xs
xsm
sm
md
lg

“กลุ่มสามารถ” ไตรมาสแรกกำไร 114 ล้านบาท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น
กลุ่มสามารถ โชว์ผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2559 มีรายได้รวม 4,127 ล้านบาท กำไรสุทธิรวม 114 ล้านบาท จากการรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องของสายธุรกิจไอซีที ซึ่งปัจจุบันมีงานอยู่ในมือแล้วกว่า 7,911ล้านบาท และการขยายตัวของธุรกิจอื่นๆ ในเครือ มั่นใจรายได้ทั้งปี 24,000 ล้านบาท

นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้เศรษฐกิจไทยยังได้รับผลกระทบจากภาวะผันผวนของเศรษฐกิจโลก และภาวะซบเซาของเศรษฐกิจในประเทศ อย่างไรก็ตาม กลุ่มบริษัทสามารถก็ยังดำเนินธุรกิจได้อย่างน่าพอใจ โดยมีรายได้รวม 4,127 ล้านบาท กำไรสุทธิ 114 ล้านบาท เพิ่มขึ้นทั้งรายได้ และกำไรเมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสที่ผ่านมา

แสดงถึงแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจที่เริ่มกลับมาเป็นบวก โดยสัดส่วนกำไรหลักๆ มาจากธุรกิจด้านไอซีทีของกลุ่มสามารถเทลคอม และธุรกิจอื่นๆ ส่วนกลุ่มสามารถไอ-โมบาย แม้จะสามารถจำหน่ายโทรศัพท์มือถือได้จำนวนมากในไตรมาสที่ผ่านมา แต่ราคาเฉลี่ยลดลงตามสภาพตลาด อย่างไรก็ตาม คาดว่าหลังการรุกธุรกิจใหม่ด้านออนไลน์อย่างเป็นรูปธรรม ตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไป จะเห็นการเปลี่ยนแปลงของกลุ่มไอ-โมบาย ในทิศทางที่ดีขึ้น

โดยสรุปกลุ่มสามารถเทลคอม มีรายได้รวม 1,459 ล้านบาท กำไรสุทธิ 56 ล้านบาท เพิ่มขึ้นทั้งรายได้ และกำไรเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา มีงานในมือรวมแล้วกว่า 7,911 ล้านบาท มีงานในมือเฉพาะไตรมาสแรกแล้วกว่า 1,120 ล้านบาท ล่าสุด ชนะการประมูลโครงการมูลค่ากว่า 2,500 ล้านบาท และคาดว่าจะเซ็นสัญญาได้ในปลายเดือน พ.ค.นี้

กลุ่มสามารถไอ-โมบาย มีรายได้ 1,446 ล้านบาทกลุ่มสามารถ ยูทรานส์ มีรายได้ 1,015 ล้านบาท เติบโตขึ้น 10% ส่วนสายธุรกิจอื่นๆ ประกอบด้วย บริษัท สามารถวิศวกรรม จำกัด และบริษัท วิชั่น แอนด์ ซิเคียวริตี้ ซิสเต็ม จำกัด ก็มีรายได้รวม 121 ล้านบาท

**ทุกสายงานเดินหน้าต่อ

สายไอซีที โซลูชั่นส์ นำโดย บริษัท สามารถเทลคอม (SAMTEL) โดย แซมเทล จะมีโอกาสจากโครงการต่างๆ ที่เลื่อนประมูลมาปีนี้ รวมมูลค่ากว่า 8,000 ล้านบาท และที่สำคัญ แซมเทล ยังได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว จากโครงการระบบตรวจสอบ และคัดกรองผู้โดยสาร (APPS) มูลค่ากว่า 2,800 ล้านบาทอีกด้วย

ส่วนบริษัท สามารถไอ-โมบาย ผู้นำสายธุรกิจโมบาย มัลติมีเดีย อยู่ในช่วงการเปลี่ยนถ่าย
ธุรกิจเดิมให้สอดรับต่อยุคออนไลน์ โดยจะลดสัดส่วนรายได้จากการจำหน่ายโทรศัพท์มือถือลงให้เหลือเพียง 60% และไปเพิ่มรายได้ประจำจากธุรกิจบริการอื่นๆ โดยเฉพาะธุรกิจออนไลน์ ล่าสุด บริษัทฯ ได้เข้าไปซื้อบริษัท Phoinikas ซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับ Digital Advertising เพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำธุรกิจใหม่ และสร้างความมั่นคงในอนาคต นอกจากนี้ จะปรับโฉมร้านใหม่ภายใต้แบรนด์ OPEN SHOP เพื่อสะท้อนภาพลักษณ์ที่ทันสมัย และเป็นศูนย์รวมของโทรศัพท์มือถือและ Lifestyle Gadget มากมาย โดยตั้งเป้าทยอยปรับเปลี่ยนร้านทั้งหมด จำนวน 28 สาขา ในปีนี้

นอกจากนี้ ยังมีการเปิดให้บริการ MVNO บนเครือข่ายของบริษัท กสท โทรคมนาคม ในชื่อ “Open MVNO” โดยล็อตแรกตั้งเป้า 2 แสนซิม ส่วนธุรกิจมือถือ ไตรมาส 2 จะมี 3 รุ่นที่ออกจำหน่าย โดยเน้นฟังก์ชัน Android 6.0 (Marshmallow) ซึ่งมีหน้าจอขนาดใหญ่ 5 นิ้ว แบบ Super Bright AMOLED โดยตั้งเป้าจำหน่ายที่ 8 แสนเครื่อง

ในส่วนสายธุรกิจ U-trans ซึ่งประกอบด้วย CATS, Kampot Power Plant และ Teda บริษัทที่เชี่ยวชาญด้านระบบ และเสาส่งไฟฟ้า ล่าสุด คว้างานมูลค่ากว่า 1.2 พันล้านบาท ในงานก่อสร้างสถานีไฟฟ้าแรงสูง และสายส่งไฟฟ้าแรงสูงขอนแก่น รวมถึงการจัดหาและก่อสร้างสายส่งไฟฟ้าแรงสูงในบางเขตของระยอง อ่างทอง และอยุธยา โดยธุรกิจโรงไฟฟ้ายังมีการขยายตัวต่อเนื่อง และเป็นธุรกิจที่หนุนให้กำไรของกลุ่มมีโอกาสสูงขึ้น คาดว่าภายใน 2 ปีข้างหน้าจะมีโอกาสการเติบโตที่สูงขึ้นจากการรับงานก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าที่เป็นเมกะโปรเจกต์ เช่น โครงการพลังงานไฟฟ้าถ่านหินขนาด 2000 เมกะวัตต์ และโครงการไฟฟ้าขยะในหลายๆ จังหวัด

สุดท้าย สายธุรกิจ Related Business โดยล่าสุดส ามารถวิศวกรรมเปิดตัวสินค้าใหม่ SAMART Digital Headend Solution หรือ ะบบทีวีรวมดิจิตอล สำหรับอาคารสูงเพื่อรุกธุรกิจดิจิตอลให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ ที 100 ล้านบาท มั่นใจ 3 ปี มีรายได้ประมาณ 1 พันล้านบาท ส่วนธุรกิจของบริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ มีโอกาสเข้าประมูลอีกหลายโครงการ รวมมูลค่ากว่า 570 ล้านบาท ตั้งเป้าเติบโต 10% ด้วยกลยุทธ์การขยายฐานลูกค้าในกลุ่ม Insurance & Finance, Airline และ FMCG (Fast Moving Consumer Goods) เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีการเติบโตสูง และให้ความสำคัญต่อการให้บริการลูกค้า และการสื่อสารทางการตลาดในวงกว้าง ทางบริษัทจะนำเสนอนวัตกรรมการให้บริการต่างๆ เพื่อสอดรับต่อพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ที่เน้นการเข้าถึงทางด้านอินเทอร์เน็ต และโซเชียล มีเดีย รวมถึงการพัฒนาระบบในการให้บริการ ทั้ง คลาวด์ คอนแท็กเ ซ็นเตอร์ และการจัดการบริหารบริการอื่นๆ ของลูกค้าให้มีความหลากหลายมากขึ้น

นายวัฒน์ชัย กล่าวถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจทั้งภายใน และต่างประเทศว่ากำลังเริ่มคลี่คลาย บวกกับปริมาณงานโครงการที่กลุ่มสามารถจะร่วมประมูลเยอะกว่าทุกปี ทำให้มั่นใจได้ว่าจะมีโอกาสได้งานมากขึ้น และบรรลุเป้าหมายที่วางไว้
กำลังโหลดความคิดเห็น