แอลจี เตรียมเผยโฉม LG G4 แฟลกชิปสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดของค่ายที่เพิ่งมีการเปิดตัวไปเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ภายในงาน Thailand Mobile Expo 2015 ที่จะจัดขึ้นในช่วง 7-10 พ.ค. โดยมีการปรับเปลี่ยนในแง่ของดีไซน์ให้ทันสมัย พร้อมเพิ่มความสามารถของกล้องหลัง และเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมของตัวเครื่อง
นายจูโน โช ประธาน และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแอลจี อีเลคทรอนิคส์ กลุ่มผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือ กล่าวว่า แอลจี มุ่งมั่นเดินตามเป้าหมายในการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อชีวิตที่ดีกว่า ด้วยการพัฒนาสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมที่มาพร้อมดีไซน์ที่ทันสมัย และเน้นการสร้างสรรค์ประสบการณ์การใช้งานที่มีความสมดุลในทุกด้าน จนถือเป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนที่ยอดเยี่ยมที่สุดในตลาด
“เราต้องการให้ผู้บริโภคได้สัมผัสกับดีไวซ์ที่ตรงต่อความต้องการของพวกเขาอย่างแท้จริง โดยสามารถสร้างความประทับใจได้ทั้งในแง่ความรู้สึกขณะใช้งาน และเทคโนโลยีที่เปี่ยมประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะดูที่ดีไซน์ กล้องถ่ายรูป จอแสดงผล หรือซอฟต์แวร์ LG G4 ถือเป็นสมาร์ทโฟนที่เหนือชั้นที่สุดของแอลจี”
ทั้งนี้ แอลจีให้ความสำคัญเป็นพิเศษต่อการเลือกใช้วัสดุชั้นยอด โดยฝาหลังของ LG G4 เป็นงานหนังแท้ทำมือแบบ full grain มีให้เลือกใน 6 โทนสี กระบวนการฟอกฝาด (vegetable tanning) ที่นำมาใช้ในการเตรียมวัสดุหนังแท้นี้เป็นเทคนิคเก่าแก่ที่ต้องอาศัยฝีมือของช่างผู้เชี่ยวชาญในการผลิต และย้อม
ฝาหลังของ LG G4 มีโทนสีอบอุ่น และสามารถเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาได้ตามแบบของหนังแท้ ทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสามารถนำไปรีไซเคิลได้อย่างง่ายดาย เนื่องจากไม่มีการใช้สารเคมีที่อาจก่อให้เกิดอันตราย นอกจากนี้ LG G4 ยังมีฝาหลังสีขาว Ceramic White ที่โดดเด่นด้วยลวดลายแบบสามมิติ ฝาหลังสีเทา Metallic Gray หล่อหลอมจากฝีมือช่างศิลป์ผู้เชี่ยวชาญ และฝาหลังสีทอง Shiny Gold
ขณะเดียวกัน ด้วยดีไซน์ที่สวยสง่า นำเทรนด์ ขนาดเหมาะมือ ทำให้ LG G4 มีรูปลักษณ์แตกต่างจากสมาร์ทโฟนทรงแบนราบในบอดี้โลหะที่พบได้ทั่วไป โดย LG G4 มีตัวเครื่องแบบ Slim Arc เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดดเด่นด้วยหน้าจอที่มีทรงโค้งเล็กน้อย ซึ่งนอกจากจะทำให้ตัวเครื่องดูสวยไม่ซ้ำใครแล้ว ยังทำให้ LG G4 ทนทานกว่าสมาร์ทโฟน ทรงราบทั่วไปถึง 20% ในกรณีการตกกระแทกแบบคว่ำหน้าจอลง และยังถือเครื่องได้ถนัดมือกว่าอีกด้วย
นอกจากนี้ ซอฟต์แวร์ดีไซน์ของ LG G4 ยังสะท้อนถึงแนวคิดเบื้องหลังรูปลักษณ์ภายนอกที่กล่าวมานี้ ด้วยสไตล์กราฟิกที่เรียบง่าย ใช้งานสะดวก โดยไอคอนต่างๆ จะมีสีสันสดใสกว่าในรุ่นก่อนและมีมุมกลมมน เข้ากันกับดีไซน์เครื่องแบบ Slim Arcได้เป็นอย่างดี ในขณะที่วิดเจ็ต Smart Notice นั้น สามารถเปลี่ยนสีพื้นหลังและตัวอักษรให้เข้ากับภาพพื้นหลังหน้าจอได้อีกด้วย
ในส่วนของกล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซลของ LG G4 สามารถถ่ายภาพได้สวยแม้ในสภาพแสงที่ไม่อำนวย โดยเลนส์ที่มีรูรับแสงขนาด F1.8 ช่วยให้เซ็นเซอร์กล้องสามารถจับแสงได้มากขึ้นถึง 80% ในขณะที่ฟังก์ชัน OIS 2.0 ยังช่วยให้ถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยได้ง่ายดายยิ่งขึ้น ด้วยประสิทธิภาพที่เหนือกว่าระบบ OIS+ หนึ่งเท่าตัว จึงสามารถชดเชยการสั่นไหวของกล้องในแนวตั้ง และแนวนอนได้มากขึ้นจาก 1 องศาเป็น 2 องศา และยังชดเชยการสั่นไหวในแนวลึก เพื่อให้ภาพถ่ายคมชัดสูงสุด
คุณสมบัติ Manual Mode ของ LG G4 ช่วยให้ช่างภาพมืออาชีพสามารถถ่ายภาพได้อย่างใจนึกด้วยการตั้งค่าโฟกัส ความเร็วชัตเตอร์ ISO การชดเชยปริมาณแสง และการปรับอุณหภูมิแสงสีขาวในทุกๆ ช็อต โดยภาพถ่ายทุกภาพสามารถจัดเก็บได้ทั้งในรูปแบบ RAW และ JPEG เพื่อให้นำไปปรับแต่งได้โดยไม่สูญเสียรายละเอียด หรือความคมชัด
นอกจากนี้ กล้องหลังของ LG G4 ยังมีระบบ Color Spectrum Sensor (CSS) ซึ่งมีให้ใช้งานในสมาร์ทโฟนเป็นครั้งแรก โดยฟังก์ชันนี้ทำให้ภาพถ่ายมีโทนสีที่แม่นยำยิ่งขึ้น ด้วยเซ็นเซอร์ที่สามารถอ่านค่าสีในระบบ RGB ได้จากแสงในสถานที่นั้นๆ และยังตรวจจับแสงอินฟราเรดที่สะท้อนออกมาจากวัตถุต่างๆ ได้อีกด้วย ระบบ CSS จะนำข้อมูลที่อ่านได้ทั้งหมดนี้มาปรับโทนแสงสีขาว และสีแฟลช เพื่อให้ภาพที่ถ่ายออกมาใกล้เคียงกับโทนสีจริงมากที่สุด จึงกำจัดปัญหาสีแดงเพี้ยนเป็นสีส้มสด หรือสีขาวกลายเป็นสีเหลืองหม่นไปได้อย่างสิ้นเชิง
เพื่อภาพถ่ายเซลฟี่ที่คุณภาพดีเหมือนภาพจากกล้องมืออาชีพ LG G4 มาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่จับภาพได้ดีทั้งภาพเดี่ยว และภาพกลุ่ม พร้อมฟังก์ชัน Gesture Interval Shot ที่เหนือชั้นกว่าระบบ Gesture Shot ในรุ่นเดิม ด้วยการกำมือสองครั้งหน้ากล้องเป็นสัญญาณให้ถ่ายภาพเซลฟี่ 4 ภาพในเวลา 2 วินาที ให้คุณไม่พลาดทุกช็อตสวยแม้ในสภาพที่ถ่ายรูปได้ไม่สะดวก
LG G4 เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ใช้หน้าจอ IPS Quantum Display ใหม่ ขนาด 5.5 นิ้ว ที่แอลจี ดิสเพลย์ พัฒนาให้แสดงสีได้แม่นยำกว่าเดิมถึงร้อยละ 20 สว่างขึ้นถึงร้อยละ 25 และมีระดับคอนทราสต์มากขึ้นร้อยละ 50 จอภาพใหม่นี้ยังเป็นจอความละเอียดระดับ Quad HD รุ่นแรกที่ใช้ ทคโนโลยี Advanced In-Cell Touch (AIT) ซึ่งผนึกรวมส่วนจอแสดงผล LCD และเซ็นเซอร์ของทัชสกรีนให้รวมกันเป็นชิ้นเดียว ช่วยให้จอสามารถแสดงสีสันได้แม่นยำ และไวต่อการสัมผัสมากยิ่งขึ้น จอภาพของ LG G4 ผ่านการตั้งค่าสีตามมาตรฐาน DCI (Digital Cinema Initiatives) ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางในกลุ่มสตูดิโอภาพยนตร์จากฮอลลีวูด
โดยสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นนี้มาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 3,000 mAh แบบถอดเปลี่ยนได้ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่หาได้ไม่ง่ายนักในสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์รุ่นใหม่ๆ ในขณะที่ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 808 พร้อม X10 LTE มอบทั้งประสิทธิภาพ และการประหยัดพลังงานที่โดดเด่น จึงทำให้ LG G4 สามารถใช้งานได้เต็มวันอย่างไร้กังวล ถึงแม้ว่าจะมีความจุแบตเตอรี่เท่ากับรุ่น G3 แต่ LG G4 จะสามารถรับมือต่อการใช้งานได้นานกว่าถึง 20%
อย่างไรก็ตาม LG G4 เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ใช้ UX 4.0 ซึ่งมุ่งเน้นตอบโจทย์การใช้งานจริง มอบความสะดวกสบายใช้งานง่าย จึงรองรับความต้องการของผู้ใช้แต่ละคนได้ดียิ่งขึ้น ด้วยเมนูรูปแบบใหม่ที่ลดขั้นตอนในการทำงานต่างๆ ลง แต่ขณะเดียวกัน ได้เพิ่มตัวเลือกในการตั้งค่ามากขึ้นสำหรับการใช้งานในขั้นสูง
ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายรูปได้รวดเร็วโดยไม่ต้องเปิดแอปกล้อง ด้วย Quick Shot เพียงกดปุ่ม Rear Key ด้านหลังเครื่อง 2 ครั้งโดยไม่ต้องเปิดหน้าจอ นอกจากนี้ กล้องของ LG G4 ยังรวดเร็วอย่างน่าทึ่ง พร้อมใช้งานในเวลาเพียง 6/10 ของวินาที
แอป Gallery ใหม่ เปิดดูภาพถ่ายจำนวนมหาศาลได้อย่างรวดเร็ว พร้อมรองรับการเปิดดูรูปในไทม์ไลน์ ฟังก์ชัน Memories จะจัดภาพถ่าย และวิดีโอเป็นกลุ่มตามสถานที่ และวัน-เวลาที่ถ่าย โดยไม่ต้องพึ่งพาการอัปโหลดขึ้นคลาวด์
Event Pocket ช่วยให้ผู้ใช้สามารถรวบรวมทุกกิจกรรม และการนัดหมายไว้ในปฏิทินเดียว เพียงลากตารางนัดหมายจากปฏิทิน และเว็บไซต์โซเชียลมีเดียต่างๆ มาวางรวมกันหลังจากการตั้งค่าการใช้งานครั้งแรก โดยไม่ต้องวุ่นวายต่อการใช้ปฏิทินหลายอันอีกต่อไป
Smart Notice ที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง พร้อมแจ้งเตือนให้ทราบถึงข้อมูลสภาพอากาศ การเดินทาง และสาระประโยชน์อีกมากมาย โดยระบบจะสังเกต และปรับข้อมูลให้ตรงต่อพฤติกรรมของผู้ใช้ เช่น วิธีการเดินทางไปทำงาน Smart Notice สามารถแจ้งเตือนผู้ใช้ถึงข้อมูลต่างๆ ด้วยข้อความที่แม่นยำ ตรงต่อสถานการณ์ เช่น อาจเตือนให้ผู้ใช้นำร่มติดตัวไปด้วย ขณะที่เดินไปยังสถานีรถไฟใต้ดิน
Quick Help ช่วยให้ผู้ใช้สามารถหาคำตอบสำหรับข้อสงสัยในการใช้งาน LG G4 ได้ทันที ผ่านทางวิดเจ็ท Smart Notice โดยนอกจากจะมีคำอธิบายเกี่ยวกับการตั้งค่าต่างๆ แล้ว ยังสามารถช่วยนัดหมายให้ผู้ใช้โทรศัพท์ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าเพื่อขอคำแนะนำอีกด้วย
นอกจากนี้ แอลจีได้จับมือกับพันธมิตรหลายรายเพื่อร่วมกันเสริมให้ประสบการณ์การใช้งานสมาร์ทโฟน LG G4 โดย ทุกเครื่องจะมาพร้อมกับแอปชุด Google Office เพื่อการทำงานและติดต่อประสานงานในระหว่างเดินทาง โดยเจ้าของสมาร์ทโฟน LG G4 ทุกคนจะสามารถใช้พื้นที่เก็บข้อมูลในคลาวด์จาก Google Drive ได้ฟรีถึง 100GB เป็นเวลา 2 ปีเต็ม ส่วนคุณสมบัติ MirrorLink ยังช่วยให้ LG G4 ทำงานร่วมกับรถยนต์จากโฟล์คสวาเกนได้ โดยผู้ขับขี่รถยนต์จะสามารถใช้หน้าจอบนแผงคอนโซลรถเพื่อควบคุมฟังก์ชันด้านการโทรศัพท์ นำทาง และเปิด-ปิดเพลงบน LG G4 ได้
LG G4 จะเริ่มวางจำหน่ายในประเทศเกาหลีก่อนในวันที่ 29 เมษายนนี้ ก่อนจะเปิดตัวออกสู่ตลาดอื่นทั่วโลก ผ่านผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือกว่า 180 ราย โดยจะมีการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับราคาและช่องทางการจำหน่ายในแต่ละประเทศต่อไป
สำหรับในประเทศไทย บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด จะเปิดตัว LG G4 สุดยอดสมาร์ทโฟนแห่งปี 2015 ที่งาน Thailand Mobile Expo 2015 ในวันที่ 7 พฤษภาคม 2558 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ บูทแอลจี (ZL2) โซนพลาซ่า เวลา 14.10 น. เป็นต้นไป
Company Relate Link :
LG