จีเอ็มโอ อินเทอร์เน็ต กรุ๊ป ผู้ให้บริการดิจิตอลเซอร์วิสผ่านอินเทอร์เน็ต รายใหญ่จากญี่ปุ่น เข้าร่วมทุนเน็ตดีไซน์กรุ๊ป ตั้ง “จีเอ็มโอ-แซด คอม เน็ตดีไซน์ โฮลดิ้ง” ลุยธุรกิจผู้ให้บริการดิจิตอลในไทยเต็มรูปแบบผ่านโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ คือ บริการคลาวด์ พร้อมรุกสู่บริการซื้อขายหลักทรัพย์ออนไลน์ภายในตุลาคมปีหน้า ภายใต้เงินลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท
นายเฉลิมรัฐ นาควิเชียร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีเอ็มโอ-แซด คอม เน็ตดีไซน์ โฮลดิ้ง จำกัด ให้ข้อมูลว่า ในช่วงปีที่ผ่านมา เน็ตดีไซน์ได้มีการพูดคุยกับทางจีเอ็มโอ ที่ถือเป็นผู้ให้บริการดิจิตอลเซอร์วิสจากญี่ปุ่น ในการเข้ามาร่วมทุนเพื่อให้บริการในประเทศไทย พร้อมกับใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการรุกเข้าสู่ตลาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
“ในญี่ปุ่น จีเอ็มโอจะให้บริการเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานบนอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการระบบคลาวด์ การทำระบบซิเคียวริตี ช่องทางการชำระเงินออนไลน์ ธุรกิจรับจดโดเมนเนม สร้างเว็บไซต์ ช่วยเหลือผู้ประกอบการในประเทศให้มีหน้าร้านออนไลน์ รวมถึงการทำสื่อโฆษณาออนไลน์ และการซื้อขายหลักทรัพย์ และตราสารผ่านระบบออนไลน์เป็นอันดับ 1 ของโลกด้วยมาร์เกตแชร์กว่า 22%”
จะเห็นได้ว่า ทิศทางการให้บริการของจีเอ็มโอ จะมีพื้นฐานบางส่วนใกล้เคียงกับธุรกิจที่เน็ตดีไซน์ ให้บริการอยู่ในตลาดประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นการรับตั้งโฮสต์ ให้บริการคลาวด์ รับพัฒนาซอฟต์แวร์ และแอปพลิเคชั่น พร้อมกับรับทำเว็บไซต์ให้แก่ผู้ประกอบการในประเทศไทย รวมถึงหน่วยงานราชการต่างๆ
“การเข้ามาร่วมทุนจัดตั้งบริษัทในครั้งนี้เกิดขึ้นจากการที่ทางจีเอ็มโอ เข้ามาถือหุ้นในเน็ตดีไซน์กรุ๊ป 49% หลังจากนั้นจีเอ็มโอ และเน็ตดีไซน์กรุ๊ป ก็ร่วมทุนกัน พร้อมทุ่มงบประมาณในการลงทุนพัฒนาบริการในตลาดประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท ในช่วงปี 2017 ที่จะถึงนี้ และสร้างการเติบโตไม่ต่ำกว่า 100%”
ทั้งนี้ การทำตลาดของจีเอ็มโอ และเน็ตดีไซน์ ต่อจากนี้จะใช้แบรนด์ Z.Com (แซตดอทคอม) ในการให้บริการโดยจะเริ่มต้นจากการให้บริการคลาวด์ (มีฐานลูกค้าจากเน็ตดีไซน์โฮสต์อยู่แล้ว) ที่เริ่มให้บริการมาแล้ว 3 เดือน มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการาว 3 หมื่นราย โดยในช่วงแรกจะใช้เน็ตดีไซน์ เป็นซับแบรนด์ไปก่อน
“การลงทุนคลาวด์จะใช้การตั้งคลาวด์กับดาต้าเซ็นเตอร์ที่ให้บริการในประเทศไทยอย่าง CSloxinfo พร้อมกับทำระบบสำรองข้อมูลไปทั่วโลก ภายใต้เครือข่ายของจีเอ็มโอ ทำให้มั่นใจได้ว่า จะมีความปลอดภัย และเสถียรภาพในการให้บริการ และเชื่อว่า ธุรกิจคลาวด์จะเป็นช่องทางสร้างรายได้สำคัญในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า และคาดว่าจะถึงจุดคุ้มทุนภายใน 3 ปีข้างหน้า”
ส่วนในระยะยาวทาง Z.com จะมีการจัดตั้งบริษัทให้บริการซื้อขายหลักทรัพย์ออนไลน์ ด้วยทุนจดทะเบียนกว่า 100 ล้านบาท ที่ปัจจุบันกำลังอยู่ในช่วงการขอใบอนุญาต ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคมปี 2017 และภายในไม่เกิน 3 ปี คาดว่าจะสามารถจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ภายในประเทศไทย ภายใต้ทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท
“ตอนนี้ประเทศไทยกำลังเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ธุรกิจเดิมถ้าไม่มีการปรับตัวก็จะไม่สามารถอยู่รอดได้ การเข้ามาลงทุนในครั้งนี้ของจีเอ็มโอ ก็จะช่วยให้โครงสร้างพื้นฐานของอินเทอร์เน็ตในประเทศไทยแข็งแรงขึ้น นอกจากนี้ ยังได้มีการนำเทคโนโลยี ระบบการบริหารจัดการ และการวิจัยและพัฒนา ที่จะตั้งบริษัทวิจัยโดยเฉพาะขึ้นในประเทศไทยด้วย”
ไม่นับรวมกับการที่วางไทยเป็นศูนย์กลางในภูมิภาคที่เมื่อมีการนำระบบมาใช้ และพัฒนาที่ไทยแล้ว ก็มีโอกาสที่จะขยายไปในตลาดต่างประเทศได้ อย่างซอฟต์แวร์ทำระบบอีคอมเมิร์ซอย่าง ShopUp.com และซอฟต์แวร์สร้างแอปพลิเคชั่น storeapp.z.com ที่เริ่มนำมาให้บริการลูกค้าในไทยแล้ว
Company Relate Link :
Z Com