กลุ่มสามารถ เล็งจับตลาดผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนที่ต้องการปกป้องข้อมูลส่วนตัว ด้วยการนำ blackphone 2 เข้ามาทำตลาด หวังเป็นโทรศัพท์มือถือเครื่องที่ 2 เพื่อใช้รักษาความปลอดภัยโดยเฉพาะ ชูจุดเด่นเรื่องการลบข้อมูลระยะไกล ป้องกันการเชื่อมต่อที่เสี่ยงภัย และป้องกันการดักฟังข้อมูล
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ โดยเฉพาะช่วงอายุ 25-35 ปี ที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลมากยิ่งขึ้น ทำให้กลุ่มสามารถเล็งเห็นถึงโอกาสในการนำสมาร์ทโฟนที่มีระบบรักษาความปลอดภัยเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย
โดยเป็นความร่วมมือระหว่าง บริษัท ซีเคียว เอเชีย จำกัด ที่เป็นบริษัทลูกของ สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด ที่ตั้งขึ้นมาทำตลาดคอนซูเมอร์ซิเคียวริตีโดยเฉพาะ ร่วมกับบริษัท ไซเลนท์ เซอร์เคิล ที่เป็นผู้คิดค้นระบบซอฟต์แวร์เข้ารหัสต่างๆ รวมถึงบนสมาร์ทโฟน นำผลิตภัณฑ์ Blackphone 2 เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย รวมถึงกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม
“เบื้องต้น ตั้งเป้ารายได้ของซิเคียว เอเชีย ไว้ที่ 300 ล้านบาท จากการจำหน่าย blackphone 2 ราว 1-2 หมื่นเครื่องภายในปีนี้ อย่างไรก็ตาม บริษัทจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาแอปพลิเคชั่นควบคู่ไปด้วย เนื่องจากปัจจุบัน ตลาดโมบายเปลี่ยนไปมาก ทำให้ต้องวางตำแหน่งของผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสม ด้วยการเป็นส่วนหนึ่งของระบบซิเคียวริตี”
อย่างไรก็ตาม การนำ blackphone 2 เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ถือเป็นจุดเริ่มต้นของบริษัทในการขยายธุรกิจใหม่ๆ เพื่อรับกับการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิตอล ที่กลุ่มบริษัทสามารถต้องปรับตัว ซึ่งคาดว่า จะใช้ระยะเวลาในการทรานฟอร์มธุรกิจประมาณ 3-4 ปี ซึ่งก็จะพอดีกับปี 2020 ที่จะเป็นจุดเริ่มต้นของบริการใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในอนาคต
“เริ่มแรกเลย คือ ต้องให้ความรู้กับผู้บริโภคก่อน ในแง่ความปลอดภัยของข้อมูลว่า มีความสำคัญมากขึ้น เพราะด้วยพฤติกรรมคนในยุคนี้มักจะมีการเก็บข้อมูลบัญชีธนาคารต่างๆ ไว้บนสมาร์ทโฟน รวมถึงการมาของธุรกิจเพย์เมนต์รูปแบบใหม่ ส่งผลให้ต้องมีการรักษาความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น”
สำหรับกลุ่มเป้าหมายของ blackphone 2 จะเน้นไปที่การเป็นโทรศัพท์เครื่องที่ 2 ไว้ใช้ในการทำงาน หรือเก็บข้อมูลส่วนตัวที่เป็นความลับมากกว่า ดังนั้น จึงไม่ใช่ตลาดแมส โดยเน้นการทำตลาดผ่านออนไลน์เป็นหลัก เนื่องจากเชื่อว่า ผู้ที่ต้องการเครื่องส่วนใหญ่ต้องการเก็บข้อมูลเป็นความลับ อย่างไรก็ตาม จะใช้หน้าร้านของไอ-โมบาย เป็นจุดนัดรับสินค้าได้ ขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้า
ส่วนของการทำตลาดจะใช้งบประมาณ 30 ล้านบาท โดยสัดส่วนประมาณ 60% จะใช้ในการทำตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ รวมทั้งโซเชียลมีเดียต่างๆ อย่างไรก็ตาม การทำให้แบรนด์เป็นที่ยอมรับในตลาดอาจจะต้องใช้เวลา พร้อมกับเลือกนำผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้า
ขณะที่สมาร์ทโฟนในตระกูลไอ-โมบาย ก็จะมีรุ่นใหม่ออกมาทำตลาดในช่วงปลายเดือนมกราคม โดยยังเน้นที่กลุ่มลูกค้าระดับกลาง-ล่างเช่นเดิม แต่ในอนาคตมีโอกาสที่จะนำแบรนด์ใหม่เข้ามาทำตลาดแมสมากขึ้น เพื่อให้ครอบคลุมความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม
จุดเด่นของ blackphone 2 ถือเป็นไพรเวซีสมาร์ทโฟน ที่มากับระบบป้องกันข้อมูลส่วนบุคคล ทำงานภายใต้ ไซเลนท์ โอเอส (Silent OS) ที่พัฒนาบนพื้นฐานระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android) ปกป้องความปลอดภัย 4 ขั้น ด้วย 1.Security Center ปกป้องความปลอดภัยในการเข้าถึงข้อมูลความเป็นส่วนตัว 2.Spaces Management แยกความเป็นส่วนตัวตามไลฟ์สไตล์ได้ถึง 4 บัญชีผู้ใช้งาน แบ่งระดับความปลอดภัยให้เหมาะสมกับรูปแบบการใช้งาน
3.Smarter Wi-Fi Manager ระบบการจัดการ Wi-Fi ป้องกันการเชื่อมต่อแบบอัตโนมัติจากเครือข่ายที่มีความเสี่ยง สั่งเปิด-ปิด Wi-Fi อัตโนมัติในพื้นที่ที่ใช้งานประจำ 4.Remote Wipe ลบข้อมูลระยะไกล ทำให้มั่นใจได้เต็มที่ 100% ข้อมูลไม่รั่วไหลในกรณีสมาร์ทโฟนหาย หรือลืมทิ้งไว้
นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์อย่าง Burn Chat ในแอปพลิเคชั่น Silent Phone ที่สามารถลบข้อความที่ส่งผิด หรือไม่ได้ตั้งใจส่งได้ทันที สามารถตั้งเวลาข้อความอัตโนมัติได้นานสูงสุด 90 วัน และยังมีระบบความปลอดภัยการโทรระหว่างประเทศทั่วโลก Silent World บริการเสริมที่ช่วยให้การโทรระหว่างประเทศปลอดภัย และมีความเป็นส่วนตัว พร้อมประหยัดค่าใช้จ่ายในการโทรทั้งในประเทศ และต่างประเทศกว่า 150 ประเทศทั่วโลก
เบื้องต้น ราคาเปิดตัว blackphone 2 อยู่ที่ที่ 22,900 บาท พร้อมสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า blackphone 2 รับบริการเสริม Silent World โทรทางไกลต่างแดนฟรี 100 นาทีต่อเดือน นาน 12 เดือน ส่วนในอนาคตจะมีการปรับรูปแบบเป็นสมัครใช้บริการต่อเนื่อง หรือหารูปแบบที่เหมาะสมต่อไป
Company Relate Link :
Zecure Asia
Silence Circle