*** ทีโอที คว้ารางวัลชมเชยรัฐวิสาหกิจที่มีการพัฒนาสู่ความเป็นเลิศในการจัดทำแผนงานเสริมสร้างคุณธรรมความโปร่งใส ปี 2559 จาก ป.ป.ช.
บมจ.ทีโอที ได้รับรางวัลชมเชย “รัฐวิสาหกิจที่มีการพัฒนาสู่ความเป็นเลิศในการจัดทำแผนงานเสริมสร้างคุณธรรมความโปร่งใสในการดำเนินงานด้านการพัฒนาและยกระดับดัชนีความโปร่งใส (Transparency Index)” จากสำนักงาน ป.ป.ช. กำหนดรับรางวัลวันที่ 19 ก.ย.2559 โดย ทีโอที ได้รับรางวัลชมเชยในการจัดทำ “แผนยกระดับคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของ บมจ.ทีโอที” ทั้งนี้ รางวัลดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อยกย่องเชิดชูหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่มีความพยายามสร้างนวัตกรรมทางการบริหาร (Management Innovation) ในการพัฒนาปรับปรุงกระบวนการการดำเนินงานของหน่วยงาน เพื่อมุ่งสู่ความเป็นเลิศในการเป็นองค์กรที่มีคุณธรรม และความโปร่งใสตามหลักธรรมาภิบาล และบรรษัทภิบาล ซึ่งเป็นมาตรฐานสากล พร้อมกันนี้ มนต์ชัย หนูสง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทีโอที ได้จัดหลักสูตรอบรม “พัฒนาศักยภาพผู้บริหารระดับสูง ผู้นำหน่วยธุรกิจและคณะกรรมการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการทุจริตเพื่อนำสู่องค์กรโปร่งใส บมจ.ทีโอที” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดนโยบายบริหารให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุกจริต ระยะที่ 3 พ.ศ.2560-2564 เพื่อนำองค์กรสู่รางวัลองค์กรโปร่งใสในปี 2562 โดยมี ธรรมนูญ เรืองดิษฐ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานเปิดการอบรมเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2559 ที่สํานักงานใหญ่ ทีโอที แจ้งวัฒนะ
*** ดิทโต้ รุกกระแสธุรกิจไลฟ์สไตล์ กับบริการดิสเพลย์ โซลูชั่น
อุตสาหกรรมโฆษณาปัจจุบันมีการปรับเปลี่ยนที่รวดเร็วอย่างมาก เพื่อตอบสนองความต้องการที่หมุนเวียนเปลี่ยนไวของเหล่าผู้บริโภค ทั้งรูปแบบที่เปลี่ยนแปลงไปของสื่อ ไม่ว่าจะเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ สื่อโฆษณา และพฤติกรรมการบริโภคสื่อ ทำให้สื่อโฆษณาแบบเดิม เช่น ป้ายบิลบอร์ดขนาดใหญ่ หรือสื่อนอกบ้าน ต้องมีการปรับปรุงให้ก้าวทันสมัยนิยมมากยิ่งขึ้น และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทคโนโลยีมีรูปแบบการพัฒนาที่ก้าวกระโดด เกิดการปรับกลยุทธ์ทางการแข่งขันขึ้นอย่างดุเดือด
ทุกวันนี้จอโฆษณาขนาดใหญ่ไม่ได้เพียงแค่แสดงผลภาพนิ่งอีกต่อไป ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับตัวของนักการตลาดที่เข้าใจความต้องการ และไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคมากขึ้น จึงมีการพัฒนาศักยภาพของจอแสดงผลเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น จากเดิมเป็นจอภาพแบบ LCD (Liquid Crystal Display) ที่มีระดับการแสดงผล ที่สบายตา ประหยัดพื้นที่ ตามมาด้วยจอภาพแบบ LED (Light Emitting Diode) ที่มีคุณสมบัติพิเศษก็ คือ กินไฟน้อย แต่กลับให้สีสันที่ชัดเจน มีความสว่างสูง ให้สีดำที่ดำสนิท และมีอัตราการตอบสนองรวดเร็ว ดังนั้นบริษัท ดิทโต้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีไลฟ์สไตล์ชั้นนำของไทย เล็งเห็นโอกาสในการพัฒนาเทคโนโลยีให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น ส่ง “บริการดิสเพลย์ โซลูชั่น : LFD” (Large Format Display) อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่สนับสนุน และสร้างความเป็นมืออาชีพให้แก่ธุรกิจ ด้วยความโดดเด่น และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยเทคโนโลยีการแสดงผลของจอภาพขนาดใหญ่ ความคุ้มค่าของการใช้งานยาวนานกว่า 50,000 ชั่วโมง สามารถเปิดใช้งานต่อเนื่องสูงสุด 12-24 ชั่วโมง ภายใต้การรับประกันอายุการใช้งาน 3 ปี และคุณสมบัติเฉพาะที่โดดเด่นเหนือสิ่งอื่นใด อาทิ ความสว่าง คมชัด ไร้แสงสะท้อน หน้าจอแสดงผลทั้งที่เป็นแนวตั้ง และแนวนอน ขอบจอบางสูงสุด 3.5 มิลลิเมตร ทำให้สามารถติดตั้งประกอบกันเป็น VDO Wall ได้อย่างสวยงาม
บริการดิสเพลย์ โซลูชั่น : LFD (Large Format Display) สามารถนำไปปรับใช้กับ อาคารสำนักงาน อาคารสถานที่ราชการ สถานีขนส่ง โรงแรม โรงเรียน โรงพยาบาล ศูนย์การค้า เป็นต้น ที่สนใจงานด้านสื่อประชาสัมพันธ์ ที่ต้องการสร้างเอกลักษณ์ที่เป็นจุดเด่น และสร้างภาพลักษณ์ให้ดูดี ทันสมัย น่าตื่นเต้นยิ่งขึ้น เพื่อให้ลูกค้าสามารถมองเห็นได้ง่าย โดยสามารถแสดงภาพเคลื่อนไหว รายการสินค้าในรูปแบบสไลด์ และยังสามารถเล่นวิดีโอไปพร้อมกันได้อีกด้วย พร้อมด้วยความสะดวกสบาย และง่ายในการติดตั้งประกอบจอแสดงผล และความการป้อนข้อมูลอัปเดตคอนเทนต์ต่างๆ รายละเอียดของหน้าจอแสดงผลผ่านระบบส่วนกลางได้ด้วยตนเอง ถือเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีคุณภาพที่มาพร้อมกับบริการที่เหนือกว่าในทุกรูปแบบทั้งก่อน ระหว่าง และหลังการขาย โดยการบริการครบวงจรจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่พร้อมให้คำปรึกษา และค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาต่ำ สามารถแก้ไขทุกปัญหาที่พบเจอ
*** ซิป้า เฮ ได้รองผู้อำนวยการคนใหม่ “มีธรรม ณ ระนอง”
เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ ซิป้า คึกคัก เพราะได้รองผู้อำนวยการคนใหม่ หลังจากว่างเว้นไประยะหนึ่ง อย่าง “มีธรรม ณ ระนอง” ต้องบอกว่า เป็นบุคคลที่พนักงานซิป้า ต่างรู้จักกันดี และยอมรับการทำงานที่ผ่านมา ไม่เพียงเท่านี้ คนในแวดวงไอที และสื่อมวลชนต่างสนิทสนม และเคยทำงานร่วมกันกับมีธรรม มาไม่น้อย ซึ่งที่ผ่านมา มีธรรม ได้ดำรงตำแหน่งสำคัญทั้งในซิป้า และกระทรวงไอซีที พร้อมกันนี้ยังมีผลงานที่ประจักษ์ชัด เช่น การส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีดิจิตอลในธุรกิจ SMEs ซึ่งจะช่วยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิตอลต่อไป การพัฒนาระบบพัฒนาระบบระเบียนสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์ส่วนบุคคล (Personal Health Record : PHR) เพื่อให้ทุกคนได้เข้าถึงระบบสาธารณสุขไทย รวมทั้งการส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวระดับสากล โดยการสร้าง Tourism Thailand Open Platform (ToTOP) ซึ่งแพลตฟอร์มตรงนี้เองจะมีส่วนผลักดันการท่องเที่ยวไทย และช่วยเหลือผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวต่อไป
*** ดาต้าวัน เอเชีย จัดงานสัมมนาแนะนำระบบ ArgoERP ช่วยขับเคลื่อนองค์กร สู่ความสำเร็จ
เมื่อเร็วๆ นี้ อดิศร แก้วบูชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดาต้าวัน เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด (ที่ 3 จากขวา) ร่วมกับ แฟรงค์ ลิน ประธานบริษัท เอรีส อินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (Ares International Corporation) (ที่ 2 จากขวา) จัดงานสัมมนา “ระบบ ERP ช่วยขับเคลื่อนองค์กร สู่ความสำเร็จได้อย่างไร” โดยได้รับเกียรติจาก ผศ. ดร.สุภาภรณ์ เกียรติสิน ประธานกรรมการบริหารหลักสูตรวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ (หลักสูตรภาคพิเศษ) คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล (ที่ 3 จากซ้าย) มาเป็น Keynote Speaker พร้อม ปิยะลักษณ์ แก้วเกิด ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ดาต้าวัน เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด (ที่ 2 จากซ้าย), ฐิตกร อุษยาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน) (ซ้ายสุด) และอรรฆยา สติมานนท์ ผู้จัดการด้านคำแนะนำระบบ ArgoERP บริษัท ดาต้าวัน เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด (ขวาสุด) ร่วมบรรยาย และแบ่งปันประสบการณ์การใช้งาน ArgoERP ในงานสัมมนาด้วยที่ห้องกมลทิพย์บอลรูม โรงแรม เดอะ สุโกศล
***ภาคเอกชนเดินเครื่องโครงการผู้นำเพื่อการพัฒนาการศึกษาที่ยั่งยืน “คอนเน็กซ์-อีดี”
พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ (ที่ 10 จากซ้าย) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะหัวหน้าทีมภาครัฐ โครงการสานพลังประชารัฐ ด้านการศึกษาพื้นฐานและการพัฒนาผู้นำ เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ “โครงการผู้นำเพื่อการพัฒนาการศึกษาที่ยั่งยืน” (คอนเน็กซ์-อีดี) เพื่อเตรียมความพร้อมรอบด้านแก่ผู้นำรุ่นใหม่ (School Partners) รุ่นแรก รวมจำนวนกว่า 550 คน จาก 12 องค์กรผู้ร่วมก่อตั้ง โดยมี อิสระ ว่องกุศลกิจ (ที่ 10 จากขวา) หัวหน้าทีมภาคเอกชน โครงการสานพลังประชารัฐ และ ดร.ชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ (ที่ 9 จากซ้าย) ประธานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ให้เกียรติร่วมงาน รวมถึงวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ จากภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม เข้าร่วมเสริมองค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์ ทั้งด้านการพัฒนาความเป็นผู้นำ การเรียนรู้จิตวิทยาเด็ก พร้อมเพิ่มความมั่นใจเต็มเปี่ยมจากซีอีโอ และผู้บริหารระดับสูงจากทั้ง 12 องค์กรผู้ร่วมก่อตั้ง นำโดย ศุภชัย เจียรวนนท์ (ที่ 9 จากขวา) รองประธานกรรมการ เครือเจริญโภคภัณฑ์/กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร ทรู คอร์ปอเรชั่น ในฐานะหัวหน้าทีมภาคเอกชน คณะทำงานด้านการศึกษาพื้นฐานและการพัฒนาผู้นำ ก่อนส่งผู้นำรุ่นใหม่รุ่นแรกลงพื้นที่ปฏิบัติจริง เพื่อสนับสนุน และร่วมวางแผนพัฒนาโรงเรียนกับผู้นำโรงเรียนในโครงการประชารัฐ 3,342 แห่งในระยะแรก และจะขยายครบ 7,424 แห่งครอบคลุมทุกตำบลทั่วประเทศภายในปี 2560 เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการร่วมสานพลังขับเคลื่อนการพัฒนาการศึกษา ตามแนวทางยุทธศาสตร์ 10 ด้าน ให้ประสบความสำเร็จ สามารถยกระดับมาตรฐาน และคุณภาพการศึกษาของประเทศได้อย่างยั่งยืน
*** ฟูจิตสึ ประสบความสำเร็จเปิดห้องเรียนอนาคต รร.สาธิตจุฬาฯ ฝ่ายมัธยมต้นแบบแห่งแรกในประเทศไทย และแถบเอเซีย
บริษัท ฟูจิตสึ (ประเทศไทย) จำกัด ในความร่วมมือกับ รร.สาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายมัธยม เปิดห้องเรียนอนาคตในโอกาสครบรอบ 1 ปี ในการเรียนการสอนโครงการ Pilot Project of Future Classroom’s Fujitsu Learning Project of Tomorrow โรงเรียนต้นแบบแห่งแรกในประเทศไทย และแถบเอเซีย โดยมี Mr. Atsushi Saeki, Director, Educational Business Promotion Division บริษัท ฟูจิตสึ ลิมิเต็ด จำกัด ผศ.ชัยศักดิ์ ชั่งใจ ผู้อำนวยการ และ อาจารย์ อุไร วิจิตร รองผู้อำนวยการฝ่ายแผน รวมทั้งผู้บริหาร รร.สาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายมัธยม และนักเรียนชั้นมัธยมปีที่ 6 ร่วมกันสาธิตการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในรายวิชาปกติ นอกเหนือจากวิชาที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี เพื่อแสดงให้เห็นถึงทิศทางการเปลี่ยนแปลงของการเรียนการสอนในอนาคต โดยมีคณะอาจารย์จากโรงเรียนต่างๆ เข้าร่วมเยี่ยมชมห้องเรียนอนาคตจำนวนมาก เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ห้องเรียนสื่อประสม 1 รร.สาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายมัธยม
*** เมโทรซิสเต็มส์ฯ ( MSC) เข้าร่วมกิจกรรม “วันต่อต้านคอร์รัปชั่น 2559”
กิตติ เตชะทวีกิจกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เมโทรซิสเต็มส์คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MSC นำคณะผู้บริหารของบริษัทฯ เข้าร่วมกิจกรรมการจัดงานเสวนาวิชาการเนื่องในวันต่อต้านคอร์รัปชั่น 2559 : Anti-Corruption Collaboration “กรรมโกงแบบไหน...ใครสนอง” เมื่อวันอังคารที่ 6 กันยายน 2559 ที่ ห้องเพลนารี ฮอลล์ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
*** TCCT ดันไทยเบฟเวอเรจ สู่ดิจิตอลแพลตฟอร์มด้วยโซลูชั่นการบริหารทรัพยากรบุคคลบนคลาวด์ “SAP SuccessFactors”
ดร.เอกพล ณ สงขลา Chief People Officer บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวถึงมุมมองขององค์กรในงาน Shaping 2020: Asian Innovators Summit ดังนี้ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) มีความเชื่อว่า การเติบโตในองค์กร การสานความสัมพันธ์ และการสร้างความแตกต่างให้สังคม จะนำมาซึ่งโอกาสที่ไร้ขีดจำกัด ณ วันนี้ “วิสัยทัศน์ 2020” ได้เติบใหญ่ขึ้นจากรากฐานอันมั่นคง พร้อมการนำเอาเทคโนโลยี และนวัตกรรมมาใช้กับองค์กร ซึ่งถือว่าสอดคล้องกับนโยบายเศรษฐกิจดิจิตอลของภาครัฐ เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือสำคัญของไทยเบฟเวอเรจ ในการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลจำนวนมากที่ปฏิบัติงาน ณ สำนักงานใหญ่ และสาขาต่างๆ ทั่วโลก ด้วยเหตุนี้ จึงตัดสินใจเลือก “SAP Success Factors” ซึ่งเป็นโซลูชั่นการบริหารทรัพยากรบุคคลบนคลาวด์ โดยโซลูชั่นนี้จะช่วยให้ผู้บริหารสามารถทำการตัดสินใจในเรื่องทรัพยากรบุคคลผ่านทางโซลูชั่นต่างๆ อาทิ การบริหารผลงาน การบริหารจัดการคนเก่ง (Talent Management) และการวิเคราะห์ทรัพยากรบุคคล ระบบต่างๆ เหล่านี้สามารถเข้าถึงจากที่ใดก็ได้ เนื่องจากปฏิบัติการอยู่บนคลาวด์
ด้วยโซลูชั่น SAP Cloud-based Human Capital Management (HCM) ทีซีซี เทคโนโลยี (TCCT) ภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมผลักดันผู้นำธุรกิจเครื่องดื่มครบวงจรรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และหนึ่งในผู้นำในเอเชีย ซึ่งครอบคลุมบริษัทลูกในหลายประเทศ ให้สามารถยกระดับคุณภาพของทรัพยากรบุคคลสู่ดิจิตอลแพลตฟอร์ม วันนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นในแผนการนำนวัตกรรม Success Factors ซึ่งเป็นหนึ่งในโซลูชั่นด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลที่ดีที่สุดในโลก ที่อยู่บนคลาวด์ ที่มีความน่าเชื่อถือ และปลอดภัย มาปรับใช้กับองค์กร ซึ่งจะนำสู่เส้นทางความสำเร็จของผู้ผลิตเครื่องดื่มรายใหญ่ของเอเชีย รวมถึงบริษัทในเครือ โดยไทยเบฟเวอเรจ ไม่เพียงแต่มีแผนที่จะนำไปใช้กับสำนักงานใหญ่ และสาขาในประเทศไทย เท่านั้น แต่จะนำไปใช้กับบริษัทลูก และสาขาทั่วโลกเช่นกัน
*** ทีโอที ร่วมเปิดงาน ตลาดเกษตรดิจิตอล พร้อมให้บริการการสื่อสารหลัก และไวไฟ ฟรีตลอดงาน
เร็วๆ นี้ ที่ตลาดน้ำคลองผดุงกรุงเกษม พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน “ตลาดเกษตรดิจิตอล” ภายใต้แนวคิด “เทคโนโลยีดิจิตอลก้าวไกล การเกษตรไทยก้าวหน้า” โดยมี พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ นายอุตตม สาวนายน อดีต รมว.กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) พร้อมผู้บริหารระดับสูงทั้ง 2 หน่วยงาน เยี่ยมชมบูท ทีโอที ภายในงาน ซึ่งโอกาสนี้ พิมพ์วิมล วงษ์สุวรรณ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สำนักบริหารการตลาด ทีโอที, เดชพร ด่านพิทักษ์กุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สำนักขายและบริการลูกค้านครหลวงที่ 1 ทีโอที ร่วมให้การต้อนรับที่บูท ทีโอที สำหรับ “ตลาดเกษตรดิจิตอล” เป็นการยกระดับสินค้าเกษตร โดยใช้ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสนับสนุนด้านการผลิต และด้านการตลาด รองรับนโยบาย Digital Economy สู่ประเทศไทย 4.0
ทั้งนี้ ภายในงาน ทีโอที ได้สนับสนุนการบริการสื่อสารหลักอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงด้วยบริการ FTTx ตลอดทั้งงาน เพื่อให้บริการร้านค้า และประชาชนที่มาร่วมงาน, บริการ ไวไฟ ฟรีตลอดงาน รวมถึงบูท ทีโอที มีการนำเสนอโครงการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และสังคมดิจิตอลให้ครอบคลุมทั่วประเทศ, การเปิดรับชำระค่าบริการของ ทีโอที, รับสมัครใช้บริการ TOT hi-speed internet แพกเกจ “เน็ต STRONG” ที่ความเร็ว 30 Mbps/15 Mbps ในราคา 750 บาท เพื่อตอบโจทย์สำหรับกลุ่มลูกค้าผู้บริโภค Mass ด้วยความเร็วที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์การใช้ Social Media และการ Upload -Download ในราคาสุดคุ้ม และโครงการ TOT Young club (TYC) โดยการนำผลิตภัณฑ์ “ข้าวฮางภูเขาไฟ” ของชุมชนโคกเมือง จ.บุรีรัมย์ จากโครงการ TYC มาจำหน่ายภายในงาน เป็นต้น โดยงานจัดขึ้นตั้งแต่วันนี้จนถึง 25 ก.ย.59 ที่ริมคลองผดุงกรุงเกษม
*** ซินเน็ค แถลงผลประกอบการในงาน Opportunity Day ประจำไตรมาส 2/59
สุธิดา มงคลสุธี (กลาง) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้นำเข้า จัดจำหน่ายสินค้าเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกหลากหลายประเภท พร้อม พุฒิพันธ์ เตยะราชกุล (ซ้าย) รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส สายงานอำนวยการ และ อนุชิต บุญญลักษม์ (ขวา) รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส สายงานขายและการตลาด ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกร่วมกัน ภายหลังการนำเสนอข้อมูลผลประกอบการ และข้อมูลธุรกิจให้กับนักลงทุน นักวิเคราะห์ และสื่อมวลชนในงาน Opportunity Day ประจำไตรมาส 2/2559 ที่อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถนนรัชดาภิเษก เมื่อเร็วๆ นี้ มั่นใจไตรมาส 3/59 เติบโตต่อเนื่องรับไฮซีซันธุรกิจ ยืนยันปีนี้ทำนิวไฮตามเป้ารายได้ที่วางไว้ 2.3 หมื่นล้านบาท
*** เอไอเอส จัดให้ ชวนลูกค้า “เปลี่ยนเติมเงินเป็นรายเดือน” รับฟรี! สมาร์ทโฟนสุดฮิต
เอไอเอส จัดโปรโมชั่นสุดเร้าใจ ชวนลูกค้าเปลี่ยนจากระบบเติมเงินเป็นรายเดือน รับฟรี สมาร์ทโฟนสุดฮิต มีให้เลือกถึง 3 รุ่น ได้แก่ Samsung Galaxy J2 (ปกติราคา 4,990 บาท) เมื่อสมัครแพกเกจ Hot Deal Non-Stop 399 บาทขึ้นไป และชำระค่าบริการล่วงหน้า 2,000 บาท AIS LAVA 4G iris 750 (ปกติราคา 3,590 บาท) เมื่อสมัครแพกเกจ 4G Max Speed 399 บาทขึ้นไป และชำระค่าบริการล่วงหน้า 1 เดือน AIS LAVA 4G VoLTE 755 (ปกติราคา 2,990 บาท) เมื่อสมัครแพกเกจ Hot Deal Non-Stop 399 บาทขึ้นไป และชำระค่าบริการล่วงหน้า 1,000 บาท ลูกค้าเอไอเอสสามารถเปลี่ยนจากเติมเงินเป็นรายเดือนได้ง่ายๆ ที่เอไอเอส ช็อป, ร้านเทเลวิซ และเอไอเอส บัดดี้ ทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้-30 ก.ย.59 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ais.co.th/prepaid-to-postpaid
*** อาลีเพย์ จับมือเพย์สบาย เปิดจุดรับชำระเงินในไทย รองรับนักท่องเที่ยวแดนมังกรกว่า 10 ล้านคนเยือนไทยปีนี้
อาลีเพย์ (Alipay) ผู้นำของโลกการชำระเงินออนไลน์ และโมบายที่ใหญ่ที่สุดของจีน ในเครืออีคอมเมิร์ซ อาลีบาบา (Alibaba) ประกาศจับมือเป็นทางการกับเพย์สบาย ผู้นำในด้านการให้บริการระบบรับชำระเงินออนไลน์ของประเทศไทย ที่มีจำนวนร้านค้าออนไลน์ที่ใช้บริการมากกว่า 15,000 ร้านค้า พร้อมระบบความปลอดภัยด้วยเทคโนโลยี SSL ซึ่งเป็นระบบความปลอดภัยที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก รุกบริการขยายธุรกิจรองรับการซื้อสินค้าของนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมาไทย สามารถชำระเงินสกุลหยวน เมื่อชำระค่าสินค้าในไทย เพิ่มความสะดวกสบายผ่านแอปพลิเคชั่นมือถือ อาลีเพย์ นายปานเทพย์ นิลสินธพ (คนซ้าย) ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานผลิตภัณฑ์บริการทางการเงิน ดีแทค กล่าวว่า ปัจจุบัน จำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมายังประเทศไทย มีอัตราเติบโตต่อเนื่องอย่างน่าสนใจ ปีที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมาไทยเพิ่มขึ้น โดยมีจำนวนถึงราว 8 ล้านคน ซึ่งล้วนเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อมหาศาล พร้อมใช้จ่ายไปกับสินค้า และบริการที่ตรงกับความต้องการ โดยมีค่าใช้จ่ายต่อคนที่ประมาณ 6,000 บาท ที่สำคัญ กลุ่มลูกค้าชาวจีน คือ โอกาสใหม่ในการขยายธุรกิจของประเทศไทย ซึ่งชาวจีนจะนิยมใช้อาลีเพย์ (Alipay) ในไลฟ์สไตล์เป็นปกติในการใช้ชีวิตประจำวันในประเทศจีนอยู่แล้ว และเพย์สบาย พร้อมรองรับการใช้เงินอิเล็กทรอนิกส์ หรือ Cashless Society
เพย์สบาย (PAYSBUY) บริษัทในเครือของดีแทค จึงได้ร่วมมือกับอาลีเพย์ (Alipay) เพราะมองเห็นถึงโอกาสร่วมกันในการขยายฐานลูกค้าชาวจีนจำนวนมากที่เดินทางมาท่องเที่ยว หรือพำนักในไทย ให้ได้รับความสะดวกในการจับจ่ายใช้สอย ด้วยการเปิดบริการ “PAYSBUY Alipay Online-to-Offline (Alipay O2O)” คือ บริการที่เชื่อมต่อระบบรับการชำระเงินออนไลน์เข้ากับระบบอาลีเพย์ ซึ่งเป็นโมบายเพย์เมนต์ ตอบโจทย์ร้านค้า และธุรกิจที่ต้องการอำนวยความสะดวก และคล่องตัวในการชำระค่าสินค้า และบริการให้แก่ลูกค้าชาวจีน โดยใช้เป็นการชำระเงินสกุลหยวนได้เลย
แพนด้า เจีย ผู้อำนวยการอาวุโส อาลีเพย์ อินเตอร์เนชั่นแนล จากแอนท์ ไฟแนนเชียล เซอร์วิสเซส กรุ๊ป กล่าวว่า ปัจจุบัน อาลีเพย์ มีผู้ใช้งานมากกว่า 450 ล้านคน (Active users) โดยมีจุดชำระเงินอาลีเพย์ นอกประเทศจีนมากกว่า 70,000 แห่ง ซึ่งมีภัตตาคาร, ร้านค้าปลอดภาษี, ชอปปิ้งมอลล์, ห้างสรรพสินค้า ซึ่งรองรับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางไปที่ต่างๆ ทั่วโลก สำหรับปีนี้ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางมาเมืองไทยมากกว่า 10 ล้านคน อาลีเพย์ มุ่งที่จะเป็นแพลตฟอร์มในการเชื่อมต่อร้านค้า และนักท่องเที่ยวชาวจีน แบบ วิน-วิน ทั้งร้านค้า และลูกค้าชาวจีน โดยเชื่อมั่นในเพย์สบาย จึงจับมือเป็นพันธมิตรในการเชื่อมต่อระบบรับชำระเงินออนไลน์ของร้านค้าในไทยเข้ากับระบบอาลีเพย์ เพื่อให้ร้านค้าสามารถรับชำระเงินจากลูกค้าชาวจีนที่ใช้งานบัญชีอาลีเพย์ อยู่แล้ว สามารถซื้อของ และชำระเงินร้านค้าต่างๆ ผ่านแอปพลิเคชั่นอาลีเพย์ ในไทย เพิ่มความสะดวกสบายเหมือนอยู่ที่ประเทศจีน
ปัจจุบัน PAYSBUY Alipay Online-to-Offline เปิดให้บริการแล้วที่คิง เพาเวอร์ (KING POWER) ทั้ง 4 สาขา เพื่อเป็นการมอบความสะดวกแก่ลูกค้าชาวจีนในการชำระเงินผ่านช่องทางอาลีเพย์ ซึ่งเป็นเงินสกุลหยวนได้เลย และยังเป็นการเพิ่มประสบการณ์การใช้จ่ายระหว่างท่องเที่ยวแก่ชาวจีนในประเทศไทยให้ประทับใจยิ่งขึ้น และเพย์สบาย ยังขยายไปยังร้านค้าปลีกที่สนใจต้องการรองรับนักท่องเที่ยวชาวจีน
*** เดลล์ ร่วมสนับสนุนการใช้สื่อโซเชียลมีเดียอย่างสร้างสรรค์ ผ่านซีรีส์ “#เป็ดIDOL” สะท้อนเรื่องราวของวัยรุ่นยุคสังคมโซเชียล
ลษิดา สุทธาโรจน์ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายการตลาด บริษัท เดลล์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมแถลงข่าวเปิดตัว “#เป็ดIDOL” ซีรีส์สะท้อนเรื่องราวของวัยรุ่นยุคสังคมโซเชียล พร้อมร่วมสนับสนุนการใช้สื่อโซเชียลมีเดียอย่างสร้างสรรค์ ภายใต้แนวคิด “เดลล์…เปิดประตูสู่ทุกฝัน” เพื่อกระตุกจิตสำนึกวัยรุ่นไทยให้ใช้สื่อโซเชียลอย่างสร้างสรรค์ และมีสติ โดยซีรีส์ “#เป็ดIDOL” ได้ซูเปอร์สตาร์วัยรุ่นเน็ตไอดอลคนดัง “พลอยชมพู-ญานนีน ภารวี ไวเกล” มาเป็นนักแสดงนำประกบคู่กับ “มิว-ชิษณุชา ตันติเมธ” พระเอกใหม่ถอดด้ามจาก MBO โดยจะเริ่มออนแอร์ครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 กันยายน เวลา 17.15-18.15 น. ทางช่อง GMM25 พร้อมลุ้นรับ Dream with Dell Idol Set ในช่วงซีรีส์ออนแอร์ได้ทุกอาทิตย์ ร่วมติดตามกิจกกรรมดีๆ อย่างสร้างสรรค์ผ่านโซเชียลกับเดลล์ ได้ที่ www.facebook.com/DellThailand
*** โพโมะเฮาส์ จับมือเอไอเอส จัดโปรพิเศษ ซื้อนาฬิกา POMO รับ ZEED SIM พร้อมเน็ตฟรี!
บริษัท โพโมะเฮาส์ จำกัด ผู้ผลิต และผู้จัดจำหน่ายนาฬิกาโทรศัพท์ป้องกันเด็กหายรายแรกของไทย แบรนด์ “POMO” (โพโมะ) ร่วมกับเอไอเอส จัดโปรโมชั่นพิเศษ ซื้อนาฬิกา POMO รุ่นใดก็ได้ รับฟรี “ZEED SIM” พร้อมแพกเกจเน็ตฟรี 500 MB มอบความอุ่นใจให้ผู้ปกครอง ไม่พลาดทุกการติดต่อสื่อสารกับเด็ก ตอบสนองความต้องการด้านการดูแลความปลอดภัยให้กับเด็ก และสร้างความรักความผูกพันในครอบครัว พร้อมใช้งาน สะดวก ติดตั้งง่าย เพียงแค่ใส่ซิมการ์ด และเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนของผู้ปกครอง ผ่านแอปฯ มีให้เลือก 3 รุ่น วางจำหน่ายแล้วที่ร้าน B2S, .Life by Copperwired, Gizman สาขาที่ร่วมรายการ และทาง AIS Online Store ทั้งนี้ สำหรับลูกค้าที่เคยซื้อนาฬิกา POMO KIDSWATCH ไปแล้ว สามารถติดต่อรับ ZEED SIM ได้ฟรี! เพียงติดต่อ โทร.02-105-4274
*** เชค พอยต์ จับมือเอ็มเฟค จัดกิจกรรมทางสังคมบริจาคเงินให้ 3 มูลนิธิ
บริษัท เชค พอยต์ ซอฟต์แวร์ เทคโนโลยีส์ จำกัด ร่วมกับบริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็มเฟค (MFEC) จัดการแข่งขันกอล์ฟการกุศล “Check Point & MFEC Charity Golf” เพื่อกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างพาร์ตเนอร์ และลูกค้า พร้อมทั้งร่วมจัดกิจกรรมดีๆ ให้กับสังคม ด้วยการบริจาคเงินให้ 3 มูลนิธิ คือ มูลนิธิบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ จำนวน 50,000 บาท มูลนิธิธรรมมิกชนเพื่อคนตาบอดในประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ โรงเรียนบ้านเด็กรามอินทรา (บ้านเด็กตาบอดผู้พิการซ้ำซ้อน) จำนวน 50,000 บาท และมูลนิธิคืนช้างสู่ธรรมชาติ จำนวน 50,000 บาท ที่สนามกอล์ฟอัลไพน์ กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ต คลับ