ความภักดีต่อตราสินค้าเป็นหัวใจของการเติบโตธุรกิจ นับแต่อดีตที่ผ่านมามีศาสตร์ของการสร้างแบรนด์เกิดขึ้นมากมาย แต่ทุกศาสตร์ก็ต้องยอมแพ้กับการตลาดขายตรงที่ผู้ใช้มีความจงรักษ์ภักดีต่อแบรนด์มากกว่า 100% และเมื่อถึงยุคอีคอมเมิร์ช ความท้าทายใหม่ของการผนวกรวมอีเมิร์ชกับความจงรักษ์ภักดีในรูปแบบการตลาดขายตรงจึงเป็นที่สุดของความต้องการของสินค้าทุกแบรนด์ในตลาดปัจจุบัน
แอปพลิเคชันเพย์ออล นับเป็นอีกหนึ่งความพยายามที่จะสร้างปรากฏการณ์ใหม่ของการจ่ายเงินเกิดขึ้น แนวคิดของการรวบรวมรายจ่ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน โดยที่ไม่ขัดต่อธรรมชาติของการดำเนินชีวิต ให้เปลี่ยนเป็นคะแนนเพื่อแลกเป็นส่วนลดสำหรับสมาชิกทั่วไปและเปลี่ยนเป็นรายได้สำหรับหุ้นส่วนธุรกิจที่ต้องการเริ่มต้นด้วยเงินลงทุน 3,200 บาทต่อปี
รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ ประธานบริหาร บริษัท เพย์ออล กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่าจุดเด่นของแอปเพย์ออล คือเป็นตัวกลางในการเจรากับผู้ประกอบการให้ได้ราคาพิเศษ เมื่อใช้จ่ายผ่านระบบเพย์ออล โดยส่วนลดที่ได้จะนำมาจ่ายคืนให้กับสมาชิกทั้งรูปแบบของเงินและคะแนนสะสม ซึ่งทุกการใช้จ่ายจะเปลี่ยนเป็นรายได้กลับคืนมา เฉกเช่นเดียวกับระบบขายตรงที่มีอยู่ในตลาดทั่วไป
*** เชื่อได้อย่างไรว่าจะไม่ปิดหนี
“เราพยายามทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามกฏหมาย และทำทุกอย่างด้วยความยุติธรรมกับสมาชิก และชื่อเสียงของผมเองก็เป็นสิ่งยืนยันว่าจะไม่ทำให้ตัวเองเสียชื่อเสียงแน่นอน” ฟิล์ม รัฐภูมิ กล่าวด้วยน้ำเสียงมั่นใจ
แน่นอนว่าระบบขายตรงที่ถูกฏหมายจะต้องได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ซึ่งแอปเพย์ออลก็ได้รับรองเช่นกัน โดยแผนการตลาดที่ได้รับรองคือการตลาดขายตรงหลายชั้นแบบไบนารี่ หรือการตลาดแบบ 2 ขา โดยผู้ที่เข้าระบบก่อนจะถูกบังคับให้ช่วยเหลือผู้เข้ามาทีหลัง
ขณะที่ตัวของฟิล์ม รัฐภูมิเอง ซึ่งเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงทั่วเอเชีย แม้ว่าในทางของธุรกิจแล้วจะเป็นมือใหม่ แต่เมื่อรวมกับระบบของการตลาดขายตรงที่รวบรวมนักธุรกิจเข้ามาสร้างเครือข่ายอย่างเป็นระบบ เท่ากับว่าผู้บริหารมือใหม่ย่อมไม่ต้องเหนื่อยกับการบริหารบุคคลเหมือนเช่นบริษัททั่วไป และที่สำคัญความสามารถของการเข้าถึงสินค้าและบริการ เพื่อเจรจาส่วนลดหรือราคาพิเศษของซุปเปอร์สตาร์ที่ชื่อว่า ฟิล์ม รัฐภูมิ ย่อมเป็นเรื่องง่ายที่ใครก็ไม่สามารถลอกเลียนแบบได้เช่นกัน
ย้อนกลับมาที่รายได้ พบว่าการใช้จ่ายผ่านระบบของเพย์ออลมีการให้คะแนนในระดับที่แตกต่างกันของแต่ละสินค้าและบริการ เช่นการซื้อบัตรน้ำมันมูลค่า 3,000 บาท จะได้ส่วนลดราว 150 บาท และได้คะแนนสำหรับผู้ร่วมทำธุรกิจประมาณ 1.8 คะแนนเท่านั้น และนั่นก็คือคำตอบว่า เงินที่จะนำมาจ่ายให้สมาชิกนั้นมาจากไหน เพราะส่วนต่างของรายได้ที่ไม่โอเว่อร์จนเกินไป ตลอดจนการจ่ายคะแนนกลับเมื่อเกิดการใช้จ่ายผ่านแอปก็ไม่ได้มากจนน่าตกใจ
*** ขายตรงคนไทยร้องยี้
เพย์ออลจะได้รับความนิยมถ้าลบล้างความเข้าใจด้านลบของคำว่า “ขายตรง” ให้ได้ แม้ว่าเพย์ออลจะเป็นแอปดีลสินค้าและบริการราคาถูกก็ตาม แต่กลิ่นไอของการจ่ายผลตอบแทนที่ใช้รูปแบบของระบบการตลาดขายตรงเข้ามาสร้างความจงรักษ์ภักดีก็เป็นหนามยอกอกขนาดใหญ่ตามสไตล์ขายตรง เพราะเมื่อทีมงานที่ไม่มีประสิทธิภาพเริ่มส่งต่อแนวคิดที่ตนเองเข้าใจ ความเข้าใจคลาดเคลื่อนที่ส่งต่อเนื่องกันไป เช่นเดียวกับการยืนต่อแถวเพื่อบอกสารต่อๆกันไปเรื่อยๆท้ายที่สุด ข้อความของสารที่ได้รับก็แปรเปลี่ยนตามพื้นฐานและความเข้าใจของคนบอกล่าสุดนั่นเอง
สิ่งที่สังเกตได้จากเพย์ออล คือการตัดตอนการส่งสารแบบผิดๆนั้นด้วยการใช้แอปและข้อความจากโลกออนไลน์ แทนการส่งต่อด้วยตัวทีมงานที่ยังไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ โดยสามารถเรียนรู้แผนการตลาดและระบบด้วยตนเองภายในแอปได้เลย นอกจากนั้นยังสังเกตได้จากการเข้าร่วมฟังการบรรยายแผนการตลาดซึ่งมีจัดขึ้นทุกสัปดาห์ เพื่อสร้างความเข้าใจและโน้มน้าวให้ผู้สมัครสนใจที่จะทำธุรกิจร่วมกับเพย์ออล โดยวิทยากรที่เข้ามาบรรยายเป็นผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดเอง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความพยายามสร้างสารที่ถูกต้องเพื่อลดความผิดพลาดที่อาจจะถูกส่งต่อไปจนสร้างความเสียหายในอนาคต
ขณะที่รูปแบบของการเรียนรู้ผ่านแอปเพย์ออลในรูปแบบข่าวสาร ก็เป็นอีกหนึ่งตัวแปรที่สำคัญเพื่อสร้างความเข้าใจและเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ และที่สำคัญภายในแอปมีการแจ้งความเคลื่อนไหว ตลอดจนข่าวสารของระบบเมื่อเกิดความผิดพลาดขึ้น เช่นครั้งหนึ่งมีการแจ้งข้อความว่า ระบบการเติมเงินของผู้ให้บริการมือถือรายหนึ่งขัดข้อง ทีมงานกำลังแก้ไข นับเป็นจุดเด่นที่นำมาใช้ได้อย่างลงตัว แม้ว่าการใช้งานแอปอาจจะต้องใช้เวลาในการเรียนรู้สำหรับผู้เริ่มต้น
นอกจากนี้แอปเพย์ออลยังเหมาะสำหรับการจ่ายค่าใช้จ่ายต่างๆผ่านระบบมือถือในพื้นที่ห่างไกลชุมชน แต่ไม่ห่างไกลสัญญาณอินเทอร์เน็ต ซึ่งบางพื้นที่การเดินทางมาเพื่อจ่ายค่าบริการที่ร้านสะดวกซื้อก็เป็นสิ่งที่ต้องเสียทั้งเวลาและค่าเดินทางเพิ่มขึ้น และเมื่อแอปนี้สามารถจ่ายค่าบริการต่างๆได้ไม่ต่างกัน ย่อมหมายถึงความสะดวกที่แม้ว่าผู้ที่ไม่ได้ทำเป็นธุรกิจก็สามารถใช้บริการได้นั่นเอง
*** ทิศทางเพย์ออลในอนาคตจะเป็นอย่างไร
เพย์ออลวางแผนการพัฒนาแอปในอนาคตออกเป็น 4 เฟส โดยเฟสแรกจะเป็นการเปิดให้สมาชิกทดลองใช้บริการจริง แบ่งเป็น 4 โหมดบริการได้แก่ 1. เพย์ดีล (Pay Deal) ที่รวบรวมดีลส่วนลดพิเศษจากร้านค้าชั้นนำ 2. เพย์ชอป (Pay Shop) รวมสินค้าของแท้ แบรนด์เนมชั้นนำกว่า 1,500 รายการพร้อมจัดส่งถึงบ้าน 3. เพย์แคช (Pay Cash) ที่สามารถจ่ายค่าสินค้าหรือบริการ ตามร้านอาหารและร้านค้าชั้นนำที่รวมรายการ 4. เพย์บิล (Pay Bill) ชำระค่าสาธารณูปโภคและบริการต่างๆ ผ่านสมาร์ทโฟน มากกว่า 300 รายการ
ขณะที่เฟส 2 เป็นการพัฒนาแอปให้มีพาร์ทเนอร์มากยิ่งขึ้น โดยแบ่งเป็น 1. เพย์ทริป (Pay Trip) รวบรวมทริปท่องเที่ยว และการจองตั๋วเครื่องบินจากทั่วโลกในแอปเดียว 2. เพย์ดรีม (Pay Dream) บริการดูดวงทางโทรศัพท์แบบส่วนตัวกับหมอดูชื่อดังระดับประเทศ 3. เพย์สตาร์ (Pay Star) รวบรวมสินค้าสุดพิเศษจากศิลปินดารา
โดยเฟสที่ 3 เป็นการพัฒนาสินค้าดิจิตอลเช่นเพลงจากศิลปิน ให้สามารถดาวน์โหลดและชำระค่าบริการได้ภายในแอปเดียว อีกทั้งยังพัฒนาการสั่งอาหารผ่านระบบเดลิเวอรี่เพื่อความสะดวกในการเข้าถึงร้านอาหารชื่อดังทั่วประเทศ ภายใต้โหมด เพย์ฟู้ด (Pay Food) เมนูอาหารอร่อยจากร้านดังทั่วประเทศส่งถึงบ้าน และสุดท้ายเป็นการต่อยอดให้สามารถใช้งานแอปเพย์ออลในต่างประเทศได้เช่นเดียวกับใช้งานภายในประเทศ
เพย์ออลนับได้ว่าเป็นแอปที่เปิดโอกาสให้ผู้ที่มีรายจ่ายในยุคปัจจุบันเปลี่ยนเป็นรายได้ โดยที่มีต้นทุนน้อยกว่าการลงทุนเปิดร้านหรือธุรกิจหลายเท่าตัว เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังดิ้นรนเพื่อสร้างฐานะ การหยิบจับทุกอย่างเพื่อสร้างรายได้โดยแลกกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างเพื่อให้ได้รายได้ที่มากขึ้น ย่อมหมายถึงช่องทางอีกหนึ่งช่องทางที่น่าสนใจ ซึ่งมีคำพูดหนึ่งของฟิล์มที่น่าสนใจไม่น้อย สำหรับซุปเปอร์สตาร์ซึ่งหารายได้เข้ากระเป๋าได้เพียงแค่โชว์ตัว
“ผมอาจจะเป็นดาราที่มีค่าตัวและเคยลงทุนทำธุรกิจมาแล้วหลายอย่าง แต่เมื่อใดก็ตามที่ไม่สามารถไปโชว์ตัวได้ วันนั้นเราก็จะไม่มีรายได้เกิดขึ้น หรือเมื่อใดก็ตามที่เราให้ความสนใจกับธุรกิจใดมากไป อีกธุรกิจหนึ่งที่ลงทุนไว้ก็จะถดถอยลง วันนี้ผมเริ่มเหนื่อยกับการที่ต้องใช้แรงและตัวเองเข้าแลกรายได้ และธุรกิจเครือข่ายที่ทุกคนเข้ามาช่วยสร้างเครือข่ายผู้บริโภคร่วมกันก็เป็นทางออกที่ผมเห็น” ฟิล์ม รัฐภูมิ กล่าวทิ้งท้าย
สุดท้ายแอปเพย์ออลจะยืนหยัดในตลาดได้อย่างถาวรหรือจะล้มหายกลางทาง ก็อยู่ที่ความสมบูรณ์ของแอปเองที่จะมีความเสถียรในการใช้งานมากน้อยเพียงใด อีกทั้งการจ่ายบิลและดีลส่วนลดของการซื้อสินค้าจะมีอย่างต่อเนื่องหรือโดนใจผู้บริโภคอย่างแท้จริงหรือไม่ ท้ายที่สุดบริบทของการจ่ายผลตอบแทนในความหมายของการตลาดขายตรงที่จะเกิดขึ้นจริงและลดความเข้าใจแง่ลบของผู้คนได้มากน้อยเพียงใด คงต้องติดตามดูต่อไปในอนาคต