21 เครื่องเท่านั้น พร้อมการรับประกันแบบ On-Site และที่ปรึกษาทางด้านเกมเมอร์ส่วนตัว ถัดมาเป็น Aspire VX 15 ในช่วงราคา 29,900-35,900 บาท
นอกจากนี้ ยังมีโปรเจกต์พิเศษที่เอเซอร์ ร่วมกับซานริโอ ในการนำ “Hello Kitty” เข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทยราว 300 เครื่อง ช่วงต้นเดือนเมษายน ในระดับราคาประมาณ 25,900 บาท เพื่อจับกลุ่มผู้ใช้งานที่ต้องการความแตกต่างมากขึ้น
ส่วนผลิตภัณฑ์ที่เอเซอร์ จะนำเข้ามาจำหน่ายเพิ่มเติมในกลุ่มอุปกรณ์ IoT จะอยู่ในกลุ่มของไลฟ์สไตล์เป็นหลัก ที่แม้ว่าจะได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ แต่ก็เป็นตลาดที่ไม่ตก ไม่ว่าจะเป็น Xplova ที่เป็นอุปกรณ์เสริมสำหรับขี่จักรยาน และ PAWBO ที่เป็นระบบกล้องวงจรปิดสำหรับสัตว์เลี้ยงที่สามารถสั่งให้อาหารผ่านอินเทอร์เน็ต
รวมถึงการนำ Acer CloudProfessor ที่จะมาช่วยในการเรียนการสอน และเสริมพัฒนาการของเด็ก เพื่อนำมาจับกลุ่มการศึกษาทั้งภาครัฐ และเอกชน ไม่นับรวมกับผลิตภัณฑ์ที่เจาะกลุ่มคอมเมอร์เชียลที่จะเข้ามาเสริมในการทำตลาดมากยิ่งขึ้น