ข่าวคราวเกี่ยวกับงูได้ถูกพาดหัวให้เราเห็นผ่านตาอยู่บ่อยครั้ง เรียกความสนใจจากผู้คนทั่วไปได้อยู่เสมอ “งู” ไม่ว่าจะตัวที่มีพิษ หรือไม่มีพิษ ถ้าหากต้องเจอในระยะประชิด ก็ต้องมีเผลอกรี๊ดกันบ้างหล่ะ
แต่ไหนแต่ไร “งู” เป็นสัตว์ที่มีความลึกลับน่าเกรงขาม ด้วยรูปลักษณ์ภายนอก และแววตาที่ดูไม่เป็นมิตร ทำให้สัญชาตญาณที่ฝังลึกอยู้ในต่อมใต้สมองของเรา เตือนเราไม่ให้เข้าใกล้ หนีได้ก็หนี เลี่ยงได้ก็เลี่ยง แต่สัญชาตญาณเหล่านั้น ดูเหมือนจะใช้ไม่ได้กับผู้คนส่วนใหญ่ในหมู่บ้านนี้
บ้านโคกสง่า อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น หรือที่คนทั่วไปรู้จักกันในชื่อ “หมู่บ้านงูจงอาง” มีชื่อเสียงในเรื่องของการแสดงอันหวาดเสียวระหว่างคนกับงูมาช้านาน จนเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งไทย และเทศจากทุกสารทิศ ให้มาเยี่ยมเยือนเพื่อสัมผัสประสบการณ์ตื่นเต้นแบบใกล้ชิด จุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ระหว่างคนกับงูในหมู่บ้านนี้จะมีที่มาที่ไปอย่างไร เรามาย้อนอดีตวันวานไปด้วยกัน
แรกเริ่มเดิมที ราวปี พ.ศ.2494 หรือราว 65 ปีก่อนโน้น พ่อใหญ่เคน ยงลา หรือพ่อหมอสมุนไพรในตำนานของชาวหมู่บ้านโคกสง่า มีความรู้ในเรื่องการทำยาสมุนไพรที่ได้รับการสืบทอดมาแต่โบราณ ด้วยความที่ที่ตั้งของบ้านโคกสง่าเป็นป่าทึบ มีสัตว์อยู่ชุกชุม ตัวพ่อใหญ่เองเป็นผู้มีวิชา นอกจากชำนาญสารพัดสมุนไพรป่าแล้ว ยังมีความสามารถในการเล่นกับงูอีกด้วย เลยเริ่มลองจับงูเห่า และงูจงอาง มาเลี้ยงในลังไม้เพื่อนำออกแสดงให้คนในละแวกนั้นชม พร้อมกันกับการขาย และบรรยายสรรพคุณของสมุนไพรชนิดต่างๆ ควบคู่กันไปด้วย
ปรากฏว่าได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม กลายเป็นแม่เหล็กที่ดึงดูดให้คนทั่วสารทิศมาดู ทำให้ไม่ต้องตระเวนออกขายสมุนไพรตามหมู่บ้านต่างๆ อีกต่อไปแล้ว หลังจากนั้น พ่อใหญ่ก็ได้ถ่ายทอดวิชาความรู้ ทั้งในเรื่องสมุนไพร และวิธีการจับงู ให้แก่คนในหมู่บ้านอย่างไม่หวงแหน ชื่อเสียงของหมู่บ้านงูจงอาง จึงเริ่มขจรขจายออกไปจนเป็นที่รู้จักกันทั้งประเทศ
ผ่านมาเนิ่นนาน จากวันวานในตำนานมาถึงวันนี้ แม้การแสดงงูจะยังมีคนสนใจอยู่บ้าง แต่มันก็ถือว่าเลยจุดรุ่งเรืองมาแล้ว ยุคนี้พฤติกรรมคนเปลี่ยน ถ้ามัวแต่ขายของแบบเดิม ทำการตลาดแบบเดิม การค้าขายสมุนไพรก็คงจะได้แค่รอวันปิดตัวลง
คุณแม่สมใจ พันขันตรี ชาวบ้านดั้งเดิมเจ้าของร้านสมุนไพรร้านหนึ่งในหมู่บ้านแห่งนี้ก็ประสบปัญหาเช่นเดียวกัน มีคนมาดูการแสดงงูจงอางมากมาย แต่ทำไมไม่ค่อยมีคนสนใจสมุนไพรเลย วันไหนมีนักท่องเที่ยวเยอะก็พอขายออกบ้าง แต่บางวันนี่ขายไม่ได้เลย
ในจุดนี้เองที่ทีมเน็ตอาสาของดีแทค ได้เข้าไปมีส่วนช่วยให้การขายสมุนไพรของคุณแม่สมใจเริ่มดีขึ้น โดยได้เข้าไปพูดคุย และแนะนำการใช้อินเทอร์เน็ตแก่คุณแม่ที่ไม่มีความรู้เรื่องอินเทอร์เน็ตมาก่อนเลย แต่มีความสนใจที่จะเรียนรู้ ค่อยๆ ศึกษาขั้นตอนการใช้งาน ลองผิดลองถูกอยู่นาน จนตอนนี้สามารถเปิดเพจเฟซบุ๊ก “สมุนไพรภูมิปัญญาหมู่บ้านงูจงอาง” เพิ่มช่องทางการขายได้อีกทางหนึ่งแล้ว
ด้านลูกสาวของคุณแม่สมใจ “คุณแคท-ศรัญญา พันขันตี” ยังไม่ค่อยเชื่อว่าจะมีคนมาสนใจได้อย่างไรกับเพจที่สร้างไว้บนสมาร์ทโฟน จนกระทั่งหลายสัปดาห์ผ่านไปกลับไปดูอีกครั้ง มีคนฝากข้อความสนใจสินค้าสมุนไพรไว้เป็นจำนวนมาก จึงรู้สึกมีกำลังใจ มองเห็นความเป็นไปได้ในอนาคตที่จะพัฒนาการขายในช่องทางต่างๆ
“วันนี้ขายสมุนไพรดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนมากมายค่ะ แค่มีออเดอร์จากลูกค้าใหม่ๆ และลูกค้าเก่าก็มาซื้อซ้ำ จนวันนี้ย้อนมองกลับไปก่อนเจอทีมเน็ตอาสาของดีแทค แคท กับคุณแม่มากันไกลมาก ตอนนี้ต้องขยายร้านเพิ่มจากหมู่บ้านงูจงอาง มาเปิดใหม่ที่ศูนย์ค้าส่งอู้ฟู่ ในตัวเมืองจังหวัดขอนแก่น เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น”
จากตัวอย่างของคุณแม่สมใจ และคุณแคท เห็นได้ชัดว่า หากรู้จักการใช้อินเทอร์เน็ต และใช้ประโยชน์จากอินเทอร์เน็ตให้เป็น เราก็สามารถสร้างรายได้เพิ่ม และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ ตามที่ทีมเน็ตอาสาของดีแทค เค้าได้จัดสรรกำลังคนไปแนะนำในพื้นที่ต่างๆ สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่กำลังผลักดันให้ประเทศเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิตอล ที่ใช้เทคโนโลยีขับเคลื่อนในการพัฒนาประเทศ
ช่องทางการขายเราปรับเปลี่ยนไปได้ตามยุคสมัย ผสานกับของดีในตำนานภูมิปัญญาแบบเดิม ตอนนี้คุณแม่สมใจ และคุณแคทลูกสาว ไม่เพียงแค่ใช้งูจงอางในตำนานเรียกคนดูให้สนใจสมุนไพร แต่ใช้เพจออนไลน์เป็นช่องทางให้คนมาสนใจสมุนไพรลุยขายแบบแม่ค้ายุคดิจิตอลกันเลยทีเดียว
(พื้นที่ประชาสัมพันธ์)