‘แซตทีอี’ มั่นใจศักยภาพตลาดมือถือไทย ทุ่มกว่า 300 ล้านบาทในการสร้างแบรนด์ให้เกิดการรับรู้ ยึดความเป็นสินค้าพรีเมียมในราคาที่จับต้องได้เล็งขยายตลาดร่วมกับพาร์ทเนอร์ พร้อมเปิดแบรนด์ชอป เฟ้นหาพรีเซนเตอร์และนำแฟลกชิปสมาร์ทโฟนเข้ามาทำตลาดในครึ่งปีหลัง
แจ็คกี้ จาง ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท แซตทีอี คอร์ปอเรชั่น จำกัด และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ภูมิภาคยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกา และเอเชีย กลุ่มธุรกิจอุปกรณ์สื่อสาร กล่าวว่า แซตทีอีให้ความสำคัญกับตลาดในประเทศไทยเป็นอย่างมากด้วยการทุ่มงบในการทำตลาดกว่า 300 ล้านบาทในปีนี้ที่จะสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รับรู้ในกลุ่มผู้บริโภคถึงการเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนที่คุ้มค่าประสิทธิภาพดีพร้อมกับการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพออกสู่ตลาดในทุกๆกลุ่มผู้ใช้งาน
“สิ่งที่แซตทีอีเน้นในตอนนี้คือธีมที่เรียกว่า imagination and beyond ด้วยการเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนที่ให้ความสำคัญกับผู้บริโภคที่จะได้สินค้าที่มีคุณภาพในระดับราคาที่จับต้องได้ ดังที่เห็นจากก่อนหน้านี้มีการเปิดตัว Blade V7 Lite ในราคาต่ำกว่า 5,000 บาท เป็นทางเลือกให้แก่ผู้บริโภค”
จากเป้าหมายที่แซตทีอีวางไว้คือการขึ้นมาเป็น 1 ใน 5 ผู้นำสมาร์ทโฟนในประเทศไทยทำให้ต้องมีการขยับส่วนแบ่งการตลาดจากเดิมที่มีอยู่ราว 2% ให้เพิ่มขึ้นเป็น 5-6% ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งทางแซตทีอีมีแผนที่จะเปิดตัวแบรนด์พรีเซนเตอร์ที่เป็นคนไทยด้วยการใช้ดาราในการสร้างความนิยมภายใต้เอนเตอร์เทนเมนต์มาร์เกตติ้งเพื่อให้เกิดการรับรู้ในวงกว้างก่อน
“ตอนนี้กำลังเสาะหาพรีเซนเตอร์ที่เหมาะสมกับแซตทีอีอยู่ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวได้ภายในปีนี้ขณะที่ในแง่ของการทำตลาดจะเน้นทั้งกลุ่มที่เป็นออฟไลน์ และออนไลน์พร้อมไปกับการแนะนำนวัตกรรมที่น่าสนใจซึ่งมีการเปิดตัวไปเมื่อต้นปีอย่างเครื่องโปรเจกเตอร์ขนาดพกพาที่สามารถใส่ซิมการ์ดได้และแว่น VR”
โดยในส่วนของเครื่องเล่นโปรเจกเตอร์ขนาดพกพา SPro2 กำลังอยู่ในช่วงการพูดคุยกับทางโอเปอเรเตอร์ที่จะทำการขายในรูปแบบของการบันเดิลแพกเกจเพื่อให้ลูกค้าสามารถนำไปใช้งานเพื่อรับชมคอนเทนต์ จากการฉายโปรเจกเตอร์ได้ทุกที่ทุกเวลา ดังนั้นจึงยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดการวางจำหน่ายเพิ่มเติมได้
ขณะที่ในส่วนของแว่น VR คาดว่าจะเริ่มนำเข้ามาให้ผู้บริโภคได้สัมผัสพร้อมๆไปกับการเปิดตัวแบรนด์ชอปที่กำหนดไว้ 1 แห่งภายในปีนี้ซึ่งยังอยู่ในช่วงการหาพื้นที่อยู่เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะเปิดตัว ZTE Axon 7 ในช่วงเดือนสิงหาคม ที่ทางแซตทีอีเชื่อว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่เข้ามาช่วยปรับภาพของแซตทีอีให้มีความน่าเชื่อถือจากประสิทธิภาพที่ดีในระดับแฟลกชิปในราคาไม่สูง
ส่วนของช่องทางการทำตลาดในปีนี้ แซตทีอีจะเน้นการขยายผ่านดีลเลอร์กระจายไปยังทั่วประเทศมากยิ่งขึ้นจากเดิมที่เน้นการร่วมมือกับหน้าร้านในการนำสินค้าไปวางตลาดแต่ถ้าพนักงานไม่มีการแนะนำสุดท้ายสินค้าก็จะไม่ได้รับความนิยมในจุดนี้จึงต้องมีการเทรนด์พนักงานเพิ่มพร้อมไปกับการปรับรูปแบบการเข้าถึงหน้าร้านให้เหมาะสม
“ปีนี้เป็นปีที่แซตทีอีค่อนข้างพร้อมคือมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่แข่งขันได้ทั้งในแง่ของประสิทธิภาพ และคุณภาพทางด้านภาพและเสียง ประกอบกับการที่มีสินค้าให้เลือกหลากหลายระดับราคาจึงเชื่อว่าแซตทีอีจะสามารถแจ้งเกิดในตลาดประเทศไทยได้อย่างแน่นอน”
Company Relate Link :
ZTE