xs
xsm
sm
md
lg

ดีแทคดึงนักลงทุนเสริมทัพ dtac Accelerate Batch 3

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายลาร์ส โอเคะ นอร์ลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค
ดีแทค ดึงนักลงทุนในกลุ่มสตาร์ทอัปเข้ามาให้คำปรึกษาวิธีสร้างธุรกิจ dtac Accelerate Batch 3 ชี้เป็น mentor ที่เป็นนักลงทุนด้วยจึงน่าจะเกิดประโยชน์ได้หลายทาง ด้านที่ปรึกษาเผยความร่วมมือกับดีแทคถือเป็นการคัดเลือกสตาร์ทอัปหน้าใหม่ที่จะร่วมลงทุนไปในตัว พร้อมเตรียมเงิน 40 ล้านเหรียญสหรัฐสำหรับการเข้าลงทุนในรายใหม่ๆ แนะผู้ประกอบการที่จะเข้าตาต้องสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ขายในตลาดโลกได้ด้วย

นายลาร์ส โอเคะ นอร์ลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า หลังจากประกาศผล 6 ทีมที่เข้ารอบสุดท้ายในโครงการ dtac Accelerate Batch 3 ดีแทคได้ ดึงตัว “บิล ไรชาร์ด” หุ้นส่วนบริษัท Garage Technology Venture เข้ามาเป็น mentor หรือที่ปรึกษาในโครงการนี้เพิ่มเติม ซึ่งนอกจาก บิล ไรชาร์ด จะเป็นที่ปรึกษาแล้ว ยังเป็นนักลงทุน โดยที่ผ่านมา ได้ทำการลงทุนไปแล้วประมาณ 160 บริษัท หรือคิดเป็นเงิน 60 ล้านเหรียญสหรัฐ จึงน่าจะเกิดประโยชน์ต่อสตาร์ทอัปได้หลายทาง

นายบิล ไรชาร์ด หุ้นส่วนบริษัท Garage Technology Venture และ mentor ในโครงการ dtac Accelerate Batch 3 กล่าวว่า การเข้ามาร่วมมือกับดีแทคในโครงการ dtac Accelerate Batch 3 เนื่องจากมองว่า ปัจจุบันสตาร์ทอัปในภูมิภาคเอเชียมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี โดยเฉพาะในเมืองไทย ที่ตลอด 3 ปี ที่ผ่านมา สตาร์ทอัปในเมืองไทยเริ่มมีการเติบโตมากขึ้น เนื่องจากมีผู้ให้ความสนใจเป็นผู้ประกอบการหน้าใหม่มากขึ้น ประกอบกับมีการสนับสนุนในกลุ่มธุรกิจนี้ และเริ่มมีเงินทุนไหลเข้ามาเพิ่มมากขึ้น โดยการเข้าร่วมมือกับดีแทคครั้งนี้ นอกจากจะเข้ามาให้คำปรึกษาแนะนำแล้ว ยังถือเป็นการร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ในการช่วยคัดเลือกสตาร์ทอัปหน้าใหม่ เพื่อให้สามารถเข้าไปลงทุนในบริษัทเกิดใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมเงินไว้ประมาณ 40 ล้านเหรียญสหรัฐในการเข้าไปลงทุน ซึ่งการจะเลือกลงทุนนั้นต้องการบริษัทสตาร์ทอัปที่มีความพร้อมที่จะทำธุรกิจในระดับหนึ่ง

“สำหรับผู้ประกอบการในปัจจุบันนั้นจะมี 2 แบบ คือ แบบแรกเป็นกลุ่มมองปัญหาแล้วสร้างโซลูชันเพื่อแก้ปัญหาในท้องถิ่น และอีกแบบหนึ่งเห็นปัญหา แล้วคิดว่าน่าจะแก้ได้ในหลายๆ ประเทศ แล้วทำผลิตภัณฑ์ขึ้นมาเพื่อตอบสนองในประเทศตัวเองก่อน แล้วจึงขยายออกไปต่างประเทศ ซึ่งผู้ประกอบการอย่างหลังนี้มีโอกาสในการเติบโตมากกว่า”

นายบิล กล่าวว่า นอกจากนี้สำหรับสตาร์ทอัปที่มีความน่าสนใจนั้นควรจะเป็นโซลูชันที่ใช้งานได้ทันที ซึ่งจากการมองกลุ่มสตาร์ทอัปในเมืองไทยนั้นค่อนข้างจะได้เปรียบประเทศ อื่นๆ เพราะมีแนวคิดที่เทียบได้กับสตาร์ทอัปชั้นนำในต่างประเทศ และมีทีมใหม่ๆ ที่มีความสามารถเกิดขึ้นใหม่ตลอดเวลา

Company Related Link :
ดีแทค

Instagram


กำลังโหลดความคิดเห็น