ไอเน็ต เร่งสร้างดาต้า เซ็นเตอร์ แห่งที่ 3 รับคลาวด์โตช่วยผลักดันรายได้บริษัทเพิ่ม เผยเฟสแรกยอดผู้เช่าใช้เกิน 60% แล้วเตรียมออกหุ้นเพิ่มทุนลุยเฟส 2-3 ให้เร็วขึ้น พร้อมมีแผนเปิดให้บริการคลาวด์แก่สตาร์ทอัป เน้นเรื่องการให้บริการในประเทศ ราคาถูก และปลอดภัย
นางมรกต กุลธรรมโยธิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (ไอเน็ต) กล่าวว่า จากแผนธุรกิจของไอเน็ตที่มุ่งไปที่การให้บริการคลาวด์ ด้วยการเป็นผู้นำในการให้บริการคลาวด์ในประเทศสำหรับองค์กรได้รับผลตอบรับที่ดี ส่งผลให้ในช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ไอเน็ตมีรายได้รวมถึง 201.57 ล้านบาท เติบโตขึ้น 53% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยมีรายได้หลักมาจากการให้บริการคลาวด์ที่เติบโตถึง 75.74%
“ไอเน็ต คาดว่า ในปีนี้จะมีโอกาสสร้างรายได้ถึง 900 ล้านบาท และที่สำคัญ คือ รายได้จะอยู่ในรูปแบบเช่าใช้ที่มีสัญญาต่อเนื่อง และมีแนวโน้มในการใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น จึงมีโอกาสเติบโต 30%-40% ต่อเนื่องในทุกๆ ปีถือเป็นเรื่องปกติ ซึ่งการให้บริการเหล่านี้ยังไม่ได้กระจายไปยังธุรกิจใหม่อย่างสตาร์ทอัปที่มีโอกาสเติบโตเพิ่มขึ้นอีก”
นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะเชิญให้สตาร์ทอัปกลับบ้านมาใช้งานระบบคลาวด์ในประเทศไทย ด้วยการตั้งบริษัทลูกมาให้บริการคลาวด์ราคาถูก และยังมีความปลอดภัยสูงในช่วงไตรมาส 3-4 ของปีนี้ เพื่อเป็นการขยายโอกาสในการให้บริการคลาวด์ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน ก็จะได้ในเรื่องของการยกเว้นภาษีจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ที่สนับสนุนให้เกิดการลงทุน
ปัจจุบัน ไอเน็ตให้บริการ 4 ส่วนหลักๆ คือ 1.Co-Location บริการรับฝากเซิร์ฟเวอร์ ถือเป็นธุรกิจที่เติบโตพร้อมกับปริมาณการใช้งานอินเทอร์เน็ต เมื่อ 3G/4G เริ่มให้บริการทั่วถึงมากขึ้น พร้อมกับการให้บริการ Fiber ทำให้ปริมาณใช้งานข้อมูลเพิ่มสูงขึ้น ถัดมา คือ 2.Cloud Solutions ที่เป็นการอัปเกรดเทคโนโลยีจากโค โลเกชัน ที่มีราคาถูกลง ประสิทธิภาพเพิ่มสูงขึ้นตามเทคโนโลยี นอกจากนี้ ก็จะมีบริการอย่าง 3.Internet Access ให้บริการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตภายใต้การร่วมมือกับผู้ให้บริการโครงข่าย และสุดท้าย 4.EDC Network Pool ในการให้บริการเชื่อมต่อบัตรเครดิตรายเดียวในประเทศไทย
“รายได้ปัจจุบันของไอเน็ตมาจากการให้บริการคลาวด์ถึง 86.13 ล้านบาท รองลงมา คือ โค โลเกชัน 36.23 ล้านบาท การให้บริการอินเทอร์เน็ต 36.15 ล้านบาท และอีดีซี 6.83 ล้านบาท ทำให้ปัจจุบัน คลาวด์เข้ามาเป็นรายได้หลักของทางไอเน็ต เพียงแต่ในอนาคตอาจจะไม่เติบโตเท่าที่ผ่านมาถ้าไม่มีการลงทุนดาต้า เซ็นเตอร์ ทำให้ไอเน็ตต้องมีการปรับแผนการลงทุนให้เร็วขึ้น”
ช่วงนี้ถือเป็นธุรกิจต้นน้ำของคลาวด์ ทำให้ต้องมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งปัจจุบัน ไอเน็ตให้บริการดาต้า เซ็นเตอร์ด้วยกัน 2 แห่ง ในกรุงเทพฯ กับแห่งที่ 3 INET-IDC3 ที่จะเปิดให้บริการเฟสแรกในช่วงต้นปี 2560 ส่วนเฟส 2 จะเริ่มให้บริการในไตรมาสแรกของปี 2561 และเฟส 3 เริ่มให้บริการไตรมาส 4 ของปีเดียวกัน ซึ่งตั้งอยู่ที่ อ.แก่งคอย จังหวัดสระบุรี ที่เป็นการเข้าไปเช่าใช้พื้นที่ของทาง SCG ซึ่งถือเป็นพันธมิตร และลูกค้ารายใหญ่ของไอเน็ต
“แต่เดิมจะแบ่งการลงทุน IDC3 ออกเป็น 3 เฟส แต่ด้วยปัจจุบันมีลูกค้าเข้ามาจองพื้นที่ในเฟส 1 แล้วกว่า 60% ทำให้มีการปรับแผนการลงทุนเร็วขึ้นกว่าแผนที่วางไว้ ทำให้ทางไอเน็ตต้องมีการเพิ่มทุน 262.52 ล้านหุ้น คิดเป็นเงินที่จะได้มาลงทุนกว่า 780 ล้านบาท พร้อมกับการให้สิทธิผู้ถือหุ้นเดิมเพิ่มทุน รวมแล้วเป็นจำนวนเงินกว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้ในการสร้างเฟสที่ 2 และ 3 ตามลำดับ ส่วนเงินที่เหลือก็จะนำไปเป็นเงินทุนหมุนเวียนต่อไป”
ทั้งนี้ ไอเน็ต คาดว่าหลังจากเปิดให้เข้าติดตั้งเซิร์ฟเวอร์สำหรับโครงการในเฟส 1 เพื่อให้บริการลูกค้าภายนอก จำนวน 432 ตู้ คาดว่าจะติดตั้งจนครบภายในปี 2563 ซึ่งเมื่อเทียบกับจากเดิมที่ IDC1 และ IDC2 มีตู้เซิร์ฟเวอร์อยู่ 452 ตู้ คิดเป็นการปรับเพิ่มถึง 96.57% ดังนั้น การขยายดาต้า เซ็นเตอร์ในครั้งนี้ จะทำให้ไอเน็ตสามารถรักษาความเป็นผู้นำในตลาดคลาวด์ได้ต่อไป
สำหรับการแข่งขันในตลาดคลาวด์โซลูชัน ปัจจุบัน จะมีหลักๆ ด้วยกัน คือ อเมซอน เว็บ เซอร์วิส (AWS) ที่ล่าสุด มีการเข้ามาตั้งสำนักงานในประเทศไทย เพียงแต่ยังไม่มีการเข้ามาตั้งดาต้า เซ็นเตอร์ในประเทศไทย ซึ่งจุดเด่นของ AWS คือ เรื่องของความเสถียร ราคาถูก แต่ถ้าเป็นองค์กรที่ต้องการความปลอดภัย หรือการเก็บข้อมูลตามกฎหมายในประเทศไทยอาจจะไม่รองรับ เพราะยังไม่มีให้บริการภายในประเทศ
ส่วนอีกราย คือ ไมโครซอฟท์ ที่ให้บริการ Azure ที่เป็นบริการคลาวด์ ซึ่งยังมีดาต้า เซ็นเตอร์อยู่ในต่างประเทศเช่นเดียวกัน เพียงแต่ถ้ามีบริษัทอยากใช้เทคโนโลยีไมโครซอฟท์ ในประเทศไทย ก็สนับสนุนในการโอนย้ายข้อมูลมาให้แก่ผู้ให้บริการภายในประเทศไทย ทำให้ไม่ถือว่าเป็นคู่แข่งโดยตรง
“จุดเด่นของไอเน็ต คือ การเป็นผู้ให้บริการคลาวด์ในประเทศไทย มีการเก็บข้อมูลอยู่ในประเทศไทยถูกต้องตามกฎหมาย ดังนั้น ถ้าเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญต่อเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลจะเป็นลูกค้าเป้าหมายของไอเน็ต”
Company Relate Link :
INET
