รมว.ดีอี ปิ๊งไอเดีย สร้าง “ดิจิตอลพาร์คไทยแลนด์” หวังเป็นฮับด้านนวัตกรรมดิจิตอลที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน จูงใจนักลงทุนด้วยสิทธิประโยชน์มากมาย เช่น ยกเว้นภาษี 8 ปี และลดหย่อนเพิ่มเติม 50% ในอีก 5 ปีถัดมา คาดสรุปรายละเอียดได้ภายในเดือนมีนาคมนี้ จากนั้น จะนำโครงการเสนอนายกรัฐมนตรีเพื่อขออนุมัติต่อไป นอกจากนี้ ยังได้ทุ่มงบ 120 ล้านบาท เตรียมจัดงาน “ไทยแลนด์ ดิจิตอล บิ๊กแบง” ช่วง 25-28 พฤษภาคม 2560 หวังโชว์ความก้าวหน้าเทคโนโลยีของไทย พร้อมดึงต่างชาติร่วมงานด้วย เผยต่างชาติตอบรับมาแล้ว 20 ประเทศ
นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยถึงทิศทางการดำเนินงานของกระทรวงดีอี ปี 2560 ว่า กระทรวงดีอี มีแนวคิดจะจัดทำ “ดิจิตอลพาร์คไทยแลนด์” หรือเขตพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านดิจิตอล เพื่อให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยี และสร้างสรรค์งานด้านดิจิตอลในรูปแบบต่างๆ อาทิ แอปพลิเคชั่น ศูนย์บริการจัดเก็บข้อมูล (ดาต้าเซ็นเตอร์) และนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์อัจฉริยะต่างๆ ที่สามารถเชื่อมต่อกับ Internet of Thing (IoT) เป็นต้น เพื่อนำไปสู่การให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นศูนย์กลาง (ฮับ) ด้านนวัตกรรมด้านดิจิตอลที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน
สำหรับดิจิตอลพาร์คไทยแลนด์ มีแผนจะตั้งขึ้นบนเนื้อที่ 500 ไร่ ของบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ที่อำเภอศรีราชา จ.ชลบุรี โดยพื้นที่ภายในจะแบ่งเป็นโซนต่างๆ ประกอบด้วย ศูนย์นวัตกรรมด้านดิจิตอล สถาบันวิจัยด้านดิจิตอล ที่ตั้งบริษัทด้านเทคโนโลยีดิจิตอลระดับโลก สถาบันการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับการสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านดิจิตอล ที่พักอาศัยสำหรับนักวิจัย และผู้ปฏิบัติงาน รวมทั้งยังมีพื้นที่สีเขียว เพื่อสนับสนุนให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ คาดหากดำเนินการแล้วเสร็จพื้นที่ดังกล่าวยังกลายเป็นชุมชนด้านดิจิตอลที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาคอาเซียนด้วยเช่นกัน
ส่วนสิทธิประโยชน์จูงใจผู้เข้ามาใช้พื้นที่ในดิจิตอลพาร์คไทยแลนด์ จะมีการสร้างสภาวะแวดล้อมทุกอย่างเป็นดิจิตอล เพื่ออำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงาน ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวยังเป็นที่ตั้งของอินเตอร์เนชั่นแนลเกตเวย์ ที่สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตบนความกว้างของความถี่ (แบนวิธ) ไม่จำกัด และจะได้รับสิทธิประโยชน์จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ในอัตราสูงสุด คือ ยกเว้นภาษี 8 ปี และลดหย่อนเพิ่มเติม 50% ในอีก 5 ปีถัดมา รวมทั้งการยกเว้นภาษีนำเข้าอุปกรณ์วิจัย หรือสร้างสรรค์นวัตกรรมทุกชนิด การอำนวยความสะดวกในการเข้ามาทำงานของนักวิจัยระดับโลก และยกเว้นการเก็บภาษีรายได้บุคคลธรรมดาของนักวิจัยที่ทำงานในดิจิตอลพาร์คไทยแลนด์
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวคาดจะสามารถสรุปรายละเอียดทั้งหมด เช่น แผนระยะเวลาการลงทุน หรือมูลค่าการลงทุนในเดือนมีนาคมนี้ จากนั้น จะมีการสรุปรายละเอียดเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการโครงการระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เพื่อขออนุมัติต่อไป
นายพิเชฐ กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าในการจัดงาน “ไทยแลนด์ ดิจิตอล บิ๊กแบง” ภายใต้ความร่วมมือของกระทรวงดีอี กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และกระทรวงอุตสาหกรรมนั้น เบื้องต้นสามารถกำหนดวันได้แล้ว คือ วันที่ 25-28 พฤษภาคม 2560 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยรูปแบบการจัดงานจะประกอบไปด้วย การจัดสัมมนา การแสดงนิทรรศการให้ความรู้เพื่อแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของประเทศไทยเมื่อเทียบกับปีก่อน และเทคโนโลยีของภูมิภาค การแสดงเทคโนโลยีของกลุ่มสตาร์ทอัป และการจัดแสดงนวัตกรรมด้านดิจิตอลที่ทันสมัยในรูปแบบต่างๆ จากประเทศ และหน่วยงานชั้นนำของโลก โดยเบื้องต้นมีประเทศที่ตอบรับแล้วประมาณ 20 ประเทศ อาทิ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ เป็นต้น รวมทั้งอีกหนึ่งไฮไลต์ของการจัดงาน จะเป็นครั้งแรกที่มีการเชิญกลุ่ม The Global Entrepreneurship Network (GEN) ที่เป็นกลุ่มสตาร์ทอัประดับโลกที่มีสมาชิกรวมกัน 165 ประเทศ มาให้ความรู้ที่ประเทศไทยเป็นครั้งแรกได้สำเร็จ ทั้งนี้ คาดว่าจะใช้งบประมาณในการจัดงานครั้งนี้ 120 ล้านบาท