ADVWS เผยผลการดำเนินธุรกิจในปี 2558 รายได้มากกว่าที่ประมาณการไว้ 7% อยู่ที่ 1,600 ล้านบาทเติบโตขึ้น 30% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ส่วนปีนี้ตั้งเป้ารายได้ 2,300 บาทหรือโตขึ้น 40% มั่นใจ 4G จะเป็นแรงผลักดันที่สำคัญ เตรียมเพิ่มงบการตลาดเป็น 8 ล้านบาท เพิ่มกิจกรรมกับลูกค้าที่เติมเงินด้วย พร้อมเพิ่มตัวแทนจำหน่ายและรับจ้างผลิตตู้หวังดันรายได้ให้เพิ่มขึ้น เตรียมส่งตู้เติมเงินรุ่นใหม่มาพร้อมฟังก์ชันใหม่สามารถโอนเงินผ่านตู้ได้ และพร้อมทำการโฆษณาผ่านหน้าจอร่วมกับพาร์ตเนอร์
นายธนัญชัย สมุหวิญญู กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอดวานซ์ เว็บ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVWS กล่าวว่า ผลการดำเนินธุรกิจในปี 2558 ที่ผ่านมา บริษัทมีอัตราการเติบโตประมาณ 30% และมีรายได้อยู่ที่ 1,600 ล้านบาท เกินจากเป้าหมายที่วางไว้ที่ 1,500 ล้านบาท ประมาณ 7% ซึ่งสัดส่วนรายได้มาจากธุรกิจเติมเงินสยามท็อปอัป 50% ตู้เติมเงิน 49% และธุรกิจอื่นๆ 1% ซึ่งปัจจัยการเติบโตในปีที่ผ่านมาเป็นผลมาจากการขายแฟรนไชส์ และการขยายตัวแทนจำหน่ายจากเดิม 10 ราย เป็น 80 ราย ทำให้การเข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากขึ้น ส่วนในปีนี้ตั้งเป้าการเติบโตไว้ที่ 2,300 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 40-45% และจะเพิ่มตัวแทนจำหน่ายเป็น 150 ราย
ทั้งนี้ ตลาดภาพรวมตู้ออนไลน์ในปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตประมาณ 10-15% ซึ่งในปีนี้คาดว่าจะเติบโตเท่าเดิม และมีคู่แข่งรายหลักประมาณ 5 ราย โดยตลาดรวมมีมูลค่าประมาณ 17,000 ล้านบาท ปัจจุบัน แอดวานซ์มีมาร์เกตแชร์ 9% และในปีนี้คาดว่าจะเพิ่มเป็น 12% ในขณะที่ผู้นำตลาดมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 80% ซึ่งการเติบโตของธุรกิจเติมเงินออนไลน์ในปีนี้จะมาจากการมาของ 4G จะทำให้การใช้งานดาต้าเพิ่มขึ้น รวมไปถึงมีการใช้งานอินเทอร์เน็ตมากขึ้นในผู้บริโภคกลุ่ม GEN Y รวมไปถึงการใช้งานโซเชียลมีเดียมีการเติบโตมากขึ้น ทำให้ยอดการเติมเงินเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
“ในปีนี้แอดวานซ์จะเพิ่มงบการตลาดจากเดิม 3 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา เพิ่มเป็น 8 ล้านบาทในปีนี้ โดยจะเน้นการทำตลาดเพิ่มกับลูกค้าที่มาเติมเงินด้วย นอกจาก นี้ยังได้ทำการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ตู้เติมเงินรุ่นใหม่ที่มีความทันสมัยมากขึ้น ซึ่งจะสามารถต่อยอดทำการโฆษณาผ่านหน้าจอของตู้เติมเงิน โดยจะเป็นลักษณะของการจับมือกับพาร์ตเนอร์ในการทำโฆษณาร่วมกัน โดยตู้รุ่นใหม่นี้จะเริ่มติดตั้งได้ประมาณเดือนเมษายนนี้ นอกจากนี้ ยังจะมีการขยายไลน์ธุรกิจใหม่ด้วยการรับจ้างผลิตตู้เติมเงินให้แก่ผู้ที่ต้องการผลิตตู้ของตนเอง โดยต้องมียอดขั้นต่ำในการผลิตเริ่มต้นที่ 1,000 ตู้ ซึ่งคาดว่าจะมียอดรับจ้างผลิตบางส่วนในปีนี้”
นายธนัญชัย กล่าวว่า สำหรับยอดขายตู้เติมเงินในปีนี้จะแบ่งเป็นตู้กระปุก 3,300 ตู้ และส่วนที่เหลือเป็นตู้ที่ใช้ระบบ Advancekiosk ประมาณ 2,200 ตู้ โดยคาดว่าในสิ้นปีนี้แอดวานซ์จะมีตู้เติมเงินในระบบทั้งสิ้นประมาณ 13,000 ตู้ จากปัจจุบันที่มียอดรวมทั้งระบบ 8,300 ตู้ แบ่งเป็นตู้กระปุกรวม 4,300 ตู้ ส่วนตู้ที่ใช้ระบบ Advancekiosk รวม 4,000 ตู้ โดยคาดว่ารายได้จะมาจากตู้เติมเงินเพิ่มมากขึ้นเป็น 55% ส่วนธุรกิจเติมเงินสยามท็อปอัป จะเหลือเพียง 44% ที่เหลือเป็นธุรกิจอื่นๆ 1%
ทั้งนี้ หากแยกรายได้ผลประกอบการในปีที่ผ่านมา ธุรกิจเติมเงินออนไลน์ สยามท็อปอัป มียอดเติมเงินประมาณ 800 ล้านบาท ธุรกิจเติมเงินกระปุกมียอดขาย 2,900 ตู้ จำนวนยอดเติมเงินประมาณ 495 ล้านบาท โดยมียอดขายตู้เติบโตขึ้น 57% ธุรกิจระบบเติมเงินสำหรับเชื่อมต่อตู้เติมเงินอื่นๆ หรือ Advancekiosk มียอดขาย 1,900 ตู้ และมียอดเติมเงิน 320 ล้านบาท มียอดขายเติบโตจากปี 2557 ประมาณ 68% มียอดค่าโทร.เติบโต 400% ธุรกิจเติมเงินออนไลน์และระบบจองตั๋วออนไลน์เติบโตประมาณ 10% โดยมีลูกค้าใช้บริการตู้เติมเงินเฉลี่ยยอดเติมเงินต่อเดือนเฉพาะตู้เติมเงินประมาณ 100 ล้านบาท เติบโตขึ้น 148% เมื่อเทียบกับปี 2557
สำหรับตู้เติมเงินกระปุกรุ่นใหม่นั้นนับเป็นเป็นตู้รุ่นที่ 4 มีหน้าจอ 12 นิ้ว มีประสิทธิภาพหน้าจอที่ดีขึ้น จากเดิมที่ 7 นิ้ว โดยจะมีระบบสแกน NFC ในมือถือที่มีซอฟต์แวร์ NFC อยู่แล้ว เพื่อช่วยลดขั้นตอนการเติมเงิน มี CPU ที่เร็วขึ้น 12 เท่าจากระบบเดิม โดยจะมีการเพิ่มบริการใหม่ๆ ขึ้นมา เช่น การรับโอนเงินจากตู้เติมเงิน (ในลักษณะธนาณัติ) สามารถไปเบิกเงินที่เอไอเอสชอป เทเลวิซ และตู้เอทีเอ็ม ธนาคารกรุงไทย โดยยอดสูงสุดในการโอนเงินคือ 10,000 บาท
