xs
xsm
sm
md
lg

Pomo Moji นาฬิกาอัจฉริยะติดตามตัวป้องกันเด็กหาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นางสาวสุปรียา กณิกนันต์ กรรมการบริหาร บริษัท POMOHOUSE
หลังประสบความสำเร็จจากการเปิดตัว Pomo Kids Watch รุ่นแรกทำตลาดได้กว่า 3 หมื่นเครื่อง ภายใน 6 เดือน POMOHOUSE ผู้ก่อตั้งและจำหน่ายนาฬิกาโพโมะ คิดส์ วอทช์ นาฬิกาอัจฉริยะที่สามารถช่วยติดตามพฤติกรรมของเด็ก เปิดตัวนาฬิการุ่นที่ 2 “Pomo Moji” มาพร้อมฟังก์ชันใหม่เพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน ทั้งความแม่นยำของเทคโนโลยีในการติดตามตัว โทร.หาเพื่อนสนิท ปิดการใช้งานโทรศัพท์เวลาเข้าเรียน ติดตั้งง่ายเพียงแค่ใส่ไมโครซิมการ์ด และเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนของผู้ปกครองผ่านแอปพลิเคชัน POMO Moji หวังรายได้สิ้นปีไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท จากการเปิดตัวโปรดักต์อื่นที่จะตามมาอีกหลายรุ่น

น.ส.สุปรียา กณิกนันต์ กรรมการบริหารบริษัท POMOHOUSE ผู้ก่อตั้งและผู้จัดจำหน่ายนาฬิกา โพโมะ คิดส์ วอทช์ (Pomo Kids Watch) นาฬิกาอัจฉริยะช่วยติดตามพฤติกรรมของเด็ก กล่าวว่าหลังจากที่นาฬิการุ่นแรกเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อเดือนพฤษภาคม 2558 ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง เพราะสินค้าได้รับการตอบรับอย่างดี ถือเป็นเจ้าแรกของเมืองไทย สามารถทำตลาดได้กว่า 3 หมื่นเครื่อง จากการทำตลาดประมาณ 6เดือน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ปกครองได้อย่างตรงจุด โดยเฉพาะกรณีเด็กสูญหายมีปริมาณมากขึ้นทุกวัน สร้างความกังวลให้ผู้ปกครองอย่างมาก

หลังวางตลาดรุ่นแรก ทางบริษัททำการเก็บข้อมูลอย่างต่อเนื่องเพื่อนำมาพัฒนาสินค้าในรุ่นต่อๆ ไปเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายให้ได้มากยิ่งขึ้น จึงเป็นที่มาของ โพโมะ คิดส์ วอทช์ ในรุ่นที่ 2 ซึ่งมีชื่อว่า โมจิ (Pomo Moji) รุ่นนี้มีการพัฒนาเพิ่มเติมขึ้นจากรุ่นแรกในหลายๆ ฟังก์ชันไม่ว่าจะเป็นการพูดคุยกับเพื่อนสนิทด้วยโปรแกรม Best Friend Forever, การระบุสถานที่ด้วย 3 เทคโนโลยีที่ดีที่สุด คือ Triple Mode Tracking (Wi-Fi, GPS และ LBS) การปรับเป็นโหมดนาฬิกาเวลาเข้าห้องเรียน เพื่อไม่ให้โทร.ในเวลาเรียน แต่เมื่อมีเหตุจำเป็นก็สามารถเข้าในโหมด SOS ได้ ขณะที่ความจุของแบตเตอรี่มากถึง 600 mAH สแตนด์บายได้ถึง 2 วัน มากกว่ารุ่นเดิมถึงเท่าตัว รวมไปถึงโปรแกรม Journey History ที่สามารถดูข้อมูลย้อนหลังได้อีกด้วย

ผู้บริหารโพโมะ เฮาส์ กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทพร้อมที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำในตลาดนาฬิกาป้องกันเด็กหายอย่างแน่นอน โดยที่ผ่านมา ยังไม่มีผู้ทำตลาดนี้อย่างจริงจัง รายอื่นๆในตลาดเท่าที่พบจะมีแต่นำเข้ามาเพื่อทำตลาดแต่ไม่มีบริการหลังการขาย ขณะที่ โพโมะ เฮาส์ มีทีมพัฒนาซอฟต์แวร์ มีการรับประกันหลังการขาย และที่สำคัญศูนย์บริการหลังการขายที่ลูกค้าสามารถนำเครื่องเข้ามารับบริการได้ทันที

สำหรับการทำตลาด โพโมะ รุ่นโมจิ ทางบริษัทวางงบการตลาดไว้ที่ประมาณ 5 ล้านบาท เพื่อใช้ในการทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย และการตลาด การประชาสัมพันธ์ทั้งทางด้าน Online และ Offline โดยมั่นใจว่าจะสามารถทำตลาดได้กว่า 3 หมื่นเครื่อง

นอกจากนี้ ยังได้มีการร่วมมือกับพาร์ตเนอร์สิงคโปร์ จัดตั้งบริษัทใหม่ชื่อ “โพโมะ อินเตอร์เนชั่นแนล” (Pomo International) เพื่อช่วยขยายตลาดไปยังประเทศในกลุ่ม AEC และในอนาคตอันใกล้นี้จะเปิดตลาดที่ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และ อเมริกาอีกด้วย หลังจากที่ขยายตลาดไปที่ยุโรป รวมไปถึงรัสเซีย ฟินแลนด์ เนเธอร์แลนด์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และสิงคโปร์ แล้ว

สำหรับนาฬิกาโพโมะ รุ่น โมจิ เริ่มวางขายแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ที่ B2S, TG Fone, Jmart, iStudio, Central, iTrueMart, True Shop, Gizman, IT City, To Home, .Life, Banana IT, www.pomohouse.com จากปัจจุบันมี 160 หน้าร้าน จะเพิ่มเป็น 300 หน้าร้านภายในสิ้นปีนี้ ส่วนราคาจัดจำหน่ายนั้นอยู่ที่เรือนละ 3,990 บาท สามารถดาวน์โหลดได้ 2 ระบบ คือ iOS Version 7 ขึ้นไป และ Android 4.0 ice cream sandwich ขึ้นไป

“เรามองว่ากลุ่มเป้าหมายที่น่าสนใจคือ ร้านในโรงพยายาล ร้านจักรยาน และกลุ่มแม่บ้าน”

สำหรับรุ่นเดิม Pomo Kids Watch ยังคงทำตลาดอยู่ โดยมองว่าเป็นคนละกลุ่มเป้าหมาย โดย Pomo Kids Watch จะเหมาะต่อเด็กเล็ก 3-5 ขวบ ส่วน Pomo Moji จะใช้ได้ถึง 12 ขวบ เพราะมีขนาดใหญ่กว่ารุ่นเดิม เพื่อเป็นการโปรโมตสินค้าของทางบริษัท จะมีการนำ Pomo Kids Watch ไปโชว์ในงานโมบาย เวิลด์ องเกรส ที่บาร์เซโลนา โดย Bright star ดิสทริบิวเตอร์รายใหญ่ของโลกเป็นผู้ดำเนินการ

นอกจาก Pomo Kids Watch และ Pomo Moji แล้ว สินค้าที่อยู่ในระหว่างการพัฒนาคือ “โดนัท” ซึ่งจะเป็น Pomo Kids ที่มีพัฒนาการขึ้นไปอีก นอกจากนี้ โพโมะ เฮาส์ ยังจะมีโปรดักต์อื่นๆ ที่พัฒนาออกมาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง อย่างเครื่องวัดอุณหภูมิของเด็กแรกเกิด เพื่อจับตลาดแรกเกิด รวมทั้งอยู่ในระหว่างการพัฒนาความร่วมมือกับกูเกิล เพื่อนำบริการบางอย่างมาใส่ในนาฬิกาอัจฉริยะซึ่งจะเปิดตัวภายในปีนี้ โดยคาดว่าภายในปีนี้จะมีโปรดักต์ใหม่ลงตลาดอีกประมาณ 6 รุ่น โดยจะอิงกับทิศทางของ IOT(Internet of Things) และคาดว่าสินค้าทั้งหมดจะสามารถทำตลาดทั่วโลกได้ประมาณ 1.4 แสนเครื่องภายในสิ้นปีนี้

โดยในปี 2558 ที่ผ่านมา โพโมะ เฮาส์ มีรายได้ประมาณ 70 ล้านบาท จากการทำตลาดตั้งแต่เดือน พ.ค.-ธ.ค. ส่วนในปี 2559 คาดว่ามีรายได้ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท



Company Related Link :
POMO

Instagram


กำลังโหลดความคิดเห็น