เอไอเอส เดินหน้าสนับสนุนคนรุ่นใหม่สร้าง New Creative Digital Startup เปิดตลาด Content Creator ไทยให้เติบโต ผ่านโครงการ The 5-Min VDO Challenge ชวนคนรุ่นใหม่ ใครก็ได้ ส่งคลิปวิดีโอ เข้าประกวดในหัวข้อ “Connecting Live - เชื่อมโลกให้ใกล้ เชื่อมใจให้กว้าง” หาผู้ชนะ 2 ทีมร่วมทำหนังโฆษณากับเอไอเอส พร้อมเผยแพร่ผลงานให้ผู้ใช้มือถือในกลุ่มสิงเทลกว่า 600 ล้านรายใน 7 ประเทศของทวีปเอเชีย แอฟริกา และออสเตรเลีย
นายปรัธนา ลีลพนัง รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการตลาด เอไอเอส กล่าวว่า คอนเทนต์ และธุรกิจใหม่ๆ เกิดขึ้นได้ทุกวันโดยไร้ข้อจำกัดทั้งเรื่องเวลา และสถานที่ ด้วยโครงข่ายดิจิตอล ทั้งโมบาย และฟิกซ์ บรอดแบนด์ ที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ทำให้เกิดผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์ และมีบริการเติบโตไปพร้อมๆ กัน ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา เอไอเอสให้ความสำคัญกับการสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณค่าที่ช่วยจุดประกายสังคมให้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
ปัจจุบัน ดิจิตอลคอนเทนต์ที่กำลังได้รับความนิยมทั่วโลก คือ วิดีโอ เนื่องจากวิดีโอเป็นคอนเทนต์ที่เข้าถึงความรู้สึกนึกคิดของผู้เห็นได้อย่างมาก ทั้งแพร่ได้ในวงกว้าง เพราะไม่มีอุปสรรคด้านภาษา หรือขอบเขตพื้นที่ ภาพในปัจจุบันจึงเกิดเทรนด์ใหม่ที่ผู้บริโภคทุกคนสามารถกลายเป็นผู้ผลิตคอนเทนต์ พร้อมส่งแชร์ให้คนบนโลกออนไลน์ติดตามได้ทุกที่ทุกเวลา
“วิดีโอเป็นคอนเทนต์ที่มีสัดส่วนสูงถึง 60% ของคอนเทนต์บนอินเทอร์เน็ตทั้งหมด โดยส่วนใหญ่เป็นยังเป็นคอนเทนต์วิดีโอที่ผลิตจากคนไทยในสัดส่วนที่น้อยมาก เอไอเอส เชื่อว่า วิดีโอจะสิ่งสำคัญทั้งในปัจจุบัน และอนาคต จึงขยายโครงการนี้เพิ่มอีก 1 แกน เป็น Content Creator”
เอไอเอส ต้องการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้ร่วมเป็น Content Creator สร้างสรรค์ดิจิตอลคอนเทนต์ที่มีคุณค่าเพื่อเผยแพร่สู่ตลาดระดับภูมิภาค โดยจัดโครงการ The 5 - Min VDO Challenge ภายใต้ความร่วมมือกับบริษัทในกลุ่มสิงเทล ให้คนทั่วไปส่งวิดีโดคลิปเข้าร่วมประกวดในหัวข้อ “Connecting Live - เชื่อมโลกให้ใกล้ เชื่อมใจให้กว้าง” ค้นหาผู้ชนะ 2 ทีม คว้าเงินรางวัลรวมกว่า 5 แสนบาท พร้อมเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าแข่งขันในเวทีระดับโลก เพื่อชิงเงินรางวัล 1.3 ล้านบาท โดยผู้ชนะจะได้ร่วมทำหนังโฆษณากับเอไอเอส และมีโอกาสก้าวสู่การเป็นดิจิตอลพาร์ตเนอร์ ร่วมทำธุรกิจกับโอเปอร์เรเตอร์ชั้นนำจากทั่วโลก เพื่อเผยแพร่ผลงานให้ผู้ใช้มือถือในกลุ่มสิงเทลกว่า 600 ล้านรายใน 7 ประเทศของทวีปเอเชีย แอฟริกา และออสเตรเลีย ได้ชม
ทั้งนี้ การแข่งขันแบ่งออกเป็น 2 ระดับ คือ หาผู้ชนะระดับประเทศ จำนวน 2 ทีม เป็นตัวแทนไปแข่งขันในระดับภูมิภาค ร่วมกับผู้ชนะจากโอเปอร์เรเตอร์อื่นในกลุ่มสิงเทล รวม 14 ทีมจาก 7 ประเทศทั่วโลก ด้วยโจทย์เดียวกันในหัวข้อ “Connecting Live - เชื่อมโลกให้ใกล้ เชื่อมใจให้กว้าง” ความยาวไม่เกิน 5 นาที ไม่จำกัดรูปแบบ และแนวทาง ไม่จำกัดอายุ จะเดี่ยว หรือทีมก็ได้ โดยส่งผลงานมาที่เว็บไซต์ www.ais.co.th/the5minvideochallenge ตั้งแต่วันนี้จนถึง 9 ก.ย.59
โดยจะประกาศรายชื่อทีมที่ผ่านการคัดเลือกรอบแรก จำนวน 25 ทีม ในวันที่ 12 ก.ย.59 จากนั้นจะจัดเวิร์กช็อปอบรมให้ความรู้ที่เป็นประโยชน์ เพื่อนำไปปรับปรุงผลงาน และประกาศรายชื่อผู้ชนะ จำนวน 2 ทีม ในวันที่ 7 ต.ค.59 เพื่อเป็นตัวแทนไปแข่งขันในระดับภูมิภาค โดยประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดงานประกาศผลผู้ชนะระดับภูมิภาคขึ้น ในวันที่ 21 พ.ย.2559 ที่กรุงเทพฯ
นายปรัธนา กล่าวว่า ตลอด 5 ปีที่ทำงานร่วมกับกลุ่มสตาร์ทอัป ได้มองเห็นเทรนด์การเติบโตของธุรกิจสตาร์ทอัปในระดับภูมิภาคที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ จากที่ผ่านมา สตาร์ทอัปที่เข้ามาลงทะเบียนกับเอไอเอส 80% อยู่ในกรุงเทพฯ ที่เหลืออีก 20% เป็นต่างจังหวัดซึ่งในอนาคตคาดว่าตัวเลขต่างจังหวัดจะเพิ่มเป็น 50%
“เชื่อมั่นว่าลักษณะการทำงานของสตาร์ทอัปจากนี้ไป จะสามารถเปลี่ยนรูปแบบสู่การเป็น Digital Creator ที่สอดคล้องกับกระแสของวิดีโอคอนเทนต์ได้อย่างแน่นอน”
ทั้งนี้ เอไอเอสจะจัดงาน “Startup Thailand & Digital Thailand” โรดโชว์ไปให้ความรู้เกี่ยวกับสตาร์ทอัป และเปิดรับการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจร่วมกับเอไอเอส พร้อมนำทีมสตาร์ทอัปรุ่นพี่จากโครงการ AIS The StartUp ที่ประสบความสำเร็จ และมีประสบการณ์ในการทำตลาดระดับภูมิภาค ได้แก่ Golfdigg, Infographic Thailand, Local Alike, Fixzy, ZipEvent, Fourleaf, Favstay ไปร่วมจุดประกาย และเปิดมุมมองทางธุรกิจ ให้กับนักศึกษา คนรุ่นใหม่ เจ้าของธุรกิจ และสตาร์ทอัปในต่างจังหวัด ซึ่งจะจัดใน 3 หัวเมืองใหญ่ ที่เชียงใหม่ ขอนแก่น และภูเก็ต ช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย. 59 นี้