ออราเคิล รุกตลาดคลาวด์ในไทยเข้มข้นอีกครั้งหนึ่ง รับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ส่งผลให้ธุรกิจลงทุนด้านไอทีเพิ่มขึ้น พร้อมเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิตอล ชูจุดเด่นเป็นระบบเปิดเข้าได้กับทุกระบบ พร้อมบริการหลังการขายที่ทีมเทคนิคอยู่ในประเทศไทย พร้อมให้บริการลูกค้าอย่างใกล้ชิด
นายณัฐศักดิ์ โรจนพิเชฐ กรรมการผู้จัดการ ออราเคิล คอร์ปอเรชั่น ประเทศไทยและเมียนมาร์ กล่าวว่า แนวโน้มการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิตอล ทำให้มีเทคโนโลยีเด่นๆที่จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดคือ เรื่องของ IoT, บิ๊กดาต้า, ระบบเพย์เมนต์ ตลอดจนบล็อกเชน และแอปพลิเคชั่นใหม่ๆ จะเกิดขึ้น
ขณะที่ไอดีซี ระบุว่า เมื่อปี 2559 ภาพรวมบริษัทในประเทศไทยมีการลงทุนด้านไอทีเกี่ยวกับระบบอินฟราสตรักเจอร์ คิดเป็นเม็ดเงินลงทุนกว่า 4 แสนล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีการคาดการณ์ว่า ภายในปี 2563 การลงทุนจะเพิ่มขึ้นถึงระดับ 5 แสนล้านบาท นอกจากนี้ ข้อมูลจากไอเอ็มซี ระบุว่า ปีนี้ตลาดคลาวด์ในไทยจะโตได้ 16% ขณะที่โมบิลิตี้ โต 14% แต่ออราเคิล พบว่า ในระดับโลกมีการนำกระบวนการทำงานไปไว้บนคลาวด์เต็มรูปแบบเพียง 6%
“ปีนี้จะเป็นปีแรกที่นโยบายส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิตอล รวมถึงไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาลเข้ามามีอิทธิพลต่อการลงทุนไอทีในประเทศไทยอย่างเป็นรูปธรรม ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา นโยบายภาครัฐผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เห็นได้ชัดเจนว่า ทุกองค์กรเร่งปรับตัว มีแนวคิดที่จะนำดิจิตอลมาใช้มากขึ้น ขณะนี้แต่ละรายมุ่งเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิตอล มีแผนนำคลาวด์ บิ๊กดาต้า โมบิลิตี้ และแอปพลิเคชั่นสำหรับธุรกิจมาใช้”
ทั้งนี้ การลงทุนจะเปลี่ยนแปลงไปในแนวทางการใช้บิ๊กดาต้า คลาวด์ ในรูปแบบไฮบริด และเป็นการทำในแนวทางที่เป็นลักษณะเฉพาะของแต่ละองค์กร องค์กรใหญ่จะขยับช้า เพราะต้องมั่นใจได้ว่าข้อมูลที่สำคัญจะไม่สูญหาย ขณะที่องค์กรระดับกลางกลับมีแนวโน้มในการเปลี่ยนแปลงสูง และง่ายกว่า สำหรับออราเคิล คลาวด์เป็นกลุ่มธุรกิจที่เติบโตมากที่สุด ซึ่งผลประกอบการในระดับโลกเมื่อไตรมาสที่ผ่านมา คลาวด์ของออราเคิล โตถึง 81% ในบริการ SaaS (Software as a Service) และ IaaS (Infrastructure as a Service) หากรวม Platform as a Service โต 62%
ด้วยเหตุนี้ ออราเคิลยังคงโฟกัสตลาดคลาวด์ โดยจะพยายามทำให้ลูกค้าเดินหน้าสู่คลาวด์อย่างยืดหยุ่นมากที่สุด โดยเฉพาะการผลักดันแพลตฟอร์มแอสอะเซอร์วิส ซึ่งออราเคิล จะชูจุดเด่นที่สามารถทำงานกับระบบอื่นๆ ได้อย่างลื่นไหล ไม่จำกัดว่าต้องเป็นออราเคิลเท่านั้น จากนี้ ออราเคิลยังมีแผนนำเทคโนโลยีอย่างแมทชีนเลิร์นนิงเข้ามาผสมผสานด้วย
ด้านการปรับตัวรับมือการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นจากการมาของผู้เล่นรายใหม่ๆ โดยเฉพาะด้านอินฟราสตรักเจอร์แอสอะเซอร์วิสนั้น ออราเคิลจะพยายามเสนอราคาที่แข่งขันได้ มีบริการเสริมที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้ธุรกิจลูกค้า และซิเคียวริตี้ ที่สำคัญ คือ บริการหลังการขายโดยที่ปรึกษามีความเชี่ยวชาญทั้งเชิงธุรกิจ และเทคนิค รวมทั้งมีทีมงานที่อยู่ในประเทศไทย บริษัทมั่นใจว่า ปี 2560 ภาพรวมผลประกอบการในไทยจะสามารถเติบโตได้เป็นตัวเลข 2 หลัก
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลโดยออราเคิล ระบุว่า การลงทุนด้านดาต้าเซ็นเตอร์ด้วยตนเองของธุรกิจองค์กรจะลดลงอย่างรุนแรง จากนั้น จะหันไปนิยมใช้บริการจากผู้ให้บริการคลาวด์แทน โดยมีการคาดการณ์ไว้ว่า เมื่อถึงปี 2568 ดาต้าเซ็นเตอร์ที่บริษัทเป็นเจ้าของจะลดลงมากถึง 80% งบดังกล่าวจะถูกนำไปใช้กับบริการคลาวด์แทน