แซนดิสก์ส่งเอสเอสดีแบบพกพา 2 รุ่นจับกลุ่มตลาดอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบพกพา ชี้ปัจจุบันลูกค้ามีความต้องการอุปกรณ์จัดเก็บที่มีความเร็ว และมีความจุที่เพิ่มมากขึ้น จึงพร้อมนำเสนอจุดขายที่ความเร็ว และความทนทานมากกว่าการเก็บข้อมูลในฮาร์ดดิสก์แบบเดิม มุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าช่างภาพมืออาชีพ และนักกีฬาเอ็กซ์ตรีม เผยตลาดเอสเอสดีแบบติดตั้งภายในก็เริ่มเติบโตเพิ่มขึ้นเช่นกัน เนื่องจากมีความเร็วมากกว่าแต่กินพลังงานน้อยกว่า
นายเจษฏา ภวภูตานนท์ ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทย แซนดิสก์ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ปัจจุบัน ลูกค้าต้องการอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่มีความรวดเร็ว และความจุที่เพิ่มขึ้น เพื่อใช้งานกับข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ขึ้น แซนดิสก์มองเห็นความต้องการดังกล่าวจึงได้ทำการเปิดตัวเอสเอสดีแบบพกพา รุ่น Sandisk Extreme 900 ในรูปแบบของ Type C ที่ให้ความเร็วสูงกว่าฮาร์ดดิกส์แบบพกพาโดยทั่วไปถึง 9 เท่า และ Sandisk Extreme 500 ที่มีขนาดกะทัดรัด โดยทั้ง 2 รุ่นจะเน้นเจาะตลาดลูกค้ากลุ่มไฮเอนด์
“แซนดิสก์ต้องการขยายไลน์ผลิตภัณฑ์เอสเอสดีให้มากขึ้น โดยจะก้าวไปสู่ตลาดพอร์ตเทเบิล หรือเอสเอสดีแบบพกพา ซึ่งเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ และเริ่มมีการเติบโตมากขึ้น ประกอบกับปัจจุบันตลาด External Hard Disk มีขนาดใหญ่กว่า Internal Hard Disk เนื่องจากการเติบโตของเครื่องพีซีลดลง ในขณะที่โน้ตบุ๊กขายดีขึ้น จึงมีแนวโน้มที่ความต้องการอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบพกพาจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย”
แซนดิสก์ มองว่า มีโอกาสแฝงอยู่ จึงพร้อมจะนำเสนอเอสเอสดีแบบพกพาเข้ามาทดแทนตลาด External Hard Disk ด้วยจุดเด่น คือ ความรวดเร็ว ความทนทาน และพกพาสะดวก โดยกลุ่มเป้าหมายของแซนดิกส์ คือ กลุ่มลูกค้ากล้องถ่ายภาพระดับมืออาชีพ ที่เริ่มมีความต้องการอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่เร็วขึ้น และมีความจุที่เพิ่มขึ้น รวมไปถึงกลุ่มกีฬาเอ็กซ์ตรีมที่เคยใช้ External Hard Disk ให้เปลี่ยนมาใช้เอสเอสดีแบบพกพาที่มีความคงทนมากกว่า
นายเจษฏา กล่าวว่า สำหรับการทำตลาดนั้นจะเน้นการขายผ่านพาร์ตเนอร์ในการช่วยกระจายสินค้า โดยจะโปรโมตผ่านร้านจำหน่ายกล้องถ่ายภาพ มุ่งการส่งเสริมการขายผ่านหน้าร้านเนื่องจากเป็นสินค้าใหม่ที่ต้องสร้างการรับรู้ รวมไปถึงจะเน้นการรีวิวผลิตภัณฑ์ผ่านทางช่องทางออนไลน์
ทั้งนี้ นอกจากผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเอสเอสดีแบบพกพาที่มีแนวโน้นเติบโตขึ้นแล้ว เอสเอสดีแบบติดตั้งภายในตัวเครื่องก็เริ่มได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกัน เนื่องจากมีจุดเด่นในการเข้าถึงข้อมูล และบูทเครื่องที่เร็วกว่า ในขณะที่มีการใช้พลังงานน้อยกว่า ซึ่งเอสเอสดีจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์ให้สูงขึ้น ช่วยให้การเล่นเกมส์ และผู้ที่ทำงานด้านกราฟิกต่างๆ ที่ต้องการความรวดเร็วในการถ่ายโอนไฟล์ขนาดใหญ่ สามารถเลือกไปใช้งานได้เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงกลุ่มตลาดที่ต้องการเปลี่ยนจากฮาร์ดดิสก์เป็นเอสเอสดี เพื่ออัปเกรดเครื่องอีกด้วย
“ในปีนี้ ตลาดพีซีจะมีมาตรฐานใหม่ใช้ยูเอสบี 3.1 ซึ่งทำความเร็วได้มากกว่า 3 เท่าของยูเอสบี 3.0 ทำให้ผลิตภัณฑ์ของแซนดิสก์ที่ออกมาสามารถตอบสนองการใช้งานร่วมกับมาตรฐานใหม่นี้ได้เป็นอย่างดี”