ครึ่งปีหลัง เอเซอร์ เน้นเจาะกลุ่มเซ็กเมนต์ที่มีการเติบโตในตลาดพีซี ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเกมมิ่ง โน้ตบุ๊ก 2-1 และออลอินวัน ที่ยังมีอัตราการเติบโตอยู่ แม้ว่าในภาพรวมตลาดจะไม่มีการเติบโต โดยทางเอเซอร์ ยังตั้งเป้าว่า สามารถเติบโตได้ 10% และเชื่อมั่นว่า การเพิ่มช่องทางออนไลน์เข้ามาจะช่วยให้ทำได้ตามเป้าที่วางไว้
นายนิธิพัทธ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมของตลาดพีซีในช่วงครึ่งปีแรกยังไม่มีการเติบโต แต่ยังดีที่แม้ว่าจำนวนในตลาดไม่เพิ่มขึ้น แต่รายได้ไม่ลดลงเนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญกับเครื่องที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
“จากเดิมจะเห็นว่า ราคาเฉลี่ยของโน้ตบุ๊กจะลดลงเรื่อยๆ แต่แนวโน้มในปีนี้ยังอยู่ที่ 18,000 บาท นิ่งๆ ไม่ได้มีการลดลงแต่อย่างใด ทำให้เห็นแนวโน้มว่าผู้บริโภคจะเลือกซื้อโน้ตบุ๊ก หรือพีซีที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และผลิตภัณฑ์ในบางกลุ่มอย่าง 2-1 หรือเกมมิ่ง ก็มีอัตราการเติบโตที่ค่อนข้างดี”
ที่ผ่านมา การเข้ามาของผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเกมมิ่ง ที่มีระดับราคาเกิน 30,000 บาทขึ้นไป เข้ามาช่วยทำให้รายได้ในช่วงครึ่งปีแรกยังสูงอยู่ ประกอบกับการที่ปัจจุบัน ลูกค้าที่ซื้อพีซีอาจจะไม่ได้นำไปใช้งานเป็นเครื่องแรก แต่เป็นเครื่องที่ 2 หรือ 3 แล้ว ทำให้มีการเปลี่ยนเซ็กเมนต์มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเครื่องออลอินวัน เครื่อง 2-1 รวมถึงอุปกรณ์เกมมิ่ง และจอเกมด้วย
เป้าหมายของเอเซอร์ในปีนี้ยังคงเน้นที่การรักษาอัตราการเติบโตไว้ที่ 10% เช่นเดิม แม้ว่าภาพรวมตลาดจะทรงตัว แต่เชื่อว่าจากการที่เพิ่มช่องทางการจำหน่ายออนไลน์เข้ามา จะช่วยเพิ่มยอดขายให้เติบโต นอกเหนือไปจากการจำหน่ายผ่านหน้าร้าน ที่ปัจจุบันมีข้อจำกัดในการขยายสาขาเพิ่มเติม
“จากเทรนด์ของการทำตลาดออนไลน์ผ่านดิจิตอลมาร์เกตติ้งที่ได้รับความนิยมมากขึ้น ทำให้ทางเอเซอร์ มีการปรับงบการตลาดที่จากเดิมใช้ในส่วนของออนไลน์ประมาณ 10% ในปีที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นมาเป็น 25% ในปีนี้ เพื่อช่วยผลักดันดิจิตอลคอนเทนต์ให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น ร่วมกับการทำตลาดของพาร์ตเนอร์ ในการจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซ”
ขณะเดียวกัน การที่ดีลเลอร์แต่ละรายเริ่มให้ความสำคัญกับการทำตลาดผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซมากขึ้น ประกอบกับระบบการชำระเงินผ่านอีเพย์เมนต์เริ่มได้รับความน่าเชื่อถือ ระบบลอจิสติกส์ในการส่งสินค้ารวดเร็วขึ้น ทำให้แนวโน้มของผู้บริโภคเริ่มมีความเชื่อถือในการสั่งสินค้าที่มีมูลค่าสูงขึ้น
“สัดส่วนของการจำหน่ายสินค้าในช่องทางออนไลน์ เชื่อว่าจะมีอัตราการเติบโตเป็นเท่าตัวในช่วง 2-3 ปีนี้ เนื่องจากเป็นช่องทางใหม่ที่จะเริ่มได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น พร้อมไปกับการที่ปรับดิจิตอลแพลนให้เหมาะกับการทำตลาดผ่านออนไลน์ จะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เอเซอร์ สามารถรักษาส่วนแบ่งในตลาดประเทศไทยได้”
ในมุมของผลิตภัณฑ์ การที่ผู้บริโภคหันมาเลือกผลิตภัณฑ์เป็นเซ็กเมนต์มากยิ่งขึ้น ทำให้เอเซอร์ มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เข้ามาตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มนี้ ไม่ว่าจะเป็นเครื่อง 2-1 Acer Switch Alpha 12 ในระดับราคาเริ่มต้น 25,990-45,990 บาท ขึ้นอยู่กับหน่วยประมวลผล Core i3, i5 และ i7 และในกลุ่มออลอินวัน Acer Aspire C ซีรีส์ ในระดับราคา 17,990-19,590 บาท
“ในกลุ่ม 2-1 เอเซอร์มีส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มนี้ราว 49.6% ซึ่งถือเป็นอันดับ 1 ในตลาด จากอัตราการเติบโตกว่า 27% ทำให้เชื่อว่าจะสามารถรักษาการเติบโตในกลุ่มนี้ได้ ขณะเดียวกัน ในกลุ่มอื่นๆ เมื่อลูกค้ามีการเลือกเปลี่ยนกลุ่มจากโน้ตบุ๊กทั่วไปมาใช้งานออลอินวัน หรือเกมมิ่ง มากขึ้น ก็ทำให้ช่วยสร้างรายได้เพิ่ม”
สำหรับส่วนแบ่งในตลาดโน้ตบุ๊กปัจจุบัน ข้อมูลล่าสุดของทางจีเอฟเค ระบุว่า เอเซอร์มีส่วนแบ่งอยู่ที่ราว 30% ส่วนเบอร์ 2 อยู่ที่ราว 20.5% และเบอร์ 3 อยู่ที่ 16.3% ซึ่งกลุ่มที่ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง คือ โน้ตบุ๊กในระดับราคาเกิน 3 หมื่นบาทขึ้นไป ที่โตกว่า 5% ที่มาช่วยให้มูลค่าในตลาดพีซียังเติบโตอยู่
Company Relate Link :
Acer