xs
xsm
sm
md
lg

รักษาการซีอีโอกลุ่มอินทัชคนใหม่เสริมเขี้ยวธุรกิจการเงิน การธนาคาร สินเชื่อรายย่อย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

สมประสงค์ บุญยะชัย (ซ้าย) ฟิลิป แทน (ขวา)
อินทัช เปิดตัวรักษาการซีอีโอคนใหม่ “ฟิลิป เชียง ชอง แทน” ลั่นเดินหน้าต่อตาม 9 เป้าหมายหลักจาก 4 บริษัทในกลุ่ม ภายใต้ 4 อุตสาหกรรม พร้อมนำประสบการณ์ทางด้านการเงิน การธนาคาร และสินเชื่อบุคคลรายย่อยมาเชื่อมโยงเพื่อวางเป้าหมายการดำเนินงานในระยะยาวต่อไป

นายฟิลิป เชียง ชอง แทน รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือกลุ่มอินทัช กล่าวหลังจากขึ้นรับตำแหน่งว่า ในระยะเวลาที่ได้สัมผัสอินทัชถือเป็นองค์กรที่มีความเป็นมืออาชีพมากๆ มีขั้นตอนการทำงานที่ชัดเจน มีวิธีการตัดสินใจที่อยู่ในมาตรฐานสากล มีธรรมาภิบาลที่สูง มีการทำงานของบอร์ดที่โปร่งใส และมีมาตรฐาน

“ในระยะเวลา 33 ปีที่ผ่านมา อินทัช ถือเป็นองค์กรที่ประสบความสำเร็จ ได้การตอบรับที่ดีจากผู้ถือหุ้น นักลงทุน ที่สำคัญคือ มีศักยภาพในการเติบโตอย่างมหาศาล ภายใต้ 4 อุตสาหกรรมหลักที่วางไว้ คือ อุตสาหกรรมโทรคมนาคม มีเดีย ไอที และดิจิตอลคอนเทนต์ ที่ถือเป็นเสาเข็มหลักในการนำไปขยายต่อเติมขึ้นไปอีก”

นอกจากนี้ จากประสบการณ์ในการทำงานทางด้านธนาคาร การเงิน สินเชื่อ และฐานลูกค้ารายย่อยก็จะสามารถนำมาเชื่อมโยงกับ 4 อุตสาหกรรมดังกล่าว เพื่อสร้างโอกาสในการเติบโตต่อไป และส่งผลให้กลุ่มอินทัชสามารถเติบโตอย่างยั่งยืน ก่อนให้ผลประโยชน์ตอบแทนกลับไปสู่สังคม ผู้ถือหุ้น และนักลงทุน

ส่วนแผนงานในระยะกลาง และระยะยาว ทิศทางที่จะโฟกัสก็ยังอยู่ใน 4 กลุ่มธุรกิจเดิม ขณะที่ทิศทางของอินทัชในระยะสั้นคือ การเข้าไปสนับสนุนในธุรกิจที่ลงทุนโดยเฉพาะการลงทุนในเอไอเอส ที่กำลังเร่งขยายเครือข่ายให้ครอบคลุม พร้อมไปกับการรักษาฐานลูกค้าที่ถือเป็นเป้าหมายหลักของเอไอเอสอยู่แล้ว กลุ่มอินทัชก็จะเข้าไปสนับสนุน และช่วยเหลือในการรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดในธุรกิจนี้

ส่วนกรณีที่เอไอเอส พลาดการประมูลคลื่น 900 MHz ไม่ถือว่าเป็นวิกฤต แต่มองว่าเป็นโอกาส เพราะบริษัทจะมีความคล่องตัวในการใช้จ่าย ทำให้มีฐานการเงินที่แข็งแกร่ง ที่สำคัญคือ สามารถนำเงินส่วนที่ไม่ต้องจ่ายมาใช้ในการขยายเครือข่ายได้เหนือกว่าคู่แข่งที่อาจจะมีปัญหาสภาวะทางการเงินจากการประมูลใบอนุญาตในราคาที่สูง

พร้อมกับยืนยันถึงการดำเนินงานภายใต้ 9 เป้าหมายหลัก จาก 4 บริษัทย่อยในกลุ่มอินทัช โดยที่เอไอเอสจะรับหน้าที่ 4 ส่วน คือ 1.การขยายพื้นที่การให้บริการ 3G ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น 2.การเปิดให้บริการ 4G 3.การให้บริการฟิกซ์บรอดแบนด์ และ 4.การคอนเวอร์เจนซ์บริการเข้าหากัน ในส่วนของไทยคมรับหน้าที่ในการเพิ่มจำนวนดาวเทียมเพื่อนำมาให้บริการ ขณะที่ ซีเอส ล็อกซอินโฟ จะเน้นไปที่การให้บริการคลาวด์ที่จะครอบคลุมทั้งลูกค้าในฝั่งองค์กร และลูกค้าบุคคล

ส่วนทางกลุ่มอินทัช จะรับผิดชอบใน 3 ส่วน คือ 1.ธุรกิจร่วมลงทุน (Venture Capital) ที่จะเดินหน้าหาบริษัทร่วมลงทุน รวมถึงการตั้งบริษัทในกลุ่มธุรกิจที่มีโอกาสเจริญเติบโต 2.ธุรกิจดิจิตอลคอนเทต์ ที่ไม่ได้อยู่ในแง่การแพร่ภาพ แต่จะเกี่ยวเนื่องไปยังพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ต้องจับมาเชื่อมโยงกัน และสุดท้ายคือ ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และอีเปย์เมนต์ ที่ทางเอ็มเปย์ได้เริ่มดำเนินการแล้ว

ก่อนหน้านี้ นายฟิลิป ได้เข้ารับตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการ กลุ่มอินทัช เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2558 ที่ผ่านมา โดยมีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญทางด้านการเงินจากบริษัทข้ามชาติในไทย และสหรัฐอเมริกามากกว่า 27 ปี ทั้ง เอทีแอนด์ที (ประเทศไทย) เบลล์แล็ปส์ จีอี แคปปิตอล ก่อนเข้าสู่ธุรกิจไฟแนนเชียลในกลุ่มจีอี ด้วยตำแหน่งสุดท้ายคือ ซีอีโอ ของจีอี มันนี่ ก่อนธนาคารกรุงศรีเข้าซื้อกิจการจากจีอี เอไอจี และเอชเอสบีซี

ทั้งนี้ นายฟิลิป ดำรงตำแหน่งรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มอินทัช ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2559 แทน นายสมประสงค์ บุญยะชัย ที่เกษียณอายุเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.2558 โดยฟิลิป จะอยู่ในตำแหน่งรักษาการซีอีโอ ไปจนกว่าทางคณะกรรมการจะมีการประกาศแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ โดยจะอยู่ในช่วงที่ดูถึงผลงานในการบริหาร ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติขององค์กรขนาดใหญ่ที่จะมีช่วงรักษาการก่อนประกาศให้ขึ้นดำรงตำแหน่งอย่างเป็นทางการ

“ตอนที่สมัครเข้ามารับตำแหน่งตั้งใจไว้ว่าจะรับงานนี้เป็นงานสุดท้าย และถือเป็นเป็นโอกาสที่จะอยู่ในองค์กรที่จะช่วยปรับปรุงศักยภาพชีวิตของคนไทยให้ดีขึ้น ทำให้ย้ายจากกลุ่มธุรกิจธนาคาร มาทางกลุ่มอินทัช และด้วยอายุปัจจุบันที่ 50 ปี จึงหวังว่าจะสามารถบริหารไปจนถึงช่วงเวลาเกษียณอายุ”

ขณะที่ นายสมประสงค์ บุญยะชัย จะดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-31 ธันวาคม 2559 และยังดำรงตำแหน่งกรรมการ และประธานคณะกรรมการบริหารกลุ่มอินทัชต่อไป รวมทั้งตำแหน่งกรรมการในบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) และบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด

โดยที่ผ่านมา นายสมประสงค์ ได้รับรางวัลยกย่องรางวัลผู้บริหารสูงสุดยอดเยี่ยม (Best CEO Awards) จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในปี 2555 และ 2558 รวมถึงรางวัลความสำเร็จจากการบริหาร ทั้งคณะกรรมการแห่งปีดีเด่น รางวัลบริษัทจดทะเบียนด้านผลการดำเนินงานยอดเยี่ยมจาก ตลท. รางวัลยอดหุ้นขวัญใจมหาชน และรางวัลหุ้นขวัญใจมหาชนกลุ่มเทคโนโลยี

นายสมประสงค์ กล่าวถึงนายฟิลิป ว่า เป็นผู้นำที่มีลักษณะเปิด ทำให้คนรอบข้างกล้าที่จะแสดงความคิดเห็น ทำให้ได้รับข้อมูลที่สมบูรณ์มาในการพิจารณาบริหารธุรกิจ รวมถึงมีทัศนคติในระยะยาว คิดถึงความสำเร็จในระยะยาว ถือเป็นสิ่งที่ถูกใจ และจะทำให้บริษัทอยู่ต่อไปอย่างยั่งยืน และยาวนาน

นอกจากนี้ ยังมองถึงสภาพเศรษฐกิจที่เห็นจากสภาวะเศรษฐกิจทั้งภายนอก และภายในไม่ค่อยดี แต่ทุกบริษัทที่ต้องหาทางรอดด้วยการวางบริษัทให้เป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้บริษัทอื่นๆ อยู่รอดได้ ดังนั้น บริการต่างๆ ภายใต้กลุ่มอินทัชก็จะเข้าไปช่วยในการลดค่าใช้จ่ายการดำเนินงานให้แก่บริษัทที่นำไปใช้งาน แม้ว่าในบางกลุ่มอย่างอุตสาหกรรมบันเทิง และทีวีอาจจะมีการเติบโตลดลง แต่ก็จะมีธุรกิจอื่นๆ เข้ามาช่วยเสริมแทน ทำให้เชื่อว่าสุดท้ายแล้วกลุ่มอินทัชจะกลายเป็นบริษัทท้ายๆ ที่ได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจ และเชื่อว่าจากการเข้ามาของซีอีโอใหม่จะช่วยให้บริษัทเจริญเติบโตต่อไปจากการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการให้บริการ

Company Relate Link :
Intouch
กำลังโหลดความคิดเห็น