Alibaba.com ผนึกล็อกซเล่ย์ ดึง SMEs ไทยเข้าสู่ตลาดอีคอมเมิร์ซ

Alibaba.com ผนึกล็อกซ์เล่ย์ ดึงผู้ประกอบการไทยที่ต้องการขยายตลาดออกสู่ระดับโลก ให้หันมาใช้แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เบื้องต้นเปิดคอร์สอบรมผู้ประกอบการ B2B แบบเจาะลึก เจาะกลุ่ม SMEs และนักศึกษาในมหาวิทยาลัย หวังช่วยเพิ่มผู้ประกอบการรายใหม่เข้าสู่ Alibaba.com 1-2 พันราย

นายเจอรี่ วู ผู้จัดการอาลีบาบา ประจำประเทศไทย และลาว Alibaba.com กล่าวถึงเป้าหมายหลักในการเข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้ว่า คือ การเข้ามาช่วยให้คนไทย ผู้ประกอบการไทย สามารถสร้างรายได้จากผู้ซื้อในต่างประเทศ ผ่านการใช้งานแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซแบบ B2B ของทาง Alibaba.com ที่ล่าสุด ในจีนได้มีการทำเป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายแบบครบวงจรแล้วมายังประเทศไทยในอนาคต

“การเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยของ Alibaba.com คือ การเข้ามาช่วยส่งเสริมผู้ประกอบการให้มีความรู้ในการทำธุรกิจบนอีคอมเมิร์ซ ซึ่งจะเน้นไปที่กลุ่ม B2B เป็นหลัก เนื่องจากปัจจุบันมีผู้ประกอบการที่เข้ามาใช้งาน Alibaba.com ไม่ถึง 1 พันราย ทำให้ด้วยฐานการใช้งานที่ยังน้อยอยู่ ส่งผลให้ยังไม่มีการขยายแพลตฟอร์มให้ครอบคลุม”

เบื้องต้น การใช้งาน Alibaba.com ในประเทศไทย จะถูกทำขึ้นมาเพื่อเป็นแหล่งข้อมูลให้ผู้ขาย และผู้ซื้อเข้ามาหาข้อมูลก่อนในช่วงแรก ถ้าต้องการติดต่อซื้อขายกันผ่านทาง Alibaba.com ต้องได้รับการอนุมัติด้วยการเลื่อนขั้นเป็นผู้ประกอบการระดับโกลด์ (Gold Seller) ที่จะสามารถติดต่อกันระหว่างผู้ซื้อ และผู้ขายได้

ส่วนในอนาคตเมื่อมีจำนวนผู้ประกอบการเข้ามาใช้งานระดับ 5,000-10,000 ราย ทาง Alibaba.com มีโอกาสที่จะขยายแพลตฟอร์มในการให้บริการเป็นแบบครบวงจร กล่าวคือ ทั้งผู้ซื้อ และผู้ขาย สามารถเลือกซื้อสินค้า ช่องทางจัดส่ง ชำระเงินผ่านบนแพลตฟอร์มได้ทันที ช่วยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยสามารถเข้าถึงแหล่งเงินที่ต้องการสินค้าจากทั่วโลกได้

“การที่ Alibaba.com เข้ามาพาร์ตเนอร์กับทางล็อกซเล่ย์ รวมถึงรายอื่นๆ เพื่อสร้างความสัมพันธ์กับผู้ประกอบการชาวไทย ให้มีความเชื่อมั่นในแพลตฟอร์ม ซึ่งถ้ามีการใช้งานที่เติบโตแบบก้าวกระโดด ทาง Alibaba.com ที่มีทีมที่โฟกัสเฉพาะพร้อมเข้ามาช่วยลงทุน และพัฒนา ให้กลายเป็นอีกช่องทางในการช่วยประเทศไทย ในการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิตอล ด้วยการสนับสนุน SMEs ให้มาอยู่บนอีคอมเมิร์ซ”

นางวนิดา แสงแก้ว ผู้อำนวยการฝ่ายการศึกษา และพัฒนาช่องทาง บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า ในช่วงแรกล็อกซเล่ย์ จะมีการร่วมกันจัดคอร์สอบรบให้แก่กลุ่มนักศึกษา เจ้าของกิจการที่สนใจทำอีคอมเมิร์ซ ไปเทรนด์ที่ประเทศจีนภายใต้โครงการ อาลีบาบาดรีมทริป (Alibaba Dream Trip)

ภายในหลักสูตรดังกล่าวจะมีโอกาสได้เรียนรู้การบริหารงานแบบ Alibaba เรียนรู้ระบบ Alipay และเทคนิคการเปิดร้านออนไลน์ให้มีรายได้เป็นล้านต่อปี โดยจะได้ไปสัมผัสประสบการณ์จริงที่สำนักงานใหญ่ของ Alibaba ณ นครหังโจว ประเทศจีน เป็นเวลา 5 วัน 4 คืน หลังจากจบหลักสูตร ทุกคนจะได้รับใบประกาศนียบัตรหลักสูตรอีคอมเมิร์ซจาก Alibaba โดยจะมีค่าใช้จ่ายเริ่มที่ราว 5 หมื่นบาท

อีกกรณีหากผู้ประกอบการรายใดสนใจอยากสมัครเป็นสมาชิก Alibaba.com สามารถทำได้เลย โดยจะมีการให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับการนำสินค้าเข้าไปขายใน Alibaba.com จากทีมงาน และพาร์ตเนอร์ในประเทศไทยของทาง Alibaba.com

สำหรับการโปรโมตหลักสูตรอาลีบาบาดรีมทริป ทางล็อกซ์เล่ย์ จะเข้าไปร่วมกับสถาบันอุดมศึกษาต่างๆ ออกบูทรับสมัครแบบ One Stop Service เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้สนใจภายในงานมหกรรมการศึกษา รวมถึงการออกบูทในงานส่งเสริมสนับสนุนเอสเอ็มอีที่สถาบันการเงินต่างๆ จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกด้วย

ขณะเดียวกัน ล็อกซเล่ย์ ยังมีฐานผู้ประกอบการที่ลงทะเบียนไว้กับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ซึ่งเป็นพันธมิตรกับทางล็อกซเล่ย์ อยู่แล้ว มีโอกาสที่จะแนะนำให้กลุ่มผู้ประกอบการเหล่านี้สามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มของอาลีบาบาได้ ไม่นับรวมกับการที่มีแผนจะเจรจาความร่วมมือในด้านอื่นๆ ต่อยอดอีกหลายส่วน เช่น ความร่วมมือในการทำธุรกิจคลาวด์ เซอร์วิส (Cloud Service) ในประเทศไทย