พีซ ทีวี ขนทัพผู้บริหาร ทนาย และผู้ประกาศข่าวหญิง ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกรณีถูกมติบอร์ด กสท.ปิดช่องถาวร ลั่นขอความเป็นธรรม พร้อมถามหาความผิด ไม่เข้าใจว่าเสนอเนื้อหาขัดต่อความมั่นคงตรงไหน ชี้หาก กสทช.ไม่ทบทวนคำตัดสินจะเดินหน้าฟ้องศาลปกครองเพื่อให้คุ้มครองชั่วคราว และท้ายที่สุดหากไม่ได้รับความเป็นธรรมจากทุกฝ่าย คงต้องส่งเรื่องถวายฎีกา
วันนี้ (28 เม.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น.บริษัท พีซ เทเลวิชั่น จำกัด หรือพีซ ทีวี นำโดย นายอนันต์ศักดิ์ คำเก่า กรรมการผู้อำนาจ ทนายความ และผู้ประกาศข่าวหญิงอีก 4 คน เดินทางมายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม และโต้แย้งมติให้เพิกถอนใบอนุญาตให้บริการโทรทัศน์ ช่องรายการ พีซ ทีวี ต่อนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และนายสมบัติ ลีลาพตะ รักษาการรองเลขาธิการ กสทช.ด้านกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ (กสท.)
นอกจากการยื่นหนังสือดังกล่าวแล้ว ยังมีการสอบถามถึงเหตุผลในการปิดสถานีต่อเลขาธิการ กสทช.ด้วยว่า ไม่เข้าใจว่าเหตุผลที่ถูกสั่งปิดสถานีคืออะไร และข้อความในรายการตรงส่วนไหนที่บอกว่าเป็นการกระทำผิดซ้ำ มีการเสนอข่าวขัดต่อความมั่นคงของประเทศ และเหตุใดจึงไม่ให้โอกาสในการชี้แจงก่อนมีมติออกมา ทำให้ไม่มีโอกาสได้รับทราบถึงความผิด มีผลกระทบต่อการดำเนินกิจการของบริษัท ไม่ว่าจะเป็นพนักงานที่มีอยู่กว่า 100 คน รวมถึงผู้สนับสนุนรายการต่างๆ เพราะตั้งแต่สถานีถูกปิด 7 วัน เมื่อวันที่ 10-17 เม.ย.สถานีก็มีความระมัดระวังในการนำเสนอเนื้อหารายการมากขึ้น
ด้าน นายอนันต์ศักดิ์ กล่าวว่า เท่าที่ดูรายละเอียดของรายการที่เป็นสาเหตุในการถูกเพิกถอนใบอนุญาตครั้งนี้คือ รายการมองไกล ของนายจตุพร พรหมพันธุ์ นั้นยังไม่พบว่ามีเนื้อหาที่เข้าข่ายกระทำความผิดตามที่มติของ กสท.ระบุ ซึ่งบริษัทต้องการให้ กสทช.เปิดโอกาสให้ชี้แจงก่อนจะมีมติออกมาเช่นนี้ เพราะต่อไปจะมีผลต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท มีผลต่อผู้สนับสนุนรายการ เมื่อมีมติออกมาเช่นนี้สถานีระส่ำระสายมาก มีแต่คนโทร.เข้ามาสอบถาม
‘อย่างไรก็ตาม หากการยื่นหนังสือครั้งนี้ไม่เป็นผลก็จะดำเนินการฟ้องศาลปกครองเพื่อให้คุ้มครองชั่วคราว เมื่อท้ายที่สุดแล้วได้ดำเนินการเรียกร้องความเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายแล้วยังไม่เป็นผลอีก นายจตุพร ได้แจ้งว่าจะดำเนินการถวายฎีกาต่อไป’
ด้านเลขาธิการ กสทช.รับปากว่าจะนำหนังสือเสนอต่อประธาน กสทช.ก่อน เพื่อนำเข้าที่ประชุมให้ กสทช.พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ระหว่างนี้หากพีซ ทีวียังไม่ได้รับหนังสือแจ้งปิดสถานีอย่างเป็นทางการก็สามารถเปิดสถานีได้ตามปกติ ทั้งนี้ กสทช.ยืนยันว่าได้ดำเนินกระบวนการตามขั้นตอนที่ถูกต้องเนื่องจากกรณีนี้เป็นการทำผิดข้อตกลง (เอ็มโอยู) ที่ทำร่วมกันไว้ตามประกาศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และประกาศของ คสช.ถือเป็นกฎหมายที่ต้องปฏิบัติตาม ซึ่งมติของ กสท.ถือเป็นคำตัดสินสุดท้าย แต่เมื่อทางพีซ ทีวีมายื่นหนังสือคัดค้านตนเองก็จะนำหนังสือเสนอต่อประธาน กสทช.เพื่อให้พิจารณาว่าจะนำเรื่องดังกล่าวทบทวนในการประชุม กสทช.หรือไม่
อย่างไรก็ตาม กสทช.ยืนยันว่า ได้ดำเนินการตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง และมีทีมงานตรวจสอบเนื้อหารายการอย่างถูกต้องมีทีมทำงาน 14 เขต 14 ภาค ทำงานอย่างใกล้ชิด และก่อนหน้านั้นก็มีการแจ้งเตือนและปิดสถานีชั่วคราวมาแล้ว 7 วัน แต่กลับพบว่า ยังมีการนำเสนอเนื้อหาที่ขัดต่อเอ็มโอยู ซึ่ง กสทช.ไม่ได้จับผิดแค่ช่องใดช่องหนึ่ง ยังพบอีกหลายช่องทั้งเคเบิลทีวี ดาวเทียม ฟรีทีวี ดิจิตอลทีวี รวมถึงวิทยุชุมชน ต้องระวังด้วยคาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะพบสถานีที่กระทำผิดอีก
Company Related Link :
กสทช.